ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ปัญหาถุงใต้ตา ใต้ตาคล้ำ ตาโหล ขอบตาลึก ริ้วรอยใต้ตา เป็นอีกหนึ่งปัญหาบนใบหน้าที่เลี่ยงได้ยาก และสามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย ซึ่งนอกจากเป็นตัวการหลักทำให้หน้าดูโทรม ไม่สดใส ดูแก่กว่าวัยแล้ว ยังทำให้เจ้าของใบหน้าสูญเสียความมั่นใจได้อีกด้วยเช่นกัน
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นหัตถการเสริมความที่สามารถแก้ปัญหาใต้ตาได้อย่างตรงจุด หลังฉีดเห็นผลทันที ไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาพักฟื้น ต้องการใช้หน้าเลย ในบทความนี้หมอจะมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ใต้ตาครับว่า ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาครั้งแรก ต้องรู้อะไรบ้าง? เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจสำหรับคนที่กำลังสนใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาครับ
สารบัญ ฟิลเลอร์ใต้ตา
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร ?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือการฉีดสารเติมเต็มไฮยาลูรอนิค แอซิด Hyaluronic Acid เข้าไปในบริเวณใต้ตาที่มีปัญหา ด้วยคุณสมบัติของฟิลเลอร์ที่มีความอุ้มน้ำ หลังฉีดจึงทำให้ใต้ตามีความเรียบเนียน ใต้ตาตื้นขึ้น รอยคล้ำใต้ตาและริ้วรอยรอบดวงตาจางลง มีความชุ่มชื้น อีกทั้งฟิลเลอร์ยังสามารถชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้ครับ
ฟิลเลอร์ จัดเป็นสารเติมเต็มที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย สามารถฉีดได้เรื่อยๆ และสลายหมด 100% โดยไม่มีสารตกค้าง หากต้องการแก้ไขก็สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ และเมื่อฟิลเลอร์สลายหมด ก็สามารถกลับมาฉีดได้เรื่อยๆ เนื่องจากเป็นหัตถการที่ปลอดภัย ไม่ทำให้เกิดการแพ้ มีความคงตัว และอยู่ในร่างกายได้เป็นเวลานานครับ
ใต้ตาคล้ำเกิดจากสาเหตุอะไร ?
- พฤติกรรมที่ก่อให้เกิดรอยคล้ำใต้ตา เช่น การขยี้ตา , พักผ่อนน้อย , ความเครียด
- ขอบตาดำ ที่เกิดจากโรคภูมิแพ้ เนื่องจากระบบการไหลเวียนเลือดติดขัด จนทำให้เส้นเลือดบริเวณผิวหนังใต้ตาขยายตัว
- ปัญหาใต้ตาจากพันธุกรรม หรือการเจริญเติบโตของกระดูกช่วงเบ้าตาและใต้ตาไม่ดี ทำให้เกิดถุงใต้ตา ร่องใต้ตา
- ชั้นไขมันใต้ตาเกิดการยุบตัว หรือฝ่อบางลง เนื่องจากอายุที่มากขึ้น จนเกิดเป็นเบ้าใต้ตาหรือใต้ตาลึก
วิธีแก้ไข ถุงใต้ตา ใต้ตาคล้ำ มีวิธีใดบ้าง
การแก้ปัญหาใต้ตาที่ยิยมส่วนใหญ่แล้วจะมีด้วยกันสองวิธีครับ คือรักษาใต้ตาแบบวิธีธรรมชาติและรักษาแบบทางการแพทย์ครับ
การทาครีมบำรุงใต้ตา
การทาครีมบำรุงคือตัวเลือกแรกๆ ที่หลายคนนึกถึงครับ เพราะเป็นวิธีที่สะดวก ไม่ซับซ้อน สามารถหาซื้อได้ง่าย มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้ ทั้งแบบน้ำ เนื้อครีม เนื้อเจล ใช้ทาเพื่อให้ผิวรอบๆ ดวงตาดูดีขึ้น แต่ข้อเสียคือต้องใช้ระยะเวลา ไม่เห็นผลทันที และอาจไม่ได้ผลที่ชัดเจน
มาส์กใต้ตา
การมาส์กใต้ตาเป็นวิธีที่สามารถทำได้ง่าย เพียงนำแผ่นเจล ถุงชา หรือที่นิยมคือการนำแตงกวามาประคบบริเวณใต้ตา วิธีนี้จะช่วยบำรุงใต้ตาให้มีความชุ่มชื้น ผ่อนคลายผิวบริเวณใต้ตา ข้อเสียคือต้องใช้เวลาครับ และไม่สามารถช่วยเรื่องรอยคล้ำใต้ตาหรือลดถุงใต้ตาได้
เลเซอร์ใต้ตา
การทำเลเซอร์ใต้ตา คือการยิงเลเซอร์ตรงบริวเณใต้ตาเพื่อทำลายเม็ดสี ผลลัพธ์หลังเลเซอร์จะทำให้ใต้ตากลับมาสว่างขึ้น แต่มีข้อเสียคือ อาจมีการเจ็บปวดระหว่างทำ หรือเกิดแผลติดเชื้อได้ และไม่สามารถแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำจากสาเหตุกระดูกใต้ตายุบตัวได้ครับ
ผ่าตัดใต้ตา
การผ่าตัดใต้ตา เป็นการตัดถุงใต้ตาเพื่อเอาไขมันส่วนเกินออก หลังผ่าตัดใต้ตาดูเรียบเนียนขึ้น ถุงใต้ตาลดลง แต่วิธีนี้จะมีความเสี่ยงในเรื่องการบวมช้ำ อักเสบหรือติดเชื้อ และต้องใช้เวลาในการพักฟื้นนานครับ
ฉีดไขมันใต้ตา
การฉีดไขมันใต้ตา เป็นการใช้ไขมันของตัวเองโดยการดูดไขมันจากบริเวณอื่นมาเติมใต้ตา เป็นวิธีที่ปลอดภัย เนื่องจากใช้ไขมันของตัวเองมาฉีดจึงช่วยลดความเสี่ยงต่ออาการแพ้ได้ แต่มีขั้นตอนการทำที่ค่อนข้างยุ่งยาก มีแผลในตำแหน่งที่มีการดูดไขมันมาเพื่อฉีด และอาจทำให้เกิดปัญหาผิวไม่เรียบเสมอกันได้ เพราะไขมันที่ฉีดไปถูกร่างกายนำไปใช้ครับ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ฟิลเลอร์ใต้ตา คือการฉีดสารเติมเต็ม HA ที่มีลักษณะเป็นเนื้อเจล เข้าไปในบริเวณใต้ตา ช่วยให้ใต้ตาดูตื้นขึ้น ถุงใต้ตา ริ้วรอยใต้ตาดูจางลง ใต้ตากลับมาสดใส ดูเรียบเนียนขึ้นทันทีหลังฉีด เป็นวิธีที่ปลอดภัยและแพทย์ส่วนใหญ่แนะนำครับ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เหมาะกับใคร ?
- คนที่มีปัญหารอยคล้ำใต้ตา ขอบตาดำ เบ้าตาลึก ตาโหล มีถุงใต้ตา ริ้วรอยใต้ตาที่ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย
- คนที่ต้องการเห็นผลไว ไม่มีเวลาพักฟื้น
- คนที่กลัวการผ่าตัด ไม่อยากมีแผลจากการผ่าตัด
- คนที่มีปัญหาเบ้าตาลึกจากกรรมพันธ์ุ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
- ช่วยแก้ไขปัญหาถุงใต้ตา ใต้ตาหย่อนคล้อยให้กระชับมากยิ่งขึ้น
- ลดรอยคล้ำบริเวณใต้ตา ให้กลับมาสดใส หน้าโดยรวมดูไม่โทรม
- แก้ปัญหาเบ้าตาลึก ร่องใต้ตา ที่เกิดจากการยุบตัวของกระดูกใต้ตา
- ช่วยลดริ้วรอยใต้ตา รอยเหี่ยวย่นบริเวณหางตา ให้ดูตื้นขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม ?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นวิธีการแก้ปัญหาใต้ตาที่ปลอดภัย เห็นผลไว และไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย สามารถฉีดได้เรื่อยๆ ไม่มีสารตกค้าง สลายหมด 100% ครับ แต่ทั้งนี้คนไข้ควรเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ และเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่าน อย. เท่านั้น ผลลัพธ์จึงจะเป็นที่น่าพอใจ และปลอดภัยครับ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา vs การเติมไขมัน
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ข้อดี
- หลังฉีดเห็นผลทันทีและเห็นผลการเปลี่ยนแปลงชัดเจนที่สุดใน 2 สัปดาห์
- ฟิลเลอร์แท้ (HA) สามารถสลายได้หมด 100% โดยไม่ทิ้งสารตกค้างไม่มีสารตกค้าง ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
- ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น ไม่ต้องผ่าตัด สามารถใช้หน้าได้เลย ในบางเคสอาจมีอาการบวมเข็มหลังฉีด แต่จะหายได้เอง ใน 7-14 วัน
- ฟิลเลอร์เป็นวิธีที่ปลอดภัย และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ได้รับการรับรองจาก อย. ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้
ข้อเสีย
- ให้ผลลัพธ์ที่ไม่ถาวร
- ในบางเคสที่ ผิวบาง ผิวช้ำง่าย อาจมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคันได้ในจุดที่ลงเข็ม หลังฉีดควรหลีกเลี่ยงการแตะ การเกา การกดนวดในจุดนั้นๆ แต่อาการเหล่านี้สามารถลดหายไปได้เองครับ
ฉีดไขมันใต้ตา
ข้อดี
- ลดความเสี่ยงต่ออาการแพ้ เนื่องจากเป็นการใช้ไขมันของตัวคนไข้เอง
- ใช้เวลาพักฟื้นน้อย ใช้ระยะเวลาพักฟื้นหลังทำประมาณ 1-2 สัปดาห์ ถือว่าพักฟื้นน้อยมากเมื่อเทียบกับการผ่าตัดครับ
ข้อเสีย
- มีกระบวนการที่ค่อนข้างยุ่งยาก ไม่สามารถทำได้ทันทีเหมือนการฉีดฟิลเลอร์ทั่วไป เพราะต้องมีการตรวจเช็คไขมันและมีกระบวนการดูดไขมันออกมา และปั่นแยกเป็นของเหลว ก่อนนำมาใช้ฉีดไขมันใต้ตา
- มีแผลในตำแหน่งที่ดูดไขมัน
- หลังฉีดอาจเกิดผิวไม่เรียบ ไม่เสมอกัน เพราะไขมันที่ฉีดไปจะถูกร่างกายนำไปใช้
- ต้องทำซ้ำหลายครั้ง อาจไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนในครั้งแรก นั่นหมายถึงต้องเจ็บตัวหลายครั้งครับ และฉีดไขมันตัวเอง ไม่มีประสิทธิภาพในการยกเหมือนกับฟิลเลอร์
- หลังฉีดแล้วจะมีอาการบวมเล็กน้อย จากนั้นจะค่อย ๆ ลดลง
ในการแก้ไขปัญหาริ้วรอยใต้ตา ใต้ตาคล้ำ ร่องลึกใต้ตาที่เห็นผลจริง การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะเป็นวิธีที่หมอแนะนำมากที่สุดครับ เพราะเห็นผลไวและมีความปลอดภัยกว่า หลังฉีดเห็นผลทันที ไม่ต้องพักฟื้น และมีความเสี่ยงน้อยกว่าการฉีดไขมันใต้ตา
หากมองถึงเรื่องความคุ้มค่า ราคาไม่แพง การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาถือว่าคุ้มค่ากว่าครับ ทั้งนี้ควรฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ผ่านเคสมาหลากหลาย สามารถแนะนำยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ได้อย่างเหมาะสม คนไข้ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดีและดูเป็นธรรมชาติครับ
ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ควรรู้
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อาจมีอาการบวมที่เกิดจากเข็มและจากการที่เนื้อฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ได้ครับ ซึ่งใน 2 สัปดาห์อาการต่างๆ จะหายไป ฟิลเลอร์เข้าที่สวยงาม ดังนั้นคนไข้ไม่ต้องกังวลครับ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้กี่ cc
โดยส่วนมากฟิลเลอร์ใต้ตาจะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 2-4 CC ครับ ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล เช่น ความลึก ริ้วรอย ความคล้ำของใต้ตา หรือในเคสที่มีปัญหาน้อยๆ ก็สามารถแบ่งฟิลเลอร์ 1CC สำหรับฉีดใต้ตาทั้งสองข้างได้
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาในปริมาณ 2-4 CC จะเป็นปริมาณที่เหมาะสมครับ เพราะบริเวณใต้ตาเป็นบริเวณที่ต้องให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นธรรมชาติมากที่สุด ถ้าหากใช้ปริมาณ CC เยอะเกินไป เวลายิ้มจะทำให้ใต้ตาดูบวมเป็นก้อน ไม่เป็นธรรมชาติครับ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเท่าไหร่
ที่ V Square Clinic จะเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่เป็นแบรนด์ระดับโลก อย่างประเทศอเมริกา สวีเดน และสวิตเซอร์แลนด์ ผลิตภัณฑ์ทุกตัวสามารถตรวจสอบกับผู้ผลิตได้ว่าเป็นของแท้ ดังนั้นคนไข้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยได้ครับ โดยแต่ละตัวจะมีราคาดังนี้
ราคาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ | ระยะเวลา | ราคา / 1 cc |
---|---|---|
Juvederm Voluma | 18 เดือน | 14,500 บาท |
Juvederm Volite | 8-12 เดือน | 14,000 บาท |
Juvederm Volux | 18-24 เดือน | 18,000 บาท |
Restylane Vital light | 6-12 เดือน | 14,000 บาท |
Restylane Perlane lyft | 12 เดือน | 12,000 บาท |
Restylane Defyne | 18 เดือน | 14,000 บาท |
Restylane Classic | 12 เดือน | 14,000 บาท |
Belotero Volume | 18 เดือน | 11,000 บาท |
Belotero Revive | 6-9 เดือน | 14,000 บาท |
Belotero Soft | 8-12 เดือน | 11,000 บาท |
Flore Aqua-s | 6 เดือน | 9,900 บาท |
Definisse Touch | 8-12 เดือน | 12,000 บาท |
Teoxane RHA 2 | 18 เดือน | 13,500 บาท |
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี แต่ละยี่ห้ออยู่ได้นานแค่ไหน ?
7.1 ฟิลเลอร์ Restylane
- Restylane Perlane Lyft มีความคงตัวสูง ไม่ฟู และสามารถคงรูปได้ดีที่สุด อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Restylane Defyne เนื้อเจลแข็งปานกลาง มีความยืดหยุ่นและอุ้มน้ำได้ดี อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Restylane Vital Light เป็นฟิลเลอร์ที่มีส่วนผสมของยาชา เนื้อละเอียดมากที่สุด ใช้สำหรับเคสที่ผิวบางๆ หรือสำหรับเก็บรายละเอียด อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
- Restylane classic เป็นเนื้อเจลอนุภาคใหญ่ เหมาะสำหรับแก้ปัญหาริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก อยู่ได้นาน 12 เดือน
7.2 ฟิลเลอร์ Juvederm
- Juvederm Volite เนื้อละเอียด ใช้เติมใต้ตาชั้นตื้น เหมาะกับคนผิวบางแต่ไม่มากเกินไป อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
- Juvederm Voluma เนื้อแข็ง ฟูปานกลาง ยืดหยุ่นสูง อุ้มน้ำและให้ความเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Juvederm Volux เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นและคงตัว สำหรับฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก อยู่ได้นาน 18-24 เดือน
7.3 ฟิลเลอร์ Belotero
- Belotero volume เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นและคงตัว เหมาะกับเติมใต้ตาชั้นลึก อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Belotero soft ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา เก็บรายละเอียดริ้วรอยใต้ตา อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
- Belotero revive ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เหมาะฉีด : ผิวหน้า / ใต้ตา / ปาก / ลำคอ / หลังมือ อยู่ได้นาน 6-9 เดือน
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ฟิลเลอร์เป็นวิธีที่ปลอดภัย และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ได้รับการรับรองจาก อย. ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้
- แก้ปัญหาถุงใต้ตา ขอบตาดำ เบ้าตาลึกตาโหล และริ้วรอยใต้ตาได้อย่างเห็นผล
- เห็นผลชัดเจนทันทีหลังทำ
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น และมีขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยาก
- อยู่ได้นาน 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้
- ไม่มีสารตกค้างในร่างกาย สามารถสลายเองได้ตามธรรมชาติ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อยู่ได้นานแค่ไหน ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ รวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ หากหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ฟิลเลอร์สลายได้ ก็จะช่วยรักษาอายุฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นานขึ้นครับ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เห็นผลทันทีหรือไม่ ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะเห็นผลทันทีครับ ในเคสนี้จะสังเกตว่าหลังฉีดใต้ตาดูเต็มขึ้น ริ้วรอยตื้นขึ้น ถุงใต้ตาลดลง ใต้ตาสดใสขึ้นขึ้นทันที และหลังจาก 2 สัปดาห์หลังฉีด ก็จะเห็นผลที่ชัดเจนขึ้นครับ
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ศึกษาข้อมูล เกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์อย่างละเอียด
- เลือกคลินิก ฉีดฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย
- ดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงในคลินิกนั้นๆ
- ควรงดยา แอสไพริน, NSAIDs งดวิตามิน และยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิว รวมถึง งดการแว็ก
- งดแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง
- งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด
- หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำควรแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง
- แพทย์จะพิจารณาให้กินยาห้ามเลือดหรือฉีดยาลดบวมในบางเคส เพื่อลดความเสี่ยงในการบวมช้ำ อักเสบติดเชื้อ
- สามารถแจ้งเพื่อขอแปะยาชาก่อนฉีดฟิลเลอร์ได้ และหมอจะฉีดยาชาในจุดนั้น ๆ ให้ด้วย
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกาและกดนวดบริเวณใต้ตา
- ควรอยู่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม. เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ตากแดด
- ควรดื่มน้ำเยอะๆ เพราะการดื่มน้ำเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น
- งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิดอย่างน้อย 1 เดือน
- ควรงดทานอาหารบางอย่างที่ส่งผลต่อการอักเสบ บวมและทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้า เช่น
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
- อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อนๆ หมูกระทะ ชาบู
- อาหารหมักดอง อาหารที่เผ็ดมากๆ จนหน้าแดง อาหารหวานจัดและอาหารดิบจากร้านที่ไม่สะอาด
- งดสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้ยุบบวมช้าและส่งผลการรักษาอยู่ได้สั้นลง
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ V Square ดีอย่างไร ?
V Square Clinic เป็นคลินิกปรับรูปหน้ายอดนิยมที่มุ่งเน้นและให้ความสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยและคุณภาพเป็นอันดับหนึ่ง เพื่อเป็นคลินิกความงามที่ได้มาตรฐานระดับโลก ให้ใช้ผู้รับบริการรู้สึกมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย
ปัจจุบัน V Square Clinic มีคลินิกเปิดให้บริการครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และมีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ปรับรูปหน้า 15 ปี ที่คอยให้คำแนะนำการปรับรูปหน้าโดยตรง ไม่ผ่านเซลล์ เพื่อเลือกหัตถการที่เหมาะสมกับปัญหาและสภาพผิวของแต่ละคน มีการติดตามหลังการรักษาทุกเคสครับ
- V Square Clinic จะเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ได้การรับรองความปลอดภัยจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และ FDA จากอเมริกา
- ทีมแพทย์มีประสบการณ์การปรับรูปรูปหน้ามากกว่า 15 ปี และใช้เทคนิคเฉพาะที่ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
- คลินิกเปิดให้บริการถูกต้องตามกฎหมาย ได้มาตรฐาน มีป้ายชื่อสถานพยาบาล และเลขที่ใบอนุญาต จำนวน 11 หลัก ติดไว้หน้าคลินิก มีใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล และใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานการพยาบาล ติดไว้ในที่เปิดเผยและเห็นได้ง่ายในคลินิก
- มีหลากหลายช่องทางในการติดต่อ เพื่ออำนวยความสะดวก สามารถปรึกษาหรือสอบถามเกี่ยวกับหัตถการต่าง ๆ กับแพทย์ได้โดยตรง เช่น V Square Clinic , inbox facebook หรือ Line
- มีรีวิวที่น่าเชื่อถือจากผู้ใช้บริการจริงที่เป็นปัจจุบัน มีทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว เพื่อให้เห็นความชำนาญของแพทย์ขณะทำหัตถการ
- มีการนัดหมายติดตามผลหลังทำเคส แสดงถึงความใส่ใจและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ
- ปรึกษาฟรี สามารถส่งรูปหน้าให้แพทย์ประเมินปัญหาก่อนได้ในเบื้องต้น ก่อนนัดหมายคิวหรือ Walk-in เข้าไปที่สาขา
รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ถุงใต้ตา
ก่อนทำ : อายุมากขึ้น กระดูกใต้ตายุบตัว มีปัญหาถุงใต้ตาหย่อนคล้อย ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อย ดูมีอายุ
หลังทำ : ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ไขถุงใต้ตา ช่วยให้ดูอ่อนวัยขึ้นอีกครั้ง
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ร่องลึกใต้ตา
ก่อนทำ : มีปัญหาร่องลึกใต้ตา ใบหน้าดูไม่สดใส
หลังทำ : ฟิลเลอร์ใต้ตา เติมเต็มร่องลึกใต้ตาให้ดูตื้นขึ้น ใบหน้าดูสดใสขึ้น
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ร่องน้ำตา
ก่อนทำ : มีความกังวลจากปัญหาร่องน้ำตาเด่นชัด มีถุงใต้ตา ทำให้ใบหน้าดูไม่สดชื่น
หลังทำ : เติมเต็มด้วยฟิลเลอร์ใต้ตา ใบหน้าดูสดชื่นขึ้น รู้สึกมั่นใจมากขึ้น
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ขอบตาดำ
ก่อนทำ : มีปัญหาขอบตาดำ เห็นได้ชัด ใส่แมสแล้วรู้สึกไม่มั่นใจ
หลังทำ : หลังฉีดฟิลเลอร์ ขอบตาดำดูจางลง หน้าตาสดใสขึ้น มั่นใจมากขึ้น
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ใต้ตาคล้ำ
ก่อนทำ : ใต้ตาคล้ำ ใบหน้าดูเหนื่อยล้า ดูโทรม ใบหน้าไม่สดใส
หลังทำ : หลังเติมฟิลเลอร์ รอยคล้ำใต้ตาจางลง ใบหน้าโดยรวมดูสดชื่นขึ้น
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ริ้วรอยใต้ตา
ก่อนทำ : มีปัญหาริ้วรอยใต้ตา ทำให้หน้าดูมีอายุ ไม่สดใส
หลังทำ : ริ้วรอยใต้ตาจางลง ผิวเรียบเนียน ใบหน้ากลับมาสดใส ดูอ่อนกว่าวัยขึ้นทันที
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ใต้ตาหย่อนคล้อย
ก่อนทำ : อายุมากขึ้น ผิวหนังใต้ตาหย่อนคล้อยตามวัย
หลังทำ : ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว ทำให้ผิวเต่งตึง เรียบเนียนขึ้น
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แก้เบ้าตาลึก
ก่อนทำ : เบ้าตาลึกลง ใบหน้าดูโทรม อ่อนล้า ไม่สดใส และแก่กว่าวัย
หลังทำ : ฟิลเลอร์เข้าไปแทนที่เนื้อหรือไขมันที่หายไป ใบหน้าสดใส ดูอ่อนเยาว์
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ตาโหล
ก่อนทำ : ขอบตาดำ เบ้าตาลึก ส่งผลให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย ดูเหนื่อยล้าอิดโรยตลอดเวลา
หลังทำ : ฟิลเลอร์เติมเต็มใต้ตาให้ดูตื้นขึ้น เรียบเนียน ใบหน้ากลับมาสดใส อ่อนเยาว์
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เจ็บไหม ? ต้องใช้ยาชาหรือไม่
ไม่ได้เจ็บมากครับ อยู่ในระดับที่ทนได้ แต่จะรู้สึกเล็กน้อยตอนที่กำลังฉีดฟิลเลอร์เข้าไป และตามปกติแล้วคลินิกก็จะมีการแปะหรือฉีดยาชา และประคบน้ำแข็งให้ระหว่างฉีดครับ
สรุป
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นวิธีแก้ปัญหาใต้ตาที่ปลอดภัย หลังฉีดริ้วรอยใต้ตาจะตื้นขึ้น รอยคล้ำใต้ตาและริ้วรอยใต้ตาดูจางลงทันที ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัยโดยไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม ไม่ต้องพักฟื้น และไม่เสี่ยงเป็นรอยแผลเป็นจากการผ่าตัดครับ
ทั้งนี้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คนไข้ควรศึกษาข้อมูล อ่านรีวิว เกี่ยวกับคลินิกและตัวฟิลเลอร์ที่จะฉีด ซึ่งสามารถหาข้อมูลและเปรียบเทียบได้ทางอินเตอร์เน็ต หากฟิลเลอร์ที่ฉีดเป็นฟิลเลอร์แท้ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอันตรายจากตัวฟิลเลอร์เลยครับ