ร้อยไหม อันตรายไหม ?
การร้อยไหม เป็นการเสริมความงานที่ช่วยยกกระชับหน้า ลดความหย่อนคล้อย ลดริ้วรอยร่องแก้มได้อย่างเห็นผล เป็นวิธีที่ปลอดภัย ไหมละลายหมด 100% ไม่มีสารตกค้าง หลังจากทำสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น แต่ต้องทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้าและร้อยไหมด้วยวิธีที่ถูกต้องเท่านั้น
สำหรับใครที่กังวลว่าการร้อยไหม อันตรายไหม? หลังร้อยไหม มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง? ร้อยไหมอะไรดีที่สุด? ข้อปฏิบัติตัว ก่อน-หลัง ร้อยไหม ทำอย่างไรให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน หมอจะมาให้คำตอบครับ
สารบัญ ร้อยไหมอันตรายไหม
ร้อยไหม อันตรายไหม ?
ร้อยไหม ไม่อันตรายครับ เนื่องจากไหมที่ใช้จะเป็นไหมละลายที่ผ่านการรับรองจาก อย. ไม่มีส่วนผสมของโลหะเมื่อเวลาผ่านไป 6-18 เดือน เส้นไหมก็จะละลายหมด 100% ไม่มีสารตกค้าง จะเหลือเพียงเส้นใย elastin ที่ร่างกายเราสร้างขึ้นมาซึ่งช่วยประคองผิว
ทั้งนี้ประสบการณ์ของแพทย์ ก็เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย ดังนั้นก่อนร้อยไหม ควรศึกษาข้อมูลการเลือกคลินิกร้อยไหมที่ไหนดีอย่างละเอียด เลือกร้อยไหมกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ผลข้างเคียงจากการร้อยไหม ที่ควรรู้
ผลข้างเคียงจากการร้อยไหมจะมีอาการบวมช้ำบริเวณที่ร้อยไหม เนื่องจากเนื้อเยื่อได้รับการกระตุ้น และมีเลือดออกใต้ผิวหนังตามแนวการสอดไหม ซึ่งเป็นอาการข้างเคียงปกติที่เกิดจากการใช้เข็มเพื่อนำเส้นไหมเข้าสู่ผิวครับ หลังทำทันทีจะยังบวมไม่มาก แต่หลังร้อยไหม 3-4 วัน จะมีอาการบวมมากขึ้น ทั้งนี้อาการบวมสามารถหายได้เองภายใน 7-14 วันครับ
แต่ในกรณีที่ร้อยไหมไปแล้ว 4 วัน มีอาการบวมแดงมากขึ้น แนะนำให้คนไข้รีบกลับมาพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการและรับประทานยาแก้ปวด ลดบวมเพิ่ม
เข็มร้อยไหมแต่ละแบบ แตกต่างกันอย่างไร ?
เข็มที่นิยมใช้ในการร้อยไหมจะมีความแตกต่างกันตามลักษณะของเข็ม เช่น เข็ม L, เข็มทู่, เข็มตัด และเข็มแหลม ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีข้อดี ข้อเสียที่ต่างกัน ดังนั้นควรเลือกร้อยไหมกับหมอประสบการณ์ เพราะหมอจะเลือกใช้เข็มได้อย่างเหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงในการบวมเลือดและบวมน้ำครับ
- เข็ม L : เป็นเข็มที่มีการพัฒนาต่อจากเข็มตัด
- เข็มทู่ : เข็มทู่ที่ใช้ร้อยไหมจะใหญ่กว่าเข็มทู่ที่ใช้ฉีดฟิลเลอร์ ทำให้มีโอกาสเกิดการบวมน้ำได้ โดยเข็มจะผ่านเนื้อโดยการฉีกออกคล้าย ๆ การใช้มีดทื่อ ๆ ตัด ให้ความรู้สึกเจ็บมากกว่าเข็มแหลม แต่สามารถหลบเส้นเลือดใหญ่ ๆ ได้ แต่หากโดนเส้นเลือดเล็ก ๆ ก็ยังขาดอยู่ดีครับ
- เข็มตัด : เข็มตัดเป็นเข็มกึ่งแหลมกึ่งทู่ ปลายเข็มมีลักษณะคล้ายหลอด มีความคมแต่ไม่ได้แหลมเท่าเข็มแหลม
- เข็มแหลม : จะตัดผ่านเนื้อคล้ายการใช้มีดคม ๆ ตัด ให้ความรู้สึกเจ็บน้อยกว่า บวมน้ำน้อยกว่าบวมเลือด หากโดนเข็มตัดผ่านเส้นเลือดเล็ก ๆ จะสมานได้ไวกว่าการใช้เข็มทู่ แต่ถ้าโดนเส้นเลือดใหญ่ก็จะมีโอกาสบวมเลือดได้ครับ ดังนั้นการใช้เข็มแหลมจำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์และความระมัดระวังของแพทย์สูง
ที่ V Square Clinic มีเข็มทุกแบบ โดยหมอจะเลือกใช้ให้เหมาะกับคนไข้แต่ละเคส เช่น ถ้าคนไข้เคยเป็นสิวหรือมีพังผืดเยอะ ก็จะเหมาะกับเข็มแหลมมากกว่าครับ
ร้อยไหมอะไรดีที่สุด ?
ไหมที่นิยมใช้ในปัจจุบันคือไหมละลาย ซึ่งไหมละลายแต่ละชนิดจะทำจากวัสดุและมีลักษณะของไหมที่ต่างกัน ซึ่งชนิดของวัสดุสามารถแบ่งได้ 3 ชนิดคือ คือ PDO, PLLA และ PCL ครับ ไหมทั้ง 3 ชนิดนี้ได้รับการรับรองจาก FDA ทั้งในไทยและต่างประเทศว่ามีความปลอดภัย หลังร้อยไหมจะละลายตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้าง จึงไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย
ไหมละลาย แบ่งตามชนิดของวัสดุ
- PDO (Polydioxanone) เป็นไหมละลายเส้นสีน้ำเงิน สามารถละลายหมดภายใน 4-5 เดือน มีอายุการใช้งานน้อยที่สุด ยืดหยุ่นปานกลาง นิ่ม ไม่เปราะ ขณะที่ร้อยจะไม่รู้สึกระคายเคือง
- PLLA (Polylactate) เป็นไหมละลายเส้นสีขาวใส สามารถละลายหมดภายใน 12-18 เดือน ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี แต่ขาดความยืดหยุ่น มีความแข็ง หลังร้อยไหมจะพบปัญหา ไหมขาด ไหมทะลุได้บ่อย ปัจจุบันจึงไม่ค่อยนิยมใช้
- PCL (Polycaprolactone) เป็นไหมละลายเส้นสีขาวขุ่น สามารถละลายหมดภายใน 18-24 เดือน เส้นไหมมีส่วนผสมของ PLLA ในสัดส่วนที่เหมาะสม จึงทำให้มีความยืดหยุ่นสูงที่สุด แข็งทน ไม่เปราะหักง่าย เส้นใหญ่ที่สุด
ปัจจุบันไหม PCL+PLLA เป็นวัสดุเส้นไหมที่ดีที่สุดและนิยมใช้มากที่สุดครับ เนื่องจากมีการพัฒนาโดยการนำจุดเด่นของไหม PCL มาผสมกับจุดเด่นของไหม PLLA ในสัดส่วนที่พอเหมาะ และจากประสบการณ์ของหมอแล้วพบว่าไหมที่ดึงหน้าได้ดีที่สุดคือ ไหมเงี่ยงใหญ่ หรือไหม PCL ซึ่งที่ V Square Clinic จะเลือกใช้ ไหมก้างปลาที่ดีที่สุดเท่านั้นครับ
ไหมละลาย แบ่งตามลักษณะของเส้นไหม
ไหมละลายที่แบ่งตามลักษณะของเส้นไหม ส่วนใหญ่จะเป็นไหมเงี่ยง bidirectional barbed thread ทั้งสิ้น ที่ต้องตั้งชื่อให้แตกต่างกันเพราะเหตุผลทางการค้าเท่านั้นครับ
- ไหมเรียบ (Mono threads)
- ไหมเรียบ ชื่ออื่น เช่น ไหมคอลลาเจน, ไหมมิราคุ, ไหมสเต็มเซล, ไหม ruby, ไหมทับทิม ฯลฯ
- เป็นไหมละลายเส้นเรียบที่ไม่มีเงี่ยงหรือเป็นเกลียว เป็นไหมชนิดแรกๆ ที่นำมาใช้
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนมาเติมผิวคล้ายๆ ฟิลเลอร์ ช่วยลดริ้วรอยในบางจุดช่วยให้ชั้นผิวฟูขึ้น ช่วยกระชับผิวได้เล็กน้อย
- มักใช้ร้อยเพิ่มเติมร่องใต้ตา ริ้วรอยหน้าผาก ลดความหย่อนคล้อยที่คอ
- ใช้ประมาณ 10-20 เส้นต่อหนึ่งจุดที่ทำ
- จะเห็นผลในช่วง 4-5 เดือน อยู่ได้ประมาณ 8 เดือน
- ไหมเงี่ยง (Barbed threads/ Cog ไหมเงี่ยง (Barbed threads/ Cog threads)ไหมเงี่ยง ชื่อทางการแพทย์คือ bidirectional barbed thread ชื่ออื่น เช่น ไหมก้างปลา, ไหมเงี่ยงกุหลาบ,ไหมก้างปลา 8D, ไหม Rose, ไหมฟันฉลาม, ไหมจระเข้, ไหมปิรันย่า, ไหมล็อค,ไหมค็อก ฯลฯ
- เป็นไหมละลายที่มีเงี่ยงยื่นออกมา แบ่งออกตามขนาดเส้นไหม คือไหมเงี่ยงใหญ่และไหมเงี่ยงเล็ก
- มีลักษณะเหมือนตะขอ มีทั้งแบบเงี่ยง 1 ทิศทางและ 2 ทิศทาง เมื่อสอดเข้าไปใต้ผิวหนัง จะดึงรั้งเนื้อเยื่อผิวได้ดี ใช้ในการยกกระชับแก้มที่หย่อน ลดแก้มตอบ เพิ่มความคมชัดให้กรอบหน้า และเป็นที่นิยม
- ใช้ประมาณ 6-12 เส้นต่อการยกกระชับแก้มทั้ง 2 ข้าง
- อยู่ได้ 4-12 เดือน ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้
- ไหมเกลียว (Screw Threads /Tornado Threads)
- ไหมเกลียว ชื่ออื่น เช่น ไหมสปริง, ไหมทอร์นาโด ฯลฯ
- เป็นการใช้ไหม 1-2 เส้นพันเป็นเกลียวก่อนสอดเข้าใต้ผิวหนัง เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นไหม
- ใช้เพื่อเติมเต็มผิวที่ยุบ เป็นแอ่ง ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนให้เรียบตึงขึ้น ช่วยปรับรูปหน้า ริ้วรอยบางจุด หรือต้องการยกแก้มบริเวณแก้มส้ม
- ใช้ประมาณ 6-8 เส้นต่อหนึ่งจุดที่ทำ
- อยู่ได้ประมาณ 8 เดือน
- ไหมกรวย (Silhouette Soft)
- ไหมกรวย ชื่ออื่น เช่น ไหมเทอร์โบ, ไหมโคน, ไหม Silhouette, ไหมกรวยซิลลูเอท, ไหม PGA
- เป็นไหมที่มีปมติดเป็นระยะ ๆ ลักษณะคล้ายโคนหรือกรวย
- ช่วยในการยกกระชับใบหน้า เห็นผลหลังทำทันที แต่ต้องใช้เข็มใหญ่ โอกาสบวมช้ำสูง จึงใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าไหมเงี่ยง
- ใช้ประมาณ 2-8 เส้น ต่อการทำแต่ละบริเวณ
- อยู่ได้ 8-10 เดือน
- ข้อเสียคือมีราคาสูง เมื่อเทียบกับไหมชนิดอื่นๆ
- ไหมมิ้นท์ (Mint Lift)
- ไหมมิ้นท์ เป็นไหมละลายชนิดล่าสุดที่ได้มีการพัฒนาเพื่อช่วยในเรื่องการยกกระชับหน้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- เส้นไหมจะมีลักษณะพิเศษคือสามารถหมุนได้ 360 องศา เพื่อช่วยในการยึดเกาะเนื้อเยื่อได้หลายทิศทาง
- ตัวไหมแข็งแรง ไม่เปราะง่าย เห็นผลดีในการยกกระชับหน้า ผ่าน อย.
- อยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือน
- ไหมตาข่าย (Tesslift Soft)
- ไหมตาข่าย เป็นไหมละลายที่มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องความแข็งแรงของเส้นไหม ทนแรงต้านได้ดีกว่าไหมทั่วไปถึง 80 เท่า
- การใช้ไหมตาข่าย 1 เส้น เทียบเท่ากับการร้อยไหม 2 เส้น ทำให้สามารถช่วยในเรื่องการยกกระชับและพยุงผิวที่หย่อนคล้อยได้ดี
- ผ่านการรับรองจาก CE Approved (European Conformity)
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เห็นผลเร็วและอยู่ได้นาน
- อยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือน
การเลือกร้อยไหมแบบไหนดีสุด ในเบื้องต้นควรให้หมอประเมินใบหน้า และวิเคราะห์โครงหน้าของคนไข้ เพื่อเลือกชนิดของไหม จำนวนไหมที่ใช้ เพื่อให้เกิดการบวมช้ำน้อยที่สุด และได้ผลออกมาดูเป็นธรรมชาติครับ
ข้อปฏิบัติตัว ก่อน-หลัง ร้อยไหม เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้น
- หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกาและกดนวดบริเวณที่ร้อยไหม อย่าขยับใบหน้าเยอะโดยเฉพาะในช่วง 3 วันหลังทำ จะทำให้ไหมที่ทำไว้เคลื่อนผิดตำแหน่งได้
- อาจมีอาการบวมแดงหรือเขียวช้ำเป็นปกติ จะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-3 วัน (หากหลังจาก 3 วันไปแล้ว มีอาการบวมมากขึ้นให้ติดต่อกลับมาที่คลินิกเพื่อรับยากินเพิ่มครับ)
- หากก่อนทำไม่ได้กินยาฆ่าเชื้อ หลังทำควรรีบกินยาฆ่าเชื้อทันที และทางคลินิกจะมียาแก้ปวด,ลดบวมให้กินด้วย และรับประทานยาฆ่าเชื้อตามแพทย์สั่งจนหมด
- ควรอยู่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม. เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ตากแดด
- นอนหัวสูงกว่าหน้าอกโดยการหนุนหมอนที่ศีรษะอย่างน้อย 2 ใบ ไม่ควรนอนตะแคง หรือนอนคว่ำ ควรหาหมอนข้างมากันไว้ทั้งซ้ายและขวาใน 2-3 คืนแรกหลังทำเพื่อป้องกันการกดทับหน้า
- ให้งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิดอย่างน้อย 1 เดือน
- งดทำทรีตเมนต์ นวดหน้า ขัดผิวหน้า อย่างน้อย 1 เดือน
- งดทำฟันอย่างน้อย 1 เดือน หากคนไข้มีนัดทำฟัน ควรให้ทำก่อนเข้ารับการร้อยไหมครับ
- งดลงสระว่ายน้ำหรือทำกิจกรรมที่ทำเหงื่อออกมาก อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- การล้างหน้าในวันแรกที่ทำการร้อยไหม ควรล้างด้วยน้ำเปล่า และล้างเบา ๆ
- ควรงดทานอาหารบางอย่างที่ส่งผลต่อการอักเสบ ดังนี้ครับ
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
- อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อนๆ หมูกระทะ ชาบู
- อาหารหมักดอง อาหารที่เผ็ดมากๆ จนหน้าแดง อาหารหวานจัดและอาหารดิบจากร้านที่ไม่สะอาด
- งดสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้ยุบบวมช้าและส่งผลการรักษาอยู่ได้สั้นลง
- งดนมวัว หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของนมวัว เพราะอาจจะกระตุ้นกระบวนการอักเสบได้
- งดอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เนื่องจากอาจก่อให้เกิดการอักเสบได้
รีวิว ร้อยไหมยกกระชับหน้า
ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมในเคสนี้ คนไข้มีปัญหาแก้มหย่อนคล้อย มีแก้มห้อยทำให้หน้าดูไม่กระชับ
หลังทำทันที ใบหน้าดูเรียวขึ้น แก้มกระชับ ดูอ่อนกว่าวัย
ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมในเคสนี้ คนไข้มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ทำให้ดูแก่กว่าวัย
หลังทำทันที ผิวบริเวณกรอบหน้ายกกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หน้าเด็กลง
ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมในเคสนี้ คนไข้มีปัญหาแก้มหย่อนคล้อย ไม่มีมิติ
หลังทำทันที ใบหน้ายกกระชับขึ้น หน้าเรียวขึ้น
ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมในเคสนี้ มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด หน้าไม่มีมิติ
หลังทำทันที กรอบหน้าชัด ใบหน้ายกกระชับขึ้น ริ้วรอยจางลง
ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมในเคสนี้ คนไข้มีปัญหาหน้าไม่มีมิติ กรามใหญ่ มีแก้มห้อย ทำให้หน้าดูไม่กระชับ
หลังทำทันที ใบหน้าดูเรียวขึ้น แก้มกระชับ ดูอ่อนกว่าวัย
ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมในเคสนี้คนไข้มีปัญหาร่องแก้มลึก แก้มห้อยย้อย
หลังทำทันที แก้มยกกระชับ ริ้วรอยร่องแก้มจางลง ใบหน้าเรียวสวยเข้ารูป
ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมในเคสนี้คนไข้มีปัญหาหน้าหย่อนคล้อย มีร่องแก้มลึก แก้มห้อยย้อย
หลังทำทันที ริ้วรอยร่องแก้มดูตื้นขึ้น ใบหน้ายกกระชับ ดูอ่อนกว่าวัย
ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมในเคสนี้คนไข้มีปัญหาแก้มห้อยย้อย หน้าไม่กระชับ ทำให้ดูแก่กว่าวัย
หลังทำทันที ใบหน้ายกกระชับ กรอบหน้าชัด ร่องแก้มตื้นขึ้น ดูเด็กลง
สรุป
การร้อยไหม เป็นการเสริมความงามที่ไม่อันตราย หากคนไข้เลือกร้อยไหมกับคลินิกที่ได้มาตรฐานและหมอมีประสบการณ์ ดังนั้นก่อนร้อยไหมคนไข้ควรศึกษาข้อมูลความรู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับการร้อยไหมอย่างละเอียด เพื่อผลลัพธ์ที่ดี ปลอดภัย และช่วยลดความกังวล เกี่ยวกับผลข้างเคียงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ครับ