เสริมจมูก
แน่นอนว่าเราคงไม่อยากจะต้องแก้จมูกกันใหม่หลาย ๆ ครั้ง เจ็บตัวผ่าตัดเสริมจมูกทั้งที ก็อยากทำครั้งเดียวแล้วได้ทรงจมูกสวยยดูดีรับกับใบหน้า จะได้ไม่ต้องมาแก้จมูกกันใหม่ภายหลัง เจ็บตัวซ้ำสอง จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมบางคนถึงหาข้อมูลอยู่นานเป็นปีกว่าที่จะตัดสินใจ เพราะอยากจะมั่นใจว่าเลือกคลินิก/โรงพยาบาล เลือกหมอได้ไม่ผิด ยิ่งถ้าเป็นเสริมจมูกครั้งแรก ยิ่งต้องมั่นใจ เพราะความสวยมาพร้อมความปลอดภัย เสริมจมูก คืออะไร? อันตรายไหม? เหมาะกับใคร? ข้อควรรู้ก่อนทำดั้งครั้งแรก ทุกคำถามและข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำจมูกในปี 2024 ติดตามได้ที่นี่
เสริเสริมจมูก คืออะไร ?
การเสริมจมูก (Rhinoplasty) คือ การศัลยกรรมตกแต่งเพื่อปรับเปลี่ยนขนาดหรือรูปทรงของจมูก เช่น เพิ่มความโด่ง ความสูงของสันจมูก ช่วยปรับมิติใบหน้าให้ได้สัดส่วนทองคำ (Golden Ratio) โดยใช้วัสดุซิลิโคน หรือกระดูกอ่อนและเนื้อเยื่อของตัวเอง เช่น เสริมจมูกกระดูกอ่อนหลังหู กระดูกอ่อนซี่โครง ซึ่งทำโดยแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง ที่มีความเข้าใจในศิลปะการออกแบบใบหน้า จะสามารถวิเคราะห์และแนะนำรูปทรงจมูกได้อย่างเหมาะสม ทรงจมูกสวยรับกับใบหน้า
เสริมจมูกมีกี่แบบ ?
เสริมจมูกที่ได้รับความนิยมมีอยู่ 2 แบบ ตามเทคนิคการผ่าตัดเสริมจมูก ดังนี้
การเสริมจมูกแบบโอเพ่น (Open Rhinoplasty)
การเสริมจมูกแบบโอเพ่นหรือการเสริมจมูกแบบเปิดนี้ หมอจะผ่าตัดเปิดแผลบริเวณด้านล่างจมูก (ฐานจมูก) เพื่อจะได้เห็นโครงสร้างทั้งหมด สามารถตกแต่งกระดูกฐานจมูกให้มีขนาดเล็กลง แก้ไขและจัดกระดูกอ่อนในโพรงจมูก เช่น สันจมูก ฮัมพ์ รวมทั้งผ่าตัดปีกจมูกให้สวยงามเข้ารูป ปรับแต่งปลายจมูกให้ดูเรียวเล็ก หลังผ่าตัดเสริมจมูกมีเพียงรอยผ่าตัดบริเวณด้านหน้าจมูก (Columellar incision)
การเสริมจมูกแบบปิด (Close Rhinoplasty)
หมอจะผ่าตัดกรีดเปิดแผลเล็ก ๆ ด้านในในรูจมูกเพียงด้านใดด้านหนึ่ง ไม่ต้องเปิดจมูกทั้งหมด จากนั้นจะใส่ซิลิโคนเสริมจมูกเข้าไปในตำแหน่งที่ต้องการ ตั้งแต่สันจมูกไปจนถึงปลายจมูก วิธีนี้แผลผ่าตัดจะอยู่ภายในรูจมูก มองไม่เห็นแผลผ่าตัด เหมาะกับคนที่มีรูปทรงจมูกเดิมดีอยู่แล้วระดับหนึ่ง ไม่ต้องปรับแก้ไขถึงโครงสร้าง
สรุปข้อดี – ข้อเสีย ของการเสริมจมูกแบบเปิดและแบบปิด
การเสริมจมูกแบบโอเพ่น สามารถจะปรับขนาดทรงจมูก เพิ่มความยาวให้สำหรับที่มีปลายจมูกสั้นและเชิด โดยเทคนิคนี้สามารถจะยืดปลายจมูกให้โด่งและพุ่งขึ้นได้ ด้วยกระดูกอ่อนกลางจมูก ได้ทรงจมูกปลายหยดน้ำได้โดยไม่ต้องเสริมซิลิโคน และยังสามารถเพิ่มความสูงได้ด้วยกระดูกอ่อนหรือเนื้อเยื่อเทียม ซึ่งจะไม่เกิดปัญหาจมูกทะลุในอนาคตและอยู่ได้ถาวร สามารถใช้เสริมเพื่อรองปลายสำหรับคนที่มีผิวบาง
ข้อดี
- แก้ปัญหาได้ตรงจุด มองเห็นปัญหาจากโครงสร้างภายในได้ชัดเจน
- ไม่ต้องกังวลกับปัญหาการเกิดซิลิโคนทะลุ
- ผลลัพธ์ออกมาดูสวยงาม เป็นธรรมชาติ
ข้อเสีย
- ใช้ระยะเวลาผ่าตัดนาน ต้องปรับโครงสร้างจมูกใหม่
- หลังผ่าตัดมีอาการบวมช้ำได้นานกว่า
- มีราคาค่อนข้างสูง
การเสริมจมูกแบบปิด ไม่ได้เป็นการปรับแก้โครงสร้างจมูก ถ้าทรงจมูกเดิมค่อนข้างโอเค ฐานจมูกไม่ใหญ่จนเกินไป สันจมูกไม่แบบเรียบมากเกินไป รูปทรงจมูกไม่เบี้ยวและยาวหรือสั้นเกินไป สามารถผ่าตัดด้วยเทคนิคนี้ได้ แต่ถ้ามีเนื้อจมูกบางหรือจมูกสั้นไม่แนะนำ เพราะอาจมองเห็นเป็นแท่งซิลิโคน ดูไม่เป็นธรรมชาติ และมีโอกาสเกิดซิลิโคนทะลุได้
ข้อดี
- แผลผ่าตัดเล็กและมองไม่เห็นแผลผ่าตัด
- บวมช้ำน้อย เนื่องจากกรีดเปิดแผลเล็ก ๆ
- การดูแลตัวเองไม่ยุ่งยาก
ข้อเสีย
- ไม่เหมาะกับคนที่มีเนื้อจมูกบางหรือจมูกสั้น
- ผลลัพธ์ออกมาอาจดูไม่เป็นธรรมชาติ
- มีโอกาสเกิดซิลิโคนเบี้ยวหรือซิลิโคนทะลุ
ใครที่เหมาะสำหรับการเสริมจมูก
การเสริมจมูก เหมาะสำหรับคนที่มีทรงจมูกแบน จมูกสั้น จมูกกว้าง จมูกบาน ปีกจมูกใหญ่ จมูกเบี้ยว จมูกเอียง จมูกไม่สมส่วนรับกับใบหน้า ต้องการปรับโหงวเฮ้งจมูก เสริมดวงด้านการเงิน อำนาจวาสนา ความรัก และคู่ครอง หรือแก้ปัญหาในคนที่จมูกผิดรูปร่างจากโรค เช่น เคยผ่านการผ่าตัดเนื้อเนื้องอกจมูก จากความพิการแต่กำเนิด จากอุบัติเหตุ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
นอกจากนี้การเสริมจมูก ทำจมูก ยังต้องอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถทำได้ ดังนี้
- มีอายุ 18-20 ปีขึ้นไป เพราะในช่วงนี้จมูกใบหน้าจะเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว
- ไม่ได้อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
- ไม่แนะนำให้ทำในผู้ที่ใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน หรือโรคหลอดเลือดผิดปกติต่าง ๆ เช่น เส้นเลือดตีบ
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่อาจส่งผลต่อการผ่าตัด เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
- หากเป็นหวัด หรือมีแผลติดเชื้อ ควรรักษาให้หายก่อนเสริมจมูก
เสริมจมูก อันตรายไหม ?
การเสริมจมูก เป็นการผ่าตัดศัลยกรรมที่อาจเกิดความเสี่ยงและผลข้างเคียงได้ แต่อย่าเพิ่งล้มเลิกการผ่าตัดเสริมจมูกไปก่อน เพราะถ้าเตรียมความพร้อมมาดี ก็มั่นใจได้ในความปลอดภัย โดยก่อนตัดสินใจเสริมจมูก 3 ปัจจัยหลัก ๆ ที่ในการเลือก คือ
- เลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน อุปกรณ์และเครื่องมือต่าง ๆ อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และต้องสะอาด ปลอดเชื้อ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อภายหลัง
- เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ สามารถประเมิน ออกแบบซิลิโคนให้เข้ากับใบหน้าแต่ละบุคคล จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมกับใบหน้า ตรงกับความต้องการ
- เลือกใช้วัสดุซิลิโคนที่มีคุณภาพ เพื่อให้การเสริมจมูกเป็นไปได้ด้วยดีและปลอดภัย
วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูก
ซิลิโคน
- ซิลิโคนแบบสำเร็จรูป จะขึ้นเป็นทรงมาให้แล้ว มีโอกาสเบี้ยวหรือเอียงน้อย เรียกชื่อตามลักษณะทรงจมูก เช่น ซิลิโคนแมนทิส, ซิลิโคนบาร์บี้, ซิลิโคนซินเดอเรลล่า, ซิลิโคนแบบ L-shape
- ซิลิโคนแบบเหลาเอง จะมาเป็นแท่งหรือบล็อกสี่เหลี่ยมมา แพทย์จะเป็นคนดีไซน์และเหลาทรงให้เข้ากับรูปจมูกแต่ละเคส ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์ ความชำนาญ และความแม่นยำ
นอกจากนี้ซิลิโคนยังมีหลายเกรด มีลักษณะความอ่อน-แข็งของซิลิโคนที่ต่างกัน ที่นิยมในปัจจุบันได้แก้
- ซิลิโคนอเมริกา (USA) ซิลิโคนจมูกสีขาว และมีความนิ่มปานกลาง เหมาะกับคนที่มีเนื้อบริเวณสันจมูกเยอะนิยมนำมาเหลาขึ้นรูปให้เหมาะกับทรงจมูกของแต่ละคน
- ซิลิโคนเกาหลี (KR) ซิลิโคนจมูกสีน้ำตาลหรือสีเหลือง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการทรงจมูกที่ดูเป็นธรรมชาติ จมูกทรงเกาหลีไม่โด่งมากจนเกินไป
กระดูกอ่อน
การใช้วัสดุกระดูกอ่อนได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เนื่องจากเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้ได้น้อย และยังได้จมูกที่สวย แข็งแรง และดูเป็นธรรมชาติมาก อีกทั้งยังป้องกันการทะลุได้ในอนาคต แต่จะมีราคาแพงกว่าการเสริมจมูกแบบซิลิโคนทั่วไป โดยกระดูกอ่อนที่ใช้จะมาส่วนต่าง ๆ ดังนี้
- กระดูกอ่อนจากใบหู เสริมปลายจมูกให้สวย ป้องกันปลายจมูกทะลุ
- กระดูกอ่อนซี่โครง ช่วยเพิ่มสันจมูก
- กระดูกอ่อนจากผนังกั้นจมูก เสริมจมูกยืดผนังกั้นจมูก เพื่อยืดปลายจมูกให้ยาวและพุ่ง
เสริมจมูก ตอกฐานจมูก คืออะไร ?
การตอกฐานจมูก คือหนึ่งในเทคนิคการปรับแก้จมูกก่อนใส่ซิลิโคน สามารถทำได้ทั้งการผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิด และการผ่าตัดเสริมจมูกแบบปิด จะช่วยแก้ปัญหาโครงสร้างและรูปทรงจมูกที่มีมาแต่เดิม ทำให้ได้จมูกที่เรียวสวยเข้ากับรูปหน้ายิ่งขึ้น เช่น
- ช่วยปรับจมูกที่แกนใหญ่และฐานกว้างเกินไป ให้เรียวเล็กลงอย่างชัดเจน
- ช่วยแก้ไขฮัมพ์นูนที่ทำให้จมูกโก่งงองุ้ม ใบหน้าดูแข็ง ให้สโลปโค้งสวย ใบหน้าดูหวานละมุนยิ่งขึ้น
- ช่วยแก้ปัญหาจมูกเบี้ยวเอียง แกนคด ทั้งที่เป็นมาแต่แรกหรือเกิดจากอุบัติเหตุ
- ช่วยปรับโครงสร้างจมูกให้เรียบและตรงก่อนใส่ซิลิโคนเสริมจมูก ลดปัญหาจมูกเอียงหลังการศัลยกรรมได้
เสริมจมูกพร้อมตัดปีกจมูก
การตัดปีกจมูกสามารถทำพร้อมกับการเสริมจมูกได้ เพราะการตัดปีกจมูกไม่ได้เกี่ยวข้องกับความโด่งของจมูก
การตัดปีกจมูก เป็นการผ่าตัดแก้ทรงจมูกให้มีขนาดสมส่วน สมดุลกับใบหน้า เหมาะกับคนที่มีปีกจมูกกว้าง ปีกจมูกใหญ่ ปีกจมูกบาน หลังตัดปีกจมูกจะทำให้จมูกดูเรียวเล็กลง ใบหน้าดูสมส่วน สวยหวานขึ้น ในคนที่ดั้งโด่งอยู่แล้ว แต่ปีกจมูกกว้าง ก็สามารถตัดปีกจมูกอย่างเดียวได้ โดยไม่จำเป็นต้องเสริมจมูกเพิ่ม
เสริมจมูก เนื้อน้อยทำได้ไหม ?
การเสริมจมูกเนื้อน้อย สามารถทำได้ ในการผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิด หรือเสริมจมูกโอเพ่น สามารถเสริมปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังใบหู กระดูกซี่โครง หรือเสริมจมูกเนื้อเยื่อเทียม ไม่ต้องกังวลกับปัญหาการเกิดซิลิโคนทะลุในกรณีที่ผิวบางหรือมีเนื้อจมูกน้อย
เลือกทรงจมูกอย่างไร ให้เหมาะกับใบหน้า
จะเลือกทรงซิลิโคนจมูกทรงไหน หรือมีทรงจมูกที่ชอบในใจ เช่น ทรงจมูกของดารา ก็สามารถนำไปให้คุณหมอดูได้ว่าเหมาะสมกับโครงสร้างจมูกเดิมของเราหรือไม่ ถ้าไม่ได้จะปรับแต่งอย่างไร ใช้เทคนิคไหนเพื่อให้ได้ทรงจมูกที่โด่งสวยเหมาะสม สวยรับกับใบหน้าที่สุด
เสริมจมูกผู้ชาย เสริมจมูกผู้หญิง แตกต่างกันไหม ?
- เสริมจมูกผู้ชาย มีสันจมูกตรงสวยตั้งแต่ช่วงระหว่างคิ้วลงมา เพื่อเพิ่มความคมให้ใบหน้า
- เสริมจมูกผู้หญิง มีความโค้ง สโลป ปลายพุ่ง ทำให้หน้าดูหวาน
ทั้งนี้ ไม่ได้กำหนดตายตัวว่าจมูกผู้ชายต้องทรงนี้ หรือจมูกผู้หญิงต้องทรงนั้น ขึ้นอยู่กับสัดส่วนของใบหน้า บุคลิกหรือแม้แต่อาชีพการงานก็ที่มีผลต่อการเลือกทรงจมูกด้วยเช่นกัน ต้องทำออกมาแล้วดูดีขึ้น มั่นใจมากขึ้น เพิ่มเสน่ห์ให้ใบหน้า
เสริมจมูก ราคาแพง ราคาถูก ต่างกันอย่างไร ?
เสริมจมูกราคาแพง ราคาถูก ราคาที่ต่างกันจะมาจากปัจจัย ดังนี้
- ประสบการณ์ ฝีมือ และชื่อเสียงของแพทย์
- เทคนิคเฉพาะที่ใช้ในการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมจมูก
- ความยาก-ง่าย เช่น ต้องปรับแก้โครงสร้างจมูกใหม่
- คุณภาพของวัสดุซิลิโคน หรือใช้กระดูกอ่อน
- โปรโมชั่นราคา
การเตรียมตัวก่อนเสริมจมูก
- สำรวจจมูก เพื่อหาจุดไม่พอใจ เช่น ปีกจมูกกว้าง ปลายจมูกกลม จมูกสั้น ดั้งไม่โด่ง
- ศึกษาข้อมูลในการทำศัลยกรรมจมูก และข้อสงสัยไว้ เพื่อสอบถามกับคุณหมอ
- ศึกษาหาโรงพยาบาลหรือคลินิกให้ดี เลือกทรงจมูกที่ชอบ และสอบถามกับคุณหมอว่าเหมาะสมหรือไม่ เป็นการวางแผนร่วมกัน
- ถามข้อสงสัยที่ข้องใจให้หมด เพื่อที่จะได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง
ขั้นตอนการเสริมจมูก
เสริมจมูกซิลิโคน | เสริมจมูกแบบโอเพ่น |
---|---|
แพทย์ให้ยานอนหลับเพื่อลดความกังวลใจ และฉีดยาชารอบจมูก | แพทย์จะเปิดแผลบริเวณฐานจมูก แยกผิวหนังออกจากโครงสร้างของจมูก เพื่อเข้าไปตกแต่งกระดูกฐานจมูกให้มีขนาดเล็กลง |
เปิดแผลบริเวณขอบรูจมูกยาวประมาณ 1 เซนติเมตร เพื่อสร้างช่องว่างที่สันจมูกใต้เยื่อหุ้มกระดูกจมูก แผลเปิดนี้อาจเปิดข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้ ขึ้นอยู่กับความถนัดของแพทย์ | แก้ไขและปรับแต่งโครงสร้างเดิมที่มีปัญหา เช่น การตัดแต่งกระดูกจมูกเดิมที่คดเบี้ยว การตะไบกระดูกสันจมูกนูน (ฮัมพ์) เป็นต้น |
ใส่แท่งซิลิโคนที่ดีไซน์รูปทรงให้ออกมาเหมาะสมเข้ากับโครงสร้างของใบหน้าแต่ละคนเข้าไป ตั้งแต่สันจมูกถึงปลายจมูก เช่น ทรงจมูกสโลปปลายพุ่ง จมูกทรงหยดน้ำ จมูกเกาหลี | บางเคสมีการผ่าตัดปีกจมูกให้สวยงามเข้ารูป ปรับแต่งปลายจมูกให้ดูเรียวเล็ก |
จัดวางซิลิโคนเรียบร้อยดี เย็บจมูกปิดแผล และปิดพลาสเตอร์หรือเฝือกจมูกป้องกันตัวจมูกและลดอาการบวม | รองปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนกลางจมูก ยืดปลายจมูกให้เรียวยาว ป้องกันการทะลุได้ในคราวเดียวกัน ขึ้นอยู่กับการการประเมินของแพทย์ |
- การเสริมจมูกด้วยซิลิโคนเป็นการผ่าตัดเล็ก ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หลังทำไม่จำเป็นต้องนอนพักค้างคืนที่โรงพยาบาล นอนพักประมาณ 1 ชั่วโมง จนกว่ายานอนหลับจะหมดฤทธิ์ สามารถกลับบ้านได้เลย
- การเสริมจมูกแบบโอเพ่น จะมีเพียงรอยแผลบริเวณ columellar incision (ด้านหน้าจมูก) ใช้เวลาการผ่าตัดนานประมาณ 3-5 ชั่วโมง จะมีการฉีดยาชาเฉพาะที่ ร่วมกับการให้ยานอนหลับอ่อน ๆ หลังผ่าตัดพักฟื้นประมาณ 2-3 ชั่วโมง รอยานอนหลับหมดฤทธิ์ ก็สามารถกลับบ้านได้
การดูแลตัวเองหลังเสริมจมูก
- 24 ชม. อาจจะรู้สึกปวดศีรษะ ปวดบริเวณจมูก บวมบริเวณใบหน้า บวมมากที่สุดใน 2-3 วันแรก ให้รับประทานยาแก้ปวด และต้องรับประทานยาแก้อักเสบตามที่แพทย์สั่งให้หมด
- 3-7 วัน งดออกกำลังกายและทำกิจกรรม เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ มีเพศสัมพันธ์ สั่งน้ำมูก ขยี้จมูก ก้มหน้านาน ๆ และยกของหนัก
- 7 วัน ประคบผ้าเย็นหรือถุงน้ำแข็งรอบบริเวณที่ติดเทปจมูก ห้ามโดนส่วนที่ติดพลาสเตอร์เด็ดขาดเมื่อครบ 7 วัน ให้ใช้น้ำอุ่นค่อย ๆ เช็ดและลอกพลาสเตอร์ออกอย่างเบามือ ประคบอุ่นบริเวณที่บวมช้ำ
- 7-14 วัน ขณะนอนใช้หมอน 2 ใบวางซ้อนกัน เพื่อให้ระดับของหมอนสูงขึ้น และใช้หมอนรองคอ ช่วยประคับประคองและป้องกันการนอนตะแคง
- 3 เดือนขึ้นไป จมูกจะยุบบวมและเข้าที่ โดยจะยุบบวมประมาณ 60% ใน 1 อาทิตย์ ยุบ 80% ใน 1 เดือน ยุบบวมและเข้าที่ 90-100% ในอีก 3-6 เดือน
รีวิวเสริมจมูก
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเสริมจมูก
เสริมจมูกเจ็บไหม ?
ในระหว่างการผ่าตัดจะมีการใช้ยานอนหลับหรือยาชา ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บขณะทำ แต่หลังจากนั้นต้องกลับไปพักฟื้นอาจมีอาการช้ำ ระบม เป็นเรื่องปกติ อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ
เสริมจมูกใช้เวลาพักฟื้นกี่วัน ?
ระยะเวลาการพักฟื้นจะขึ้นอยู่กับเทคนิคการผ่าตัดเสริมจมูกที่ใช้ ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคนด้วย ในเคสแก้จมูก ระยะเวลาการพักฟื้นอาจจะนานกว่าทำจมูกใหม่ 2-3 วัน รวมทั้งทั้งระยะเวลาเข้าที่ก็อาจจะนานกว่า 1-2 เดือน แล้วแต่บุคคล
- พักฟื้น 3-7 วัน
- เข้าที่ 3 เดือนขึ้นไป
แผลเสริมจมูกกี่วันเข้าที่ กี่วันหายบวม ?
แผลเสริมจมูกจะยุบบวมและเข้าที่ โดยจะยุบบวมประมาณ 60% ใน 1 อาทิตย์, ยุบ 80% ใน 1 เดือน, ยุบบวมและเข้าที่ 90-100% ในอีก 3-6 เดือน
เสริมจมูกกินอะไรได้บ้าง ?
ฟักทอง อุดมไปด้วยวิตามิน A ที่มีส่วนช่วยรักษาอาการอักเสบและการติดเชื้อหลังผ่าตัด อีกทั้งยังช่วยขจัดเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมขับออกทางของเสียของร่างกาย ส่งผลทำให้อาการบวมช้ำหายเร็วขึ้น
- เมนูแนะนำ : ซุปฟักทอง ขนมฟักทอง ฟักทองนึ่ง และฟักทองผัดไข่
สาหร่ายทะเลต่าง ๆ มีผลโดยตรงกับอาการลดบวม เนื่องจากสาหร่ายเป็นพืชที่มีเส้นใยแร่ธาตุสูงและยังมีแคลเซียมจำนวนมากที่ช่วยให้ระบบการดูดซึมออกซิเจนของร่ายการทำงานได้ดี ช่วยทำให้อุณหภูมิร่างกายอบอุ่นและลดอาการบวมช้ำได้
- เมนูแนะนำ : ยำสาหร่าย สาหร่ายแผ่นทอดกรอบ ซูชิสาหร่าย และซุปสาหร่าย
ถั่วดำ มีสรรพคุณขับสารพิษและสิ่งแปลกปลอมออกจากร่างกายผ่านทางอุจจาระ เช่นเดียวกันกับฟักทองที่ช่วยให้อาการติดเชื้อหรืออาการอักเสบหลังผ่าตัดนั้นทุเลาลงได้อย่างรวดเร็ว อาการบวมช้ำค่อย ๆ ดีขึ้น
- เมนูแนะนำ : ข้าวเหนียวถั่วดำ แกงบวดถั่วดำ และสาคูถั่วดำ
หลังเสริมจมูกห้ามกินอะไร หลัง 1 เดือนกินอะไรได้บ้าง ?
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กินแล้วเมาควบคุมสติไม่ได้ อาจล้มหรือเดินชนทำให้จมูกที่เพิ่งทำมากระทบกระเทือนได้
- อาหารหมักดอง ปลาร้า แหนม ผักดอง ปูดอง เพราะอาจไม่สะอาด ทำให้แผลติดเชื้อได้
- อาหารเสริมวิตามิน E ใบแปะก้วย วิตามินบางตัวทำให้มีเลือดออกมากระหว่างผ่าตัด ถือว่าเสี่ยงมาก ดังนั้น ก่อนผ่าตัดและหลังผ่าตัดควรงดอย่างยิ่ง
- อาหารรสจัดจ้าน ทำให้น้ำมูกไหล เป็นสาเหตุให้มีการติดเชื้อของแผลผ่าตัดได้
- อาหารที่มีรสเค็ม โซเดียมสูง เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพราะจะทำให้บวมน้ำ จมูกยุบบวมช้า
หลังเสริมจมูกควรดูแลตัวเองตามคำแนะนำของคุณหมอ หลังจากแผลเข้าที่ หายดีแล้ว หลัง 1 เดือน ก็สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ
ฉีดฟิลเลอร์จมูก แล้วมาเสริมจมูกได้ไหม ?
ในเคสที่เคยฉีดฟิลเลอร์จมูก แล้วเปลี่ยนใจอยากเสริมจมูกภายหลัง สามารถทำได้ ไม่ได้มีข้อห้ามไว้ โดยคุณหมอจะต้องขูดฟิลเลอร์ตามแนวที่จะวางซิลิโคนออกก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการดึงรั้งจมูกในอนาคต ซึ่งอาจทำให้จมูกผิดรูปได้
ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลเบื้องต้นสำหรับคนที่คิดอยากเสริมจมูก ทำจมูกครั้งแรก เลือกคลินิก/โรงพยาบาล เลือกหมอ และเลือกใช้วัสดุคุณภาพ เพื่อให้ได้ทรงสมูกสวยและปลอดภัย