ริ้วรอยใต้ตา
ริ้วรอยใต้ตา เป็นตำแหน่งริ้วรอยที่พบบ่อยและเกิดขึ้นได้ง่าย เพราะสภาพผิวบริเวณใต้ตา รอบดวงตา มีความบอบบาง และหลายคนมักละเลยการดูแลผิวในบริเวณนี้ อีกทั้งยังมีปัจจัยในเรื่องของอายุและพฤติกรรมที่ทำให้เกิดริ้วรอยใต้ตาก่อนวัย
การจะฟื้นฟูผิวใต้ตา รอบดวงตา ให้กลับมาเรียบเนียนสดใสแบบเร่งด่วน จำเป็นต้องรู้สาเหตุของปัญหา ริ้วรอยใต้ตา เกิดจากอะไร ? ลดริ้วรอยใต้ตา ลดใต้ตาคล้ำ วิธีไหนดี ? เพื่อจะได้แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด เห็นผลลัพธ์ชัดเจน
สารบัญ ริ้วรอยใต้ตา
ริ้วรอยใต้ตาเกิดจากอะไร ?
ปัญหาริ้วรอยใต้ตา เกิดได้จากหลายสาเหตุ ในเคสที่ลดริ้วรอยใต้ตาแล้วไม่เห็นผล ส่วนใหญ่เกิดจากไม่รู้สาเหตุการเกิดริ้วรอยใต้ตาที่แท้จริง เลือกวิธีที่ไม่เหมาะสม ทำให้ไม่สามารถแก้ไขได้ตรงจุด ก่อนจะรู้วิธีแก้ริ้วรอยใต้ตา วิธีไหนดี ? ต้องรู้สาเหตุการเกิดริ้วรอยก่อนครับ
- ผิวสูญเสียคอลลาเจน และอิลาสติน ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น เกิดริ้วรอยได้ง่าย
- อายุมากขึ้น กระดูกใต้ตา กระดูกหน้าแก้มเกิดการยุบตัวลง เนื้อน้อยลง ทำให้ผิวหย่อนคล้อย
- ผิวขาดความชุ่มชื้น บริเวณใต้ตามีไขมันน้อย ทำให้ผิวแห้งและเกิดริ้วรอยใต้ตา
- พฤติกรรม เช่น ขยี้ตา ถูตาบ่อย ๆ พักผ่อนไม่เพียงพอ จ้องหน้าจอคอม หน้าจอโทรศัพท์นาน ๆ
- การแสดงสีหน้าและอารมณ์ เช่น หัวเราะ ร้องไห้ ยิ้ม หรี่ตา หยีตา ทำให้เกิดริ้วรอยใต้ตา ตีนกา
- โรคภูมิแพ้ เมื่ออาการภูมิแพ้กำเริบ จะรู้สึกระคายเคืองหรือคันบริเวณรอบ ๆ ดวงตา ทำให้ขยี้ตาบ่อย
ริ้วรอยใต้ตา ยิ้มแล้วมีริ้วรอย
ยิ้มแล้วมีริ้วรอยใต้ตา เป็นปัญหาที่ทำให้หลายคนรู้สึกไม่มั่นใจ เป็นสัญญาณที่บ่งบอกอายุซึ่งปรากฏบนใบหน้า และมองเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่ออายุเริ่มมากขึ้น กรดไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) ตามธรรมชาติ คอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิวลดลง ทำให้ผิวไม่ยืดหยุ่น กระชับ ใต้ตาหย่อนคล้อย ยิ้มแล้วมีริ้วรอยใต้ตาหรือถุงใต้ตาร่วมด้วย
เป็นสัญญาณเตือนว่าถึงเวลาที่ต้องเริ่มต้นดูแลใต้ตา แก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตาตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้นานวันเข้า จากริ้วรอยเล็ก ๆ อาจกลายเป็นริ้วรอยขนาดใหญ่ หรือริ้วรอยร่องลึกได้ครับ
วิธีลดริ้วรอยใต้ตา ตาคล้ำมาก ทำอย่างไร ?
ลดริ้วรอยใต้ตา ลดใต้ตาคล้ำ รอยคล้ำรอบดวงตา ในทางการแพทย์มีหลายวิธี คนไข้ที่มาพบหมอส่วนมาก จะผ่านการใช้ครีมลดริ้วรอยใต้ตามาแล้วแต่ไม่เห็นผล เห็นผลไม่ชัดเจน หรือต้องการผลลัพธ์เร่งด่วน สามารถใช้หัตถการทางการแพทย์ เครื่องมือยกกระชับ หรือหลายวิธีร่วมกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน หมอจะประเมินปัญหาและแนะนำวิธีที่เหมาะสมให้ครับ
1. ลดริ้วรอยใต้ตา ด้วยการฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นวิธีที่แพทย์ส่วนใหญ่แนะนำครับ เป็นวิธีแก้ริ้วรอยใต้ตา ร่องลึกใต้ตา ร่องน้ำตา ที่ตรงจุด ได้ผลเร่งด่วน หลังฉีดเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที
ในเคสที่ใต้ตามีริ้วรอย ความหย่อนคล้อย มีร่องตื้น ร่องลึก สาเหตุจากกระดูกใต้ตายุบตัว เนื้อยุบตัว หมอจะฉีดไฮยาลูโรนิค แอซิด เข้าไปเพื่อเติมเต็มในชั้นกระดูกที่ยุบตัว ช่วยให้ใต้ตาเต็มขึ้น ผิวบริเวณใต้ตามีความชุ่มชื้น ลดริ้วรอยใต้ตาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ใบหน้าสดใส ดูเด็กลง คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-24 เดือน
นอกจากแก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตาแล้ว การฉีด Filler ยังช่วยแก้ปัญหาเบ้าตาลึก ตาโหล ขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตา ผิวใต้ตาหย่อนคล้อยได้ด้วยครับ
2. ลดริ้วรอยใต้ตา ด้วยโบท็อก
ริ้วรอยใต้ตาที่เกิดจากการขยับของกล้ามเนื้อ เช่น ริ้วรอยเล็ก ๆ รอยย่นเล็ก ๆ ใต้ตา ริ้วรอยหางตา รอยตีนกาที่เห็นได้ชัดเวลายิ้มหรือหัวเราะ สามารถฉีดโบท็อกลดริ้วรอย หรือโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin A) ที่มีคุณสมบัติออกฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการคลายตัว ทำให้ริ้วรอยใต้ตาดูจางลง เห็นผลใน 3-4 วัน เห็นผลเต็มที่ใน 2 สัปดาห์ คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 3-4 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกที่เลือกใช้
การฉีดโบท็อกเป็นวิธีลดริ้วรอยใต้ตาที่ได้รับความนิยมครับ เพราะนอกจากจะเห็นผลได้ไว ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นแล้ว ยังสามารถช่วยป้องกันไม่ให้ริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตากลายเป็นริ้วรอยลึกถาวร
3. ลดริ้วรอยใต้ตา ด้วยคลื่นวิทยุ
มีริ้วรอยใต้ตา ใต้ตาหย่อนคล้อย มีถุงใต้ตา แต่ไม่อยากผ่าตัด เพราะกลัวเจ็บ ไม่มีเวลาพักฟื้น สามารถทำ Thermage เครื่องยกกระชับพลังงานคลื่นวิทยุ (Monopolar RF) หมอจะยิงพลังงานลงชั้นผิว นอกจากจะช่วยยกกระชับ ลดริ้วรอยแล้ว ยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ซึ่งการผ่าตัดไม่สามารถทำได้ หลังทำเห็นผล 20% เห็นผลเต็มที่ใน 2-3 เดือน คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี
Thermage มีหัวยิงหลายหัวให้แพทย์เลือกใช้ Thermage ใต้ตา จะใช้หัว Eye Tip ขนาด 0.25 cm² (หัวสีเขียว) ที่สามารถยกกระชับผิวใต้ตา เปลือกตา รอบดวงตา รวมทั้งยกคิ้ว ยกหนังตาตกได้โดยเฉพาะ ที่ V Square Clinic ใช้ Thermage FLX รุ่นล่าสุด เครื่องแท้ ตรวจสอบได้ครับ
4. ลดริ้วรอยใต้ตา ด้วยคลื่นเสียง
การลดริ้วรอยใต้ตาด้วยคลื่นเสียงที่มีความปลอดภัย คือการทำ Hifu ด้วยเครื่อง Hifu Ultraformer III บริเวณใต้ตา หลักการทำงานของเครื่อง Hifu เมื่อยิงเข้าไปในชั้นผิวบริเวณใต้ตา จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจน และกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่ หลัก ๆ คือเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblasts)
เนื้อเยื่อที่สร้างใหม่นี้จะแน่นกว่าของเดิม กระชับกว่า ทำให้ผิวใต้ตากระชับ เต่งตึง ลดริ้วรอยใต้ตาได้อย่างเห็นผล เหมาะสำหรับคนที่มีริ้วรอยใต้ตาไม่เยอะมาก มีผิวหย่อนคล้อย
ข้อดีของการลดริ้วรอยใต้ตาด้วย Hifu คือ หลังทำจะเห็นว่าริ้วรอยใต้ตาลดลง เห็นผลเต็มที่ใน 2-3 เดือน อยู่ได้นาน 5-6 เดือนครับ สามารถทำควบคู่กับการฉีดฟิลเลอร์หรือฉีดโบท็อก เพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตาให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
5. ลดริ้วรอยใต้ตา ด้วย Rejuran
รีจูรัน (Rejuran) สามารถลดริ้วรอยใต้ตา เพิ่มความยืดหยุ่นให้ใต้ตาดูตื้นขึ้นได้ เพราะด้วยคุณสมบัติของ Rejuran ที่สกัดจาก DNA ปลาแซลมอน (Salmon DNA) ที่อาศัยอยู่ในทะเลตามธรรมชาติ มีส่วนประกอบหลักจากโพลีนิวคลีโอไทด์ (Polynucleotide) หรือ PN บริสุทธิ์ เข้มข้น 2% ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับ DNA มนุษย์ 98% นั้นมีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิวเร่งด่วน ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ฉ่ำวาว กระชับรูขุมขน และลดริ้วรอย
หลังฉีดรีจูรัน ประมาณ 4 สัปดาห์ถึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน ใต้ตาดูสดใสและกระจ่างขึ้น แนะนำให้ฉีดรีจูรันจำนวน 4 ครั้ง ห่างกัน 2-3 สัปดาห์ เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
6. ลดริ้วรอยใต้ตา ด้วยเมโสใต้ตา
เมโสใต้ตา ที่นิยมฉีดจะเป็นยี่ห้อ Filorga ตัวเดียวกับที่ฉีดเมโสหน้าใส เป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่มีส่วนผสมของ HA เช่นเดียวกับฟิลเลอร์ แต่จะเป็น HA แบบ Non Cross-Linked ไม่เชื่อมเกาะกัน ทำให้กระจายตัวใต้ผิวได้ง่าย จุดเด่นหลัก ๆ คือ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวบริเวณที่ฉีด Filorga ใต้ตา จะทำให้ใต้ตาดูอิ่มฟู สดใสขึ้น และยังช่วยให้ริ้วรอยเล็ก ๆ ใต้ตาแลดูจางลง แต่ผลลัพธ์จะอยู่ได้ไม่นาน ต้องฉีดบ่อย ส่วนใหญ่การฉีดตัวยาเมโสจะนิยมฉีดบำรุงผิวหน้า เพื่อฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวมากกว่าครับ
7. ลดริ้วรอยใต้ตา ด้วยการฉีดไขมัน
การฉีดไขมันลดริ้วรอยใต้ตาเป็นการนำไขมันของตัวคนไข้เองมาฉีด ช่วยลดความเสี่ยงต่อการแพ้ได้ แต่กระบวนการมีความยุ่งยาก เพราะจะต้องดูดไขมันออกปั่นแยกเป็นของเหลว ก่อนนำไปฉีด
นอกจากนี้ การฉีดไขมันอาจต้องเจ็บตัวหลายครั้ง เสี่ยงผิวไม่เรียบเนียนในภายหลัง และไม่สามารถเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก เนื่องจากไขมันเป็นสิ่งที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ หากจะให้ได้ผลดีต้องทำหลายครั้ง เมื่อเทียบกับการฉีดฟิลเลอร์ลดริ้วรอยใต้ตา การฉีดฟิลเลอร์สามารถจะแก้ปัญหาได้ตรงจุด ปลอดภัย และเห็นผลเร็วกว่าครับ
8. ลดริ้วรอยใต้ตา ด้วยเลเซอร์ใต้ตา
วิธีลดริ้วรอยใต้ตาด้วยเลเซอร์ เช่น Vbeam laser, Q-Ray, CO2 laser เป็นการใช้เลเซอร์ในกลุ่มที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หรือเลเซอร์ในกลุ่มลดเลือนริ้วรอย ช่วยให้รอยย่นใต้ตาค่อย ๆ จางลงได้ แต่ราคาค่อนข้างสูง และต้องทำหลายครั้งถึงจะเห็นผลชัดเจน เหมาะกับคนที่มีริ้วรอยเล็ก ๆ ใต้ตา แต่ถ้าริ้วรอยใต้ตาลึก กระดูกใต้ตายุบตัว จะไม่เหมาะกับการทำเลเซอร์ครับ
9. ลดริ้วรอยใต้ตา ด้วยการทำ PRP
การทำ Platelet Rich Plasma หรือ PRP เป็นวิธีลดริ้วรอยใต้ตาด้วยเกล็ดเลือดของตัวเอง แพทย์จะทำการเจาะเลือดประมาณ 20 CC นำมาปั่นสกัดเพื่อให้ได้เกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้นสูงแล้วนำมาฉีด สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ฟื้นฟูผิวรอบดวงตาให้กลับมาดูกระจ่างใส อิ่มฟู ริ้วรอยใต้ตาลดลง
ข้อดีของการทำ PRP ลดริ้วรอยใต้ตา คือเป็นการใช้เกล็ดเลือดของตัวเอง โอกาสที่จะเกิดอาการแพ้น้อยมาก เป็นวิธีที่มีความปลอดภัย แต่ข้อจำกัดค่อนข้างมาก ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคโลหิตจาง มีความผิดปกติของเกล็ดเลือด มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด และถ้าหากมีโรคประจำตัวอื่น ๆ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนทำครับ
10. ลดริ้วรอยใต้ตา ด้วยการศัลยกรรม
ถ้าคนไข้มีริ้วรอยใต้ตา ใต้ตาหย่อนคล้อยมาก ๆ มองเห็นเป็นถุงใต้ตาชัดเจน ต้องการผลลัพธ์ถาวร ไม่กลัวเจ็บ และมีเวลาพักฟื้น อาจต้องใช้การผ่าตัดศัลยกรรม เพื่อจัดการกับถุงใต้ตาหรือผิวใต้ตาที่หย่อนคล้อยมาก ๆ โดยหมอจะทำการผ่าตัดเอาผิวหนังส่วนเกินออกและเย็บบริเวณนั้นใหม่ ช่วยให้ผิวใต้ตาตึงกระชับ ลดริ้วรอยใต้ตาได้อย่างเห็นผล ควรเลือกศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพราะถ้าทำออกมาแล้วไม่สวย จะแก้ไขได้ยาก
11. ลดริ้วรอยใต้ตาด้วยตนเอง
วิธีลดริ้วรอยใต้ตาที่สามารถทำได้ด้วยตนเองมีหลายวิธีครับ ทั้งการบำรุง เพิ่มความชุ่มชื้น และปกป้องผิวบริเวณใต้ตาและรอบดวงตา เช่น ทาครีมลดริ้วรอยใต้ตา ครีมบำรุงใต้ตา (Eye Cream) อายครีมสูตรเรตินอล มาสก์ใต้ตาด้วยสมุนไพร เช่น แตงกวา ใบบัวบก แครอท มะเขือเทศ ใบตำลึง ว่านหางจระเข้ หรือใช้ Eye Mask เพื่อเป็นการเติมความชุ่มชื้นใต้ตา ช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ เมื่อทำเป็นประจำและต่อเนื่อง
12. ลดริ้วรอยใต้ตา ด้วยยาทา
ผู้มีปัญหาริ้วรอยใต้ตาเล็กน้อย และยังไม่อยากทำหัตถการทางการแพทย์ หรือไม่อยากเสียค่าใช้จ่ายมากนัก การเลือกใช้ยาทา หรือเวชสำอางในกลุ่มวิตามินซีและวิตามินเอ เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและปรับสีผิวบริเวณใต้ตา ก็จะช่วยให้ใต้ตาสดใสขึ้น ลดริ้วรอยใต้ตา และช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยที่ลึกในอนาคต แต่เนื่องจากเป็นยาทาภายนอก ต้องใช้ระยะเวลาถึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลง และมีข้อควรระวังครับในผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย อาจเกิดการระคายเคืองได้ ควรศึกษา ingredient ในผลิตภัณฑ์และควรทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้
13. การดูแลตนเองไม่ให้เกิดริ้วรอยใต้ตา
การดูแลตัวเองเพื่อป้องกันและชะลอการเกิดริ้วรอยใต้ตา วิธีที่ง่ายที่สุดที่สามารถทำได้ คือ ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายอย่างน้อย 1.5-2 ลิตร/วัน (8-10 แก้ว) เพื่อคงความชุ่มชื้นให้ผิวใต้ตา รวมถึงผิวหน้า ผิวกาย หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายผิว เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การโดนแสงแดดแรง ๆ การขยี้ตาหรือถูตาแรง ๆ เป็นต้น
ลดริ้วรอยใต้ตาที่ไหนดีที่สุด ?
ลดริ้วรอยใต้ตา ไม่ว่าจะทำหัตถการไหน หรือใช้เครื่องมืออะไร ผลลัพธ์ที่ดีและความปลอดภัยต้องมาควบคู่กันครับ ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ ดูแลโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้ผลิตภัณฑ์ ตัวยา และเครื่องมือที่ทันสมัย โดยพิจารณาได้จากปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
- คลินิกเปิดให้บริการอย่างถูกต้อง มีเลขใบอนุญาต 11 หลัก บรรยากาศภายในคลินิกมีความสะอาด สว่าง ปลอดเชื้อ
- แพทย์มีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้า สามารถประเมินปัญหาและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมของแต่ละบุคคล รวมถึงต้องมีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดยสามารถนำชื่อ-นามสกุลแพทย์ ไปตรวจในเว็บไซต์ของแพทยสภา https://checkmd.tmc.or.th/ เพื่อดูว่าเป็นแพทย์จริงหรือไม่
- ผลิตภัณฑ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้เป็นของแท้ ได้มาตรฐาน นำเข้าอย่างถูกต้อง
- มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงจากแหล่งเป็นกลางที่น่าเชื่อถือที่คลินิกไม่สามารถลบรีวิวออกได้เอง เช่น Wongnai, Pantip, Facebook Reviews และควรดูภาพก่อน-หลังทำ ทั้งภาพนิ่ง และ VDO ซึ่งจะตัดต่อได้ยากกว่ารูปภาพครับ
- ราคาสมเหตุสมผล ราคาหัตถการและเครื่องมือต่าง ๆ ต้องไม่ถูกหรือแพงจนเกินไป และมีหลายราคาให้เลือกได้ตามงบประมาณ
- มีหลายสาขาพร้อมให้บริการ เดินทางสะดวก V Square Clinic ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในห้างและใกล้ห้าง มีที่จอดรถ เดินทางได้ทั้งรถส่วนตัว และรถสาธารณะ
- มีบริการปรึกษาออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวก สามารถส่งรูปหน้าให้แพทย์ประเมินปัญหาก่อนได้ในเบื้องต้น ก่อนนัดหมายคิวหรือ Walk-in เข้าไปที่สาขา
สรุป
การมีริ้วรอยบนใบหน้า บ่งบอกถึงอายุที่มากขึ้น คุณภาพผิวที่เริ่มเสื่อมสภาพ รวมถึงการแสดงสีหน้าอารมณ์ต่าง ๆ ที่ทำให้ต้องใช้งานกล้ามเนื้อบนใบหน้ามากขึ้น ส่งผลต่อผิวบริเวณใต้ตา รอบดวงตา หางตา ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เกิดริ้วรอยได้ง่าย สาเหตุของปัญหาอาจไม่ได้เกิดที่ผิวชั้นนอกเท่านั้นครับ แต่อาจเกิดได้จากโครงสร้างผิว กระดูกยุบตัว การเปลี่ยนแปลงในชั้นไขมัน ทำให้เกิดเป็นริ้วรอยร่องลึกใต้ตา
หากการดูแลด้วยตัวเองเห็นผลช้า สามารถใช้วิธีทางการแพทย์ลดริ้วรอยใต้ตาเร่งด่วนได้ครับ ควรเลือกคลินิกเสริมความงามที่ได้มาตรฐาน แพทย์ที่มีประสบการณ์เพื่อให้คำแนะนำและเลือกวิธีลดริ้วรอยใต้ตาที่เหมาะสม แก้ปัญหาได้ตรงจุดครับ