ฟิลเลอร์ไหล
ปกติการฉีดฟิลเลอร์จะไม่ไหลย้อย เพราะฟิลเลอร์แท้เป็นสารไฮยาลูรอนิค แอซิด ที่มีความยืดหยุ่น คงตัว คงรูปได้ดี หลังฉีดจะค่อย ๆ กลืนไปกับผิว สลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ไหลย้อย ไม่ทำให้หน้าเสียทรงหรือเปลี่ยนรูป
แต่ก็ใช่ว่าการฉีดฟิลเลอร์จะไม่มีโอกาสเกิดฟิลเลอร์ไหล บทความนี้หมอจะมาอธิบายให้เข้าใจกันว่า ฉีดฟิลเลอร์แล้วฟิลเลอร์ไหล เกิดจากอะไร ? และจะมีวิธีสังเกตอาการฟิลเลอร์ไหลอย่างไร ? ป้องกันได้ไหม ? เพื่อผลลัพธ์ที่ดีหลังฉีดฟิลเลอร์ ไม่ต้องเสียความรู้สึก เสียเงิน เสียเวลาไปแก้ไขกันภายหลัง
สารบัญ ฟิลเลอร์ไหล
ฟิลเลอร์ไหล คืออะไร มีลักษณะอาการเป็นอย่างไร ?
ฟิลเลอร์ไหล ลักษณะอาการก็ตามชื่อเลยครับ คือการที่ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าสู่ผิวไปแล้วเกิดการไหลย้อย บางครั้งเรียกว่าฟิลเลอร์ย้อย เป็นผลข้างเคียงหลังฉีด Filler ที่ไม่ควรเกิด เพราะโดยปกติฟิลเลอร์เข้าที่ก็จะคงรูปในตำแหน่งที่ฉีด
การที่ฟิลเลอร์ไหลย้อยมากองรวมกันเป็นก้อน กระจายตัวไปบริเวณใกล้เคียง หรือเกิดการอักเสบ บวมแดง จึงถือเป็นความผิดปกติ โดยลักษณะอาการเหล่านี้จะไม่ได้ปรากฏให้เห็นหลังฉีดฟิลเลอร์ในทันที เช่น ในกรณีที่คนไข้ไปฉีดฟิลเลอร์ปลอมมา ผ่านไป 3-5 ปี อาการถึงจะปรากฏให้เห็น เพราะฟิลเลอร์ที่ฉีดไม่สลายไปตามธรรมชาติ และเปลี่ยนรูปร่าง คนไข้จะรู้ว่าฟิลเลอร์ไหลก็ต่อเมื่อมีผลข้างเคียงแสดงออกมา
ฟิลเลอร์ไหล เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง ?
ฟิลเลอร์ไหลเกิดได้จากหลายสาเหตุ ที่น่ากลัวและเป็นอันตราย คือ ฉีดฟิลเลอร์ปลอม ซึ่งฟิลเลอร์ปลอมในที่นี้หมอหมายรวมถึงฟิลเลอร์หิ้ว ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ฟิลเลอร์ที่ไม่ผ่าน อย. ทั้งหมดนี้ไม่สามารถการันตีความปลอดภัยได้
นอกจากฟิลเลอร์ที่ฉีดแล้ว ฟิลเลอร์ไหล ยังเกิดได้อีกหลาย ๆ สาเหตุ เคสที่ฉีด Filler จากที่อื่นมา (เคสแก้) หมอจะสอบถามข้อมูลจากคนไข้อย่างละเอียด ตรวจวิเคราะห์ใบหน้า เพื่อหาสาเหตุและแนะนำวิธีแก้ไขที่เหมาะสม
ฟิลเลอร์ไหลจากการใช้ฟิลเลอร์ปลอม
ตัวอย่างมีให้เห็นกันอยู่ครับ ถ้าเป็นในอดีตข่าวเกี่ยวกับฟิลเลอร์ปลอมที่ได้ยินบ่อย ๆ จะเป็นจำพวกซิลิโคนเหลว พาราฟิน ที่นิยมฉีดกันเพราะมีราคาถูก ไม่สลายตามธรรมชาติ เมื่อระยะเวลาผ่านไป จะจับตัวเป็นก้อนแข็งหรือไหลย้อยผิดทิศทาง หรือเกิดการเน่า อักเสบ นูน แดง ปวด บวม ร้อน มีตุ่ม มีก้อนหนองบริเวณที่ฉีด
ปัจจุบันฟิลเลอร์ปลอมประเภทนี้ ไม่ได้รับความนิยมแล้ว เพราะคนไข้มีความรู้เกี่ยวกับฟิลเลอร์มากขึ้นว่าต้องฉีดฟิลเลอร์ที่เป็น HA เท่านั้นถึงจะปลอดภัย แต่ก็ใช่ว่าฟิลเลอร์ประเภทนี้จะหมดไป ถ้าฉีดกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน ก็ยังมีความเสี่ยงอยู่ครับ
นอกจากนี้ยังมีฟิลเลอร์หิ้ว แม้จะเป็นฟิลเลอร์แท้ HA Filler ก็จริง แต่นำเข้ามาไม่ถูกต้อง ไม่ได้เก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม อาจมีการปนเปื้อน หรือเสื่อมคุณภาพ เป็นฟิลเลอร์ที่ไม่ควรฉีดเช่นเดียวกันครับ
กาารฉีดฟิลเลอร์ที่ปลอดภัย อย.ไทย หรือ Thai FDA รับรอง จะต้องเป็นฟิลเลอร์ประเภทไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ HA Filler เท่านั้น ถ้านำสารอื่น ๆ มาฉีด จะถือเป็นสารแปลกปลอม หรือฟิลเลอร์ปลอม ไม่สามารถรับรองความปลอดภัยได้
ฟิลเลอร์ไหลจากการฉีดโดยแพทย์ที่ขาดประสบการณ์
ถ้าฉีดฟิลเลอร์กับหมอที่ขาดประสบการณ์ ใช้เทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้อง ยี่ห้อฟิลเลอร์ รุ่นฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับตำแหน่งที่ฉีด หรือใช้ปริมาณฟิลเลอร์มากเกินความจำเป็น จะทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ หรือเกิดปัญหาฟิลเลอร์ไหลย้อยลงเมื่อเวลาผ่านไป
ตัวอย่างเช่น การฉีดฟิลเลอร์คาง หมอที่ฉีดต้องรู้เทคนิคการฉีดและฉีดให้ถูกชั้นผิว ไม่ควรฉีดชั้นตื้นเกินไป ที่เหมาะสมคือจะต้องฉีดชั้นใต้กล้ามเนื้อที่อยู่ลึกลงไป และต้องระวังไม่ให้ฉีดโดนมัดกล้ามเนื้อ Mentalis เพราะจะดึงฟิลเลอร์ไหลมากองรวมกัน แม้จะไม่อันตรายเท่ากับการฉีดฟิลเลอร์ปลอม แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะออกมาไม่สวย เวลาพูดหรือยิ้ม จะเห็นคางยาว คางย้อยคล้ายแม่มด
ฟิลเลอร์ขึ้นชื่อเรื่องความเป็นธรรมชาติ ฉีดแล้วต้องดูดีขึ้น ดูสวยขึ้น ประสบการณ์ของแพทย์ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่คนไข้ควรตระหนัก เพราะไม่ใช่หมอทุกคนจะจับเข็มฉีดฟิลเลอร์ได้ครับ ต้องผ่านการอบรมเทรนนิ่งจนมีความชำนาญด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้ามาโดยเฉพาะ และรู้วิธีแก้ไขอย่างทันท่วงที ในกรณีที่เกิดปัญหาหลังฉีด
ฟิลเลอร์ไหล ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน เกิดจากสาเหตุเดียวกันไหม ?
ฟิลเลอร์ไหล กับ ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน เป็น 2 ปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์ที่มักได้ยินอยู่ด้วยกันตลอดเมื่อพูดถึงปัญหาใดปัญหาหนึ่ง เพราะเป็นปัญหาที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน เกิดจากสาเหตุเดียวกันได้ พอฟิลเลอร์เป็นก้อน นานวันเข้าก็จะไหลย้อยผิดรูป
ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน
สาเหตุจากฟิลเลอร์ปลอม หมอได้อธิบายไปข้างต้นว่าไม่ควรฉีดเด็ดขาด เพราะเมื่อเวลาผ่านไปจะเป็นก้อน ไหลย้อย และอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อนที่พบได้บ่อย คือ ใช้ปริมาณฟิลเลอร์มากเกินความจำเป็น เติมฟิลเลอร์เยอะเกินไปจนทำให้หน้าแน่น ดูไม่เป็นธรรมชาติ ใบหน้าผิดสัดส่วน หรือที่เรียกว่า Facial Overfilled Syndrome ซึ่งพบได้ในหลาย ๆ ตำแหน่งที่ฉีดฟิลเลอร์ เช่น
- ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแล้วเป็นก้อนนูนปูด เหมือนหัวปลาทองหรือปลาหมอสี
- ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นปากหนา เจ่อ บาน คล้ายปากเป็ด
- ฉีดฟิลเลอร์คางแล้วคางแหลม คางยาวเกิน จนหน้าเป็นแม่มด
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อนบวม ไหลลงมากอง มองเหมือนเป็นถุงใต้ตา
เวลาคนไข้มาพบหมอแล้วบอกว่า “เติมเยอะ ๆ เลยค่ะ/ครับหมอ อยากหน้าแน่น ๆ” หมอก็ต้องอธิบายให้คนไข้เข้าใจก่อนครับว่า การฉีดฟิลเลอร์ไม่จำเป็นว่าต้องเติมทีละมาก ๆ ในครั้งเดียว เพราะอาจทำให้หลังฉีดเป็นก้อนได้
แต่ละตำแหน่งจะมีปริมาณการฉีดที่เหมาะสม ที่ดูแล้วว่าสวยเป็นธรรมชาติ ไม่เยอะหรือเวอร์จนเกินไป สามารถทยอยเติมได้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม (หมอจะประเมินเป็นรายเคส) เพราะถ้าฉีดออกมาแล้วไม่สวย ไม่ชอบ ผลลัพธ์ไม่ได้ตามต้องการ ก็จะต้องมาฉีดสลายฟิลเลอร์ออกอยู่ดีครับ
ฉีดฟิลเลอร์แล้วพบว่าฟิลเลอร์ไหล ส่งผลเสียอะไรบ้าง ?
- เสียความรู้สึก : คนไข้ที่มาฉีดฟิลเลอร์ มาพร้อมความคาดหวังที่จะดูดีขึ้น ดูสวยขึ้น เหมือนตามที่เห็นจากรีวิวฉีดฟิลเลอร์ของคลินิกต่าง ๆ ไม่ได้เตรียมใจว่าฉีดแล้วจะฟิลเลอร์ไหลหรือเป็นก้อน เมื่อเกิดปัญหาขึ้น ก็ทั้งเสียใจ เสียความรู้สึก ไม่มั่นใจมากกว่าเดิม
- เสียเงิน : ไม่ว่าจะฉีดฟิลเลอร์ปลอม หรือฉีดฟิลเลอร์แท้ ถ้าหลังฉีดฟิลเลอร์ผลลัพธ์ออกมาไม่สวย เกิดปัญหาหรือผลข้างเคียงตามมาภายหลัง ย่อมไม่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป จะจ่ายถูกหรือแพง ก็เหมือนเสียเงินไปฟรี ๆ ครับ
- เสียเวลา : เมื่อฟิลเลอร์ไหลก็ต้องหาวิธีแก้ไข นอกจากจะเสียเงิน เสียความรู้สึกแล้ว ยังเสียเวลาเดินทางไปคลินิก/โรงพยาบาล เพื่อให้หมอดูว่าจะแก้ไขฟิลเลอร์ไหลวิธีไหน แก้ได้ไหม ให้ผิวบริเวณที่ฉีดกลับมาเป็นเหมือนเดิมหรือใกล้เคียงเดิมมากที่สุด
ฟิลเลอร์ไหล สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีใดบ้าง ?
ปัจจุบันการแก้ไขฟิลเลอร์ไหล ทำได้ 3 วิธี หมอจะต้องประเมินก่อนว่าฟิลเลอร์ที่ฉีดเป็นฟิลเลอร์ประเภทไหน ใช้ฟิลเลอร์ HA หรือไม่ ฉีดไปนานหรือยัง มีหลาย ๆ เคสครับที่พอเกิดปัญหาฟิลเลอร์ไหลย้อย หรือเป็นก้อนแข็ง ไม่แน่ใจว่าฉีดฟิลเลอร์อะไร ฉีดไปกี่ CC แต่ถ้าประเมินระยะเวลาดูแล้ว 3-5 ปี ฟิลเลอร์ยังสลายไม่หมด แสดงว่าเป็นฟิลเลอร์ปลอม ซึ่งวิธีแก้ไขจะแตกต่างกัน มาดูแต่ละวิธีกันครับ
1. ฉีดสลายฟิลเลอร์
การฉีดสลายฟิลเลอร์ (Dissolving Filler) เป็นวิธีที่ไม่อันตรายครับ ขั้นตอนฉีดสลายฟิลเลอร์ หมอจะฉีดตัวยาเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase : HYAL) เพื่อแก้ไขปัญหาฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน หรือฟิลเลอร์ไหลย้อยได้รูปทรงไม่สวย ไม่พอใจในผลลัพธ์
- ฟิลเลอร์แท้ ฉีดสลายออกได้หมด 100%
- ตัวยาออกฤทธิ์ทันทีหลังฉีดไปจนถึง 48 ชั่วโมง
- อาจมีอาการบวมเข็มเล็กน้อย หายได้เองใน 7 วัน
- ฟิลเลอร์จะยุบ และละลายเป็นน้ำซึมไปตามผิวหนัง
- แพทย์จะนัดคนไข้เข้ามาเพื่อดูผลอีกครั้ง
ในกรณีฉีดฟิลเลอร์แท้ ถ้ามีปัญหาหลังฉีด ส่วนใหญ่คลินิกที่ฉีดจะแก้ให้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ถ้าคนไข้ไม่อยากกลับไปฉีดที่คลินิกเดิมแล้วเพราะรู้สึกเฟล ไปฉีดกับคลินิกใหม่ หมอคนใหม่ ก็จะมีค่าตัวยาฉีดสลายฟิลเลอร์ ค่ามือหมอที่ต้องจ่ายเพิ่ม (ที่ V Square Clinic ราคาค่าฉีดสลายจุดละ 2,500 บาท หมอจะพิจารณาราคาตามปริมาณยาอีกครั้ง)
2. ขูดฟิลเลอร์
ขูดฟิลเลอร์จะใช้ในกรณีฉีดฟิลเลอร์ปลอม จำพวกสารแคลเซียม ไฮดรอกซีอะพาไทต์ (Calcium Hydroxyapatite) สารโพลีอัลคิลลิไมด์ (Polyalkylimide) จัดอยู่ในกลุ่มฟิลเลอร์กึ่งถาวร อยู่ได้นาน 3-5 ปีขึ้นไป อย.ไทย ยังไม่รับรองความปลอดภัย เพราะไม่สามารถสลายได้หมด 100% เหมือนฟิลเลอร์แท้ ฉีดสลายก็ไม่ได้ครับ ต้องขูดฟิลเลอร์ออก
- ฟิลเลอร์ปลอม ขูดออกได้บางส่วน 60-70%
- ขั้นตอนขูดฟิลเลอร์ หมอจะทำความสะอาดผิวคนไข้ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
- ฉีดยาชา ลดความเจ็บขณะใช้เครื่องมือเปิดผิว เพื่อขูดฟิลเลอร์
- ลักษณะของฟิลเลอร์ที่ขูด จะเป็นก้อน ๆ เจล ๆ ปนเลือดออกมา
- ขนาดของแผลผ่าตัดขึ้นอยู่กับขนาดของปัญหาในบริเวณนั้น ๆ
- แพทย์จะนัดคนไข้เข้ามาเพื่อดูผลอีกครั้ง
3. ผ่าตัดฟิลเลอร์ออก
การผ่าตัดฟิลเลอร์ออก จะใช้ในกรณีที่ฟิลเลอร์เป็นก้อนขนาดใหญ่และแข็งมาก ฉีดมานานจนเป็นพังผืดเกาะ ฟิลเลอร์ประเภทนี้เป็นสารแปลกปลอม จำพวกสาร PMMA (Polymethyl Methacrylate) ซิลิโคนเหลว พาราฟิน เมื่อฉีดแล้วจะอยู่ถาวรในร่างกาย การจะเอาสารแปลกปลอมเหล่านี้ออกมาต้องผ่าตัดเลาะออกมา แต่เอาออกได้ไม่ทั้งหมด ต้องทำโดยศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อไม่ให้โดนเส้นเลือด เส้นประสาท ซึ่งจะส่งผลต่อการขยับใบหน้า
- ฟิลเลอร์ปลอมเป็นก้อนขนาดใหญ่ ผ่าตัดออกได้ไม่ทั้งหมด
- ขั้นตอนผ่าตัดฟิลเลอร์ออก หมอจะทำความสะอาดผิวคนไข้ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
- ฉีดยาชา ลดความเจ็บขณะผ่าตัดเลาะฟิลเลอร์ออก
- เปิดผิวและใช้เครื่องมือทางการแพทย์เข้าไปเลาะฟิลเลอร์ออก
- ขนาดของแผลผ่าตัดขึ้นอยู่กับขนาดของปัญหาในบริเวณนั้น ๆ
- แพทย์จะนัดคนไข้เข้ามาเพื่อดูผลอีกครั้ง
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดฟิลเลอร์ไหลย้อย มีวิธีไหนบ้าง ?
การป้องกันฟิลเลอร์ไหลที่ดีที่สุด ต้องเริ่มตั้งแต่ก่อนฉีดฟิลเลอร์ เลือกคลินิก เลือกหมอฉีดฟิลเลอร์ที่มั่นใจได้ และใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น
วิธีป้องกันฟิลเลอร์ไหล ฟิลเลอร์ย้อย
- เลือกคลินิกได้มาตรฐาน ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข
- ฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ ปรับรูปหน้า รู้เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่ถูกต้อง เพื่อลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียง
- ฉีดฟิลเลอร์แท้ประเภท Hyaluronic Acid สลายได้ 100% ไม่มีสารตกค้าง ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
- เช็กก่อนว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ มีเลขทะเบียน อย. เอกสารกำกับภาษาไทย เลข lot ที่กล่องตรงกันทุกจุด นำกล่องฟิลเลอร์กลับบ้านและนำไปตรวจสอบกับบริษัทนำเข้า
ฉีดฟิลเลอร์แท้ ป้องกันปัญหาฟิลเลอร์ไหลย้อย อย่างได้ผล
ฉีดฟิลเลอร์แท้ มีหลายข้อดีครับ หลัก ๆ คือ เรื่องความปลอดภัย สลายได้เองใน 1-2 ปี (ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ รุ่นฟิลเลอร์ที่เลือกใช้) ไม่ตกค้างในร่างกาย หมอจึงเน้นย้ำให้คนไข้ศึกษาวิธีดูฟิลเลอร์แท้ก่อนจะตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์กับที่ไหน เพราะถ้าแยกออกว่าอันไหนฟิลเลอร์แท้ อันไหนฟิลเลอร์ปลอม จะได้เลือกถูก ป้องกันปัญหาฟิลเลอร์ไหลหรือผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่เป็นอันตราย
วิธีตรวจสอบฟิลเลอร์แท้
ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อจะมีวิธีเช็กที่แตกต่างกัน คนไข้สามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเองครับว่าฟิลเลอร์ของคลินิกนั้นเป็นฟิลเลอร์แท้ที่ผ่าน อย. หรือไม่ หมออธิบายสรุปไว้ในคลิปด้านล่าง
สรุป
การฉีดฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็ม ยกกระชับ ปรับรูปหน้า แต่ถ้าฉีดแล้วฟิลเลอร์ไหล ฟิลเลอร์ย้อย อันนี้ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง ก่อนฉีดฟิลเลอร์จึงต้องหมั่นดู หมั่นศึกษาเยอะ ๆ เพราะปัญหาฟิลเลอร์ไหลสามารถป้องกันได้ และการฉีดฟิลเลอร์นั้นก็ไม่ได้น่ากลัวเลยครับ ฉีดฟิลเลอร์แท้ มีความปลอดภัย ได้ผลลัพธ์คุ้มค่า หรือถ้าหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับฟิลเลอร์ ควรสอบถามกับหมอโดยตรงครับ จะได้ข้อมูลที่ถูกต้อง เชื่อถือได้ครับ
อ้างอิง :