ร้อยไหมกรอบหน้า
การร้อยไหมกรอบหน้า คือการยกกระชับใบหน้าโดยการใช้ไหมละลายที่สามารถสลายเองได้ มาสอดลงในชั้นผิวหนังโดยการใช้เข็ม เมื่อร้อยไหมไปแล้วก็จะเกิดเป็นเส้นใยอิลาสตินเพื่อช่วยประคองผิวหรือพยุงผิว และช่วยกระตุ้นเซลล์ที่มีหน้าที่สร้างเส้นใยคอลลาเจน ทำให้ผิวหน้าเต่งตึงกระชับ มีกรอบหน้าชัดและกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตมาเลี้ยงชั้นผิวหนัง ลดริ้วรอยในอนาคตได้
สำหรับใครสนใจและกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการร้อยไหมกรอบหน้า ร้อยไหมกรอบหน้า ช่วยเรื่องอะไร? เหมาะกับใคร ? ร้อยไหม อันตรายไหม? ร้อยไหมกรอบหน้าแตกต่างจากการร้อยไหมปกติอย่างไร? หมอจะมาให้คำตอบในบทความนี้ครับ
สารบัญ ร้อยไหมกรอบหน้า
ร้อยไหมกรอบหน้า ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
- ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้กลับมาเต่งตึง
- เพิ่มกรอบหน้าชัด หน้าเรียววีเชฟ
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน เพื่อช่วยประคองผิวหรือพยุงผิว และช่วยกระตุ้นเซลล์ที่มีหน้าที่สร้างเส้นใยคอลลาเจน ทำให้ผิวหน้าเต่งตึงกระชับ ดูอ่อนเยาว์
- ลดริ้วรอยร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก เส้นร่องแก้มดูตื้นขึ้น
ร้อยไหมกรอบหน้า เหมาะกับใครบ้าง ?
- คนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวมากขึ้น มีกรอบหน้าชัด ปรับรูปหน้าให้กระชับขึ้น
- คนที่กลัวการผ่าตัด อยากเห็นผลลัพธ์เร็ว ไม่มีเวลาพักฟื้น
- คนที่มีแก้มหย่อนคล้อย แก้มห้อย ซึ่งปัญหานี้มักจะเกิดกับคนที่เริ่มมีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป เนื่องจากจำนวน Elastin ในชั้นผิวลดน้อยลง
- คนที่ยังมีอายุไม่เยอะ แต่รูปหน้ามีความหย่อนคล้อย ก็สามารถร้อยไหมได้เช่นกัน
ร้อยไหมกรอบหน้า อันตรายไหม ?
ร้อยไหมกรอบหน้า เป็นหัตถการที่ไม่อันตรายครับ เนื่องจากไหมที่ใช้เป็นไหมเกรดทางการแพทย์ที่ทำด้วยวัสดุ polydioxanone หรือ polycaprolactone สามารถละลายได้ 100% ไม่มีสารตกค้าง ไม่มีปฏิกิริยาต่อผิวหนัง ไม่มีผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อน ผ่านการรับรองความปลอดภัย จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทั้งในและต่างประเทศ
ร้อยไหมกรอบหน้าอันตรายส่วนใหญ่มักจะเกิดเลือกร้อยไหมกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ ใช้ไหมปลอม ไม่มีคุณภาพ หมอร้อยไหมผิดวิธี ใช้เทคนิคที่ไม่ถูกต้อง ในกรณีนี้จะทำให้เกิดการบวมเลือด หรือบวมน้ำ หน้าเบี้ยว หน้ายุบ ดูเป็นคลื่น หรือถ้าหากคลินิกใช้ไหมปลอมก็จะทำให้เกิดเป็นพังผืด และเป็นอันตรายในระยะยาว เนื่องจากไหมปลอมเป็นไหมที่ไม่สามารถละลายได้ครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม: ร้อยไหม อันตรายไหม ? หลังร้อยไหม มีผลข้างเคียงอะไรบ้างที่ควรรู้
ผลข้างเคียงจากการร้อยไหม ที่ควรรู้ ?
ผลข้างเคียงจากการร้อยไหม เป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ได้กับทุกคน เนื่องจากการร้อยไหมจะทำให้เนื้อเยื่อได้รับการกระตุ้น รู้สึกตึงผิวหน้าเหมือนไหมดึงรั้งในช่วงแรก แต่อาการเหล่านี้จะหายได้เองในช่วง 1-2 สัปดาห์ และสามารถใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ
หลังร้อยไหมทันทีจะมีอาการบวมแดง วันถัดไปอาจมีอาการเขียวช้ำในจุดที่ร้อยไหม อาการนี้จะหายไปเองใน 2-3 วัน ห้ามแกะ เกา หรือกดนวดบริเวณที่ร้อยไหม หากคนไข้รู้สึกปวด สามารถทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้ครับ
เข็มร้อยไหมแต่ละแบบ แตกต่างกันอย่างไร ?
เข็มร้อยไหมแต่ละแบบจะมีความแตกต่างกันตามลักษณะของเข็ม รวมไปถึงมีข้อดี ข้อเสียที่แตกต่างกัน เช่น เข็ม L, เข็มทู่, เข็มตัด และเข็มแหลม ดังนั้นก่อนร้อยไหมควรเลือกร้อยไหมกับหมอประสบการณ์ เพราะหมอจะเลือกใช้เข็มได้อย่างเหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงในการบวมเลือดและบวมน้ำครับ
- เข็ม L : เป็นเข็มที่มีลักษณะคล้ายตัว L ตามชื่อเรียก มีการพัฒนาต่อจากเข็มตัด
- เข็มทู่ : เป็นเข็มที่ใหญ่กว่าเข็มทู่ที่ใช้ฉีดฟิลเลอร์ ทำให้มีโอกาสเกิดการบวมน้ำได้ โดยเข็มจะผ่านเนื้อโดยการฉีกออกคล้าย ๆ การใช้มีดทื่อ ๆ ตัด ให้ความรู้สึกเจ็บมากกว่าเข็มแหลม แต่สามารถหลบเส้นเลือดใหญ่ ๆ ได้ แต่หากโดนเส้นเลือดเล็ก ๆ ก็ยังขาดอยู่ดีครับ
- เข็มตัด : เป็นเข็มกึ่งแหลมกึ่งทู่ ปลายเข็มมีลักษณะคล้ายหลอด มีความคมแต่ไม่ได้แหลมเท่าเข็มแหลม
- เข็มแหลม : จะตัดผ่านเนื้อคล้ายการใช้มีดคม ๆ ตัด ให้ความรู้สึกเจ็บน้อยกว่า บวมน้ำน้อยกว่าบวมเลือด หากโดนเข็มตัดผ่านเส้นเลือดเล็ก ๆ จะสมานได้ไวกว่าการใช้เข็มทู่ แต่ถ้าโดนเส้นเลือดใหญ่ก็จะมีโอกาสบวมเลือดได้ครับ ดังนั้นการใช้เข็มแหลมจำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์และความระมัดระวังของแพทย์สูง
สำหรับที่ V Square Clinic ทางคลินิกจะมีเข็มทุกแบบ โดยหมอจะเลือกใช้ให้เหมาะกับคนไข้แต่ละเคส เพื่อลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง มึความปลอดภัย และผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด เช่น ถ้าคนไข้เคยเป็นสิวหรือมีพังผืดเยอะ ก็จะเหมาะกับเข็มแหลมมากกว่าครับ
ร้อยไหมอะไรดีที่สุด ?
ร้อยไหมอะไรดีที่สุด อันดับแรกจะต้องใช้ไหมละลายครับ เพราะเป็นไหมที่มีความปลอดภัยและนิยมใช้มากที่สุด ซึ่งไหมละลายแต่ละชนิดจะทำจากวัสดุที่ต่างกัน รวมถึงมีลักษณะของไหมที่ต่างกันด้วย ซึ่งสามารถแบ่งได้ 3 ชนิดคือ คือ PDO, PLLA และ PCL
ไหมทั้ง 3 ชนิดนี้ได้รับการรับรองจาก FDA ทั้งในไทยและต่างประเทศว่ามีความปลอดภัย หลังร้อยไหมจะละลายตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้าง ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง จึงไม่อันตรายต่อร่างกายครับ
ไหมละลาย แบ่งตามชนิดของวัสดุ
- PDO (Polydioxanone) ไหมละลายเส้นสีน้ำเงิน เป็นไหมที่สามารถละลายหมดภายใน 4-5 เดือน มีอายุการใช้งานน้อยที่สุด ยืดหยุ่นปานกลาง นิ่ม ไม่เปราะ ขณะที่ร้อยจะไม่รู้สึกระคายเคือง
- PLLA (Polylactate) ไหมละลายเส้นสีขาวใส เป็นไหมที่สามารถละลายหมดภายใน 12-18 เดือน ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี แต่ขาดความยืดหยุ่น มีความแข็ง หลังร้อยไหมจะพบปัญหา ไหมขาด ไหมทะลุได้บ่อย ปัจจุบันจึงไม่ค่อยนิยมใช้
- PCL (Polycaprolactone) ไหมละลายเส้นสีขาวขุ่น เป็นไหมที่สามารถละลายหมดภายใน 18-24 เดือน เส้นไหมจะมีส่วนผสมของ PLLA จึงทำให้มีความยืดหยุ่นสูงที่สุด แข็งทน ไม่เปราะหักง่าย เส้นใหญ่ที่สุด
ไหม PCL+PLLA เป็นวัสดุเส้นไหมที่ดีที่สุดและนิยมใช้มากที่สุดในปัจจุบันครับ เนื่องจากเป็นไหมที่ถูกพัฒนาโดยการนำจุดเด่นของไหม PCL และไหม PLLA มาผสมกันในสัดส่วนที่พอเหมาะ ซึ่งที่ V Square Clinic จะเลือกใช้ ไหมก้างปลาที่ดีที่สุดเท่านั้นครับ
ไหมละลาย แบ่งตามลักษณะของเส้นไหม
ไหมละลายที่ใช้ในคลินิกส่วนใหญ่จะเป็นไหมเงี่ยง bidirectional barbed thread ทั้งสิ้น ที่ต้องตั้งชื่อให้แตกต่างกันเพราะเหตุผลทางการค้าเท่านั้นครับ
ไหมเรียบ (Mono threads)
- ไหมเรียบ ชื่ออื่น เช่น ไหมคอลลาเจน, ไหมมิราคุ, ไหมสเต็มเซล, ไหม ruby, ไหมทับทิม ฯลฯ
- เป็นไหมละลายเส้นเรียบที่ไม่มีเงี่ยงหรือเป็นเกลียว เป็นไหมชนิดแรกๆ ที่นำมาใช้
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนมาเติมผิวคล้ายๆ ฟิลเลอร์ ช่วยลดริ้วรอยในบางจุดช่วยให้ชั้นผิวฟูขึ้น ช่วยกระชับผิวได้เล็กน้อย
- มักใช้ร้อยเพิ่มเติมร่องใต้ตา ริ้วรอยหน้าผาก ลดความหย่อนคล้อยที่คอ
- ใช้ประมาณ 10-20 เส้นต่อหนึ่งจุดที่ทำ
- จะเห็นผลในช่วง 4-5 เดือน อยู่ได้ประมาณ 8 เดือน
ไหมเงี่ยง (Barbed threads/ Cog threads)
- ไหมเงี่ยง ชื่อทางการแพทย์คือ bidirectional barbed thread ชื่ออื่น เช่น ไหมก้างปลา,ไหมเงี่ยงกุหลาบ,ไหมก้างปลา 8D, ไหม Rose, ไหมฟันฉลาม, ไหมจระเข้, ไหมปิรันย่า, ไหมล็อค,ไหมค็อก ฯลฯ
- เป็นไหมละลายที่มีเงี่ยงยื่นออกมา แบ่งออกตามขนาดเส้นไหม คือไหมเงี่ยงใหญ่และไหมเงี่ยงเล็ก
- มีลักษณะเหมือนตะขอ มีทั้งแบบเงี่ยง 1 ทิศทางและ 2 ทิศทาง เมื่อสอดเข้าไปใต้ผิวหนัง จะดึงรั้งเนื้อเยื่อผิวได้ดี ใช้ในการยกกระชับแก้มที่หย่อน ลดแก้มตอบ เพิ่มความคมชัดให้กรอบหน้า และเป็นที่นิยม
- ใช้ประมาณ 6-12 เส้นต่อการยกกระชับแก้มทั้ง 2 ข้าง
- อยู่ได้ 4-12 เดือน ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้
ไหมเกลียว (Screw Threads /Tornado Threads)
- ไหมเกลียว ชื่ออื่น เช่น ไหมสปริง, ไหมทอร์นาโด ฯลฯ
- เป็นการใช้ไหม 1-2 เส้นพันเป็นเกลียวก่อนสอดเข้าใต้ผิวหนัง เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นไหม
- ใช้เพื่อเติมเต็มผิวที่ยุบ เป็นแอ่ง ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนให้เรียบตึงขึ้น ช่วยปรับรูปหน้า ริ้วรอยบางจุด หรือต้องการยกแก้มบริเวณแก้มส้ม
- ใช้ประมาณ 6-8 เส้นต่อหนึ่งจุดที่ทำ
- อยู่ได้ประมาณ 8 เดือน
ไหมกรวย (Silhouette Soft)
- ไหมกรวย ชื่ออื่น เช่น ไหมเทอร์โบ, ไหมโคน, ไหม Silhouette, ไหมกรวยซิลลูเอท, ไหม PGA
- เป็นไหมที่มีปมติดเป็นระยะ ๆ ลักษณะคล้ายโคนหรือกรวย
- ช่วยในการยกกระชับใบหน้า เห็นผลหลังทำทันที แต่ต้องใช้เข็มใหญ่ โอกาสบวมช้ำสูง จึงใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าไหมเงี่ยง
- ใช้ประมาณ 2-8 เส้น ต่อการทำแต่ละบริเวณ
- อยู่ได้ 8-10 เดือน
- ข้อเสียคือมีราคาสูง เมื่อเทียบกับไหมชนิดอื่น ๆ
ไหมมิ้นท์ (Mint Lift)
- ไหมมิ้นท์ เป็นไหมละลายชนิดล่าสุดที่ได้มีการพัฒนาเพื่อช่วยในเรื่องการยกกระชับหน้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- เส้นไหมจะมีลักษณะพิเศษคือสามารถหมุนได้ 360 องศา เพื่อช่วยในการยึดเกาะเนื้อเยื่อได้หลายทิศทาง
- ตัวไหมแข็งแรง ไม่เปราะง่าย เห็นผลดีในการยกกระชับหน้า ผ่าน อย.
- อยู่ได้ประมาณ 8-12 เดือน
ไหมตาข่าย (Tesslift Soft)
- ไหมตาข่าย เป็นไหมละลายที่มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องความแข็งแรงของเส้นไหม ทนแรงต้านได้ดีกว่าไหมทั่วไปถึง 80 เท่า
- การใช้ไหมตาข่าย 1 เส้น เทียบเท่ากับการร้อยไหม 2 เส้น ทำให้สามารถช่วยในเรื่องการยกกระชับและพยุงผิวที่หย่อนคล้อยได้ดี
- ผ่านการรับรองจาก CE Approved (European Conformity)
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เห็นผลเร็วและอยู่ได้นาน
- อยู่ได้ประมาณ 8-12 เดือน
ร้อยไหมแบบไหนดีสุด อันดับแรกคือควรให้หมอประเมินใบหน้า และวิเคราะห์โครงหน้าของคนไข้ และเลือกชนิดของไหม จำนวนไหมที่ใช้ เพื่อลดเกิดการบวมช้ำน้อยที่สุด และได้ผลออกมาดูเป็นธรรมชาติครับ
ข้อปฏิบัติตัว ก่อน-หลัง ร้อยไหม เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้น
ข้อปฏิบัติตัว ก่อนร้อยไหม
- ศึกษาข้อมูลความรู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับการร้อยไหมอย่างละเอียด เช่น การเลือกคลินิก การเลือกหมอ และเทคนิคในการทำ เพื่อผลลัพธ์ที่ดี ปลอดภัย และช่วยลดความกังวล เกี่ยวกับผลข้างเคียงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้
- ควรงดยา แอสไพริน, NSAIDs เช่น ibruprofen diclofenac ponstan เป็นเวลา 1 อาทิตย์ก่อนทำหัตถการ และควรปรึกษาแพทย์ที่รักษาอยู่ก่อนที่จะหยุดยานั้นๆ
- ควรงดวิตามิน St. Johns Wort, ginko biloba, primrose oil, garlic, ginseng, and Vitamin E เป็นเวลา 1 อาทิตย์ก่อนทำหัตถการ
- ควรงดยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิว เช่น Tretinoin (Retin-A), Retinols, Retinoids, Glycolic Acid, หรือครีมในกลุ่ม “Anti-Aging” ทุกชนิด เป็นเวลา 3 วันก่อนทำหัตถการ
- ควรงดการแว็กผิว ผลัดเซลล์ผิว การดึงขนหรือโกนขนในบริเวณนั้นๆ เป็นเวลา 3 วันก่อนทำหัตถการ
- หากมีคอร์สทำหน้านวดหน้าหรือเลเซอร์ต่างๆ ที่ต้องทำเป็นประจำ ควรทำมาก่อนอย่างน้อย 3 วันก่อนร้อยไหม เพราะหลังทำต้องเว้นไปอีก 2 อาทิตย์
- หากมีโรคประจำตัว หรือยาที่กินเป็นประจำอื่นๆ ควรเตรียมข้อมูลไว้เพื่อแจ้งกับแพทย์ก่อนที่จะทำหัตถการ
- ควรงดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด 24 ชม. ก่อนทำ เช่น เข้าซาวน่า ออกกำลังกายชนิด cardio
- ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชม. ก่อนทำ
ข้อปฏิบัติตัว หลังร้อยไหม
- ห้ามแตะ แกะเกา การกดนวดในจุดที่ร้อยไหม เพราะอาจทำให้ไหมเคลื่อนที่ และยากต่อการแก้ไข
- ไม่ควรประคบเย็น หากมีอาการปวดมาก ควรปรึกษาแพทย์หรือประคบเย็นตามแพทย์สั่งเท่านั้น
- สามารถล้างหน้า แต่งหน้าได้ตามปกติ แต่งดทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน
- เลี่ยงแสงแดด หรือทำกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เช่น อบซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ หรือกิจกรรมที่ต้องอยู่หน้าเตาเป็นเวลานาน ๆ เป็นเวลา 3 วันหลังทำ
- งดการนวดหน้า เลเซอร์ หรือหัตถการอื่นๆ บริเวณใบหน้า เป็นเวลา 14 วัน
- หากเป็นเลเซอร์ร้อนลงผิวชั้นลึก RF หรือ Thermage ควรเว้นอย่างน้อย 1 เดือน
- เพื่อป้องกันการร้อยไหมแล้วไหมเคลื่อน อย่าขยับใบหน้าเยอะโดยเฉพาะในช่วง 3 วันหลังทำ หากมีอาการผิดปกติบวม ช้ำ เจ็บมาก ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
หลังร้อยไหม ห้ามกินอะไร ?
- เลี่ยงอาหารที่มีความร้อนหรืออาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาเป็นเวลานาน ๆ เช่น ปิ้งย่าง หมูกระทะ จิ้มจุ่ม เพราะความร้อนทำให้เลือดหมุนเวียนบนใบหน้ามากขึ้น อาจเกิดการอักเสบมากขึ้นได้
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เหล้า เบียร์ ไวน์ น้ำหมัก แนะนำให้งดไปก่อน 14 วันหลังร้อยไหม หรือถ้าหากใครที่อยากดื่มจริง ๆ หรือเลี่ยงไม่ได้ก็ควรเว้นระยะ 2-3 วัน
- อาหารที่มีรสหวานจัด เช่น ลูกกวาด น้ำหวาน น้ำอัดลม ชานมไข่มุก เพราะจะกระตุ้นกระบวนการอักเสบได้
- ควรงดสูบบุหรี่ ในบุหรี่มีสารหลายชนิดที่ขยายหลอดเลือด จะทำให้ยุบบวมช้า และผลการรักษาอยู่ได้สั้นลง
- เลี่ยงอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ จำพวกปลาดิบ หอยสด ไข่ดิบ เนื้อที่ปรุงไม่สุก มักมีสิ่งปนเปื้อนอย่างพยาธิหรือเชื้อโรคที่ส่งผลให้แผลที่เกิดจากรอยเข็มหายช้า หรือทำให้แผลติดเชื้ออักเสบ
- เลี่ยงอาหารหมักดอง อย่างเช่น ผลไม้ดอง ผักดอง ปลาร้า เนื่องจากอาหารที่มีกรรมวิธีในการดองมักจะมีสิ่งปนเปื้อน ที่อาจจะไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของรอยเข็มได้
“ ข้อควรรู้ : มีหลายงานวิจัยที่ระบุว่าสารชื่อ bromelain ที่อยู่ในแกนสัปปะรด สามารถกินเพื่อช่วยให้อาการปวดบวมช้ำหลังจากร้อยไหมหายได้ไวขึ้นได้ ”
รีวิว ร้อยไหมยกกระชับหน้า
ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมในเคสนี้ คนไข้มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ทำให้ดูแก่กว่าวัย
หลังทำทันที ผิวบริเวณกรอบหน้ายกกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หน้าเด็กลง
ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมในเคสนี้ คนไข้มีปัญหาแก้มหย่อนคล้อย ไม่มีมิติ
หลังทำทันที ใบหน้ายกกระชับขึ้น หน้าเรียวขึ้น
ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมในเคสนี้ มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด หน้าไม่มีมิติ
หลังทำทันที กรอบหน้าชัด ใบหน้ายกกระชับขึ้น ริ้วรอยจางลง
ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมในเคสนี้ คนไข้มีปัญหาหน้าไม่มีมิติ กรามใหญ่ มีแก้มห้อย ทำให้หน้าดูไม่กระชับ
หลังทำทันที ใบหน้าดูเรียวขึ้น แก้มกระชับ ดูอ่อนกว่าวัย
ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมในเคสนี้คนไข้มีปัญหาร่องแก้มลึก แก้มห้อยย้อย
หลังทำทันที แก้มยกกระชับ ริ้วรอยร่องแก้มจางลง ใบหน้าเรียวสวยเข้ารูป
ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมในเคสนี้คนไข้มีปัญหาหน้าหย่อนคล้อย มีร่องแก้มลึก แก้มห้อยย้อย
หลังทำทันที ริ้วรอยร่องแก้มดูตื้นขึ้น ใบหน้ายกกระชับ ดูอ่อนกว่าวัย
ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมในเคสนี้คนไข้มีปัญหาแก้มห้อยย้อย หน้าไม่กระชับ ทำให้ดูแก่กว่าวัย
หลังทำทันที ใบหน้ายกกระชับ กรอบหน้าชัด ร่องแก้มตื้นขึ้น ดูเด็กลง
ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมก้างปลา ในเคสนี้คนไข้มีปัญหาหน้ากรามใหญ่ มีแก้มห้อยย้อย ส่งผลให้หน้าไม่เรียว
หลังทำทันที ใบหน้าดูเรียวเป็นวีเชฟขึ้น แก้มกระชับ ริ้วรอยจางลง
ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมก้างปลา ในเคสนี้คนไข้มีปัญหาแก้มย่อน ห้อย มีร่องแก้ม ร่องใต้ตา
หลังทำทันที ใบหน้ายกกระชับขึ้น แก้มถูกยกทำให้ร่องแก้มตื้นขึ้น ใต้ตาเต็ม ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย
ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมก้างปลา ในเคสนี้คนไข้มีความกังวลเรื่องร่องแก้ม ร่องมุมปาก จึงแนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์และร้อยไหมดึงแก้มควบคู่กัน
หลังทำทันที ร่องแก้มตื้นขึ้น มุมปากยกและแก้มส่วนล่างถูกดึงขึ้นไป ใบหน้าโดยรวมดูเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด
สรุป
การร้อยไหมกรอบหน้า ไม่เพียงแต่ช่วยยกกระชับใบหน้า ลดความหย่อนคล้อย มีกรอบหน้าชัด ปรับหน้าเรียวเป็น V shape ดูมีสัดส่วน ผิวดูเต่งตึง อ่อนกว่าวัยโดยที่ไม่ต้องผ่าตัดเท่านั้น แต่หลังร้อยไหมยังช่วยสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวหน้าเต่งตึงกระชับ และกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตมาเลี้ยงชั้นผิวหนัง แต่ทั้งนี้คนไข้ควรปรึกษาหมอเพื่อให้หมอประเมินหน้าก่อนว่าเหมาะจะทำการร้อยไหมหรือไม่ โดยคนไข้สามารถเข้ามาปรึกษากับหมอโดยตรงได้ครับ