ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
หนึ่งในปัญหาที่ทำให้ใบหน้าดูไม่มีมิติ ไม่สมส่วน คือการมีหน้าผากแบน หน้าผากยุบ ซึ่งเป็นปัญหาที่ใครหลายคนมักจะมองข้ามครับ ส่วนใหญ่คนมักจะคิดว่าใบหน้าที่ดูไม่มีมิติ เกิดจากจมูกที่แบนหรือแก้มตอบเท่านั้น แต่ความจริงแล้วพื้นที่ ๆ ใหญ่ที่สุดบนใบหน้า คือ หน้าผาก การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เสริมความโหนกนูน จะช่วยปรับภาพรวมของใบหน้าให้มีมิติ ดูอ่อนเยาว์ลงได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ใครที่ยังไม่เคยเสริมหน้าผากมาก่อน และสงสัยว่าการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ต่างจากการผ่าตัดเสริมหน้าผากอย่างไร ? อันตรายไหม ? นอกจากช่วยเติมเต็มหน้าผากให้สวยได้รูปแล้ว ช่วยเสริมโหงวเฮ้งที่ดีได้อย่างไร ราคาเท่าไหร่ ศึกษาได้ใบบทความนี้ครับ
สารบัญ ฟิลเลอร์หน้าผาก
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก คืออะไร ?
Filler หน้าผาก คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid หรือ HA ซึ่งเป็นสารเลียนแบบไฮยาลูรอนิค แอซิดที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นตามธรรมชาติ เข้าไปทดแทนคอลลาเจนในชั้นผิวที่เสื่อมสภาพเมื่ออายุมากขึ้น เป็นวิธีเสริมหน้าผากที่ปลอดภัย และไม่ต้องผ่าตัด
หลังฉีดหน้าผากสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงทันที ช่วยแก้ปัญหาหน้าผากได้หลากหลาย ปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนสวยงาม มีมิติ ช่วยเสริมโหงวเฮ้งให้ดีขึ้น ทำให้ผิวบริเวณหน้าผากที่ถูกเติมเต็มด้วยฟิลเลอร์เปล่งปลั่ง เต่งตึง เรียบเนียน และยังช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้ครับ
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง ?
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ช่วยเสริมหน้าผาก ปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน และยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น แก้ปัญหาหน้าผากได้หลากหลาย เช่น
- หน้าผากแบน
- หน้าผากบุ๋ม
- หน้าผากยุบ
- หน้าผากไม่เท่ากัน
- หน้าผากเป็นเคลื่น
- รอยย่นบนหน้าผาก
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ช่วยปรับโหงวเฮ้ง วาสนาดี อย่างไร ?
นอกจากการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะช่วยเรื่องความงามบนใบหน้าแล้ว ยังนิยมฉีดเพื่อปรับโหงวเฮ้ง ตามความเชื่อส่วนบุคคล ในตำราโหงวเฮ้งได้กล่าวไว้ว่าผู้ที่มีหน้าผากโหนกนูน เกลี้ยงเกลา บ่งบอกว่าเป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล จะมีความรุ่งเรือง รุ่งโรจน์ในด้านธุรกิจ หน้าที่การงาน
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก VS การเสริมหน้าผาก ต่างกันอย่างไร ?
การเสริมหน้าผากด้วยฟิลเลอร์ และการผ่าตัดเสริมหน้าผาก ให้ผลลัพธ์ที่ต่างกันอย่างไร ? ความจริงแล้วทั้งสองวิธีให้ผลลัพธ์ที่ไม่ต่างกันครับ แต่จะมีข้อดีและข้อเสียที่ต่างกัน ดังนี้
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก : เป็นวิธีเสริมหน้าผากด้วยการฉีดสาร Hyaluronic Acid ที่มีลักษณะเป็นเนื้อเจลเข้าไปเติมเต็ม โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ทำให้เกิดแผล ไม่ต้องพักฟื้น หลังฉีดฟิลเลอร์สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันที อาจมีอาการบวมเล็กน้อย แต่จะค่อย ๆ ดีขึ้นตามเวลา เห็นผลเต็มที่ใน 2 สัปดาห์ และอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือนขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของแต่ละคน
ฟิลเลอร์แท้ สามารถสลายหมดได้โดยไม่มีสารตกค้าง สามารถกลับมาฉีดฟิลเลอร์เติมหน้าผากใหม่ได้เรื่อย ๆ ตามคำแนะนำของแพทย์
ผ่าตัดเสริมหน้าผาก : เป็นการเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคน โดยใช้วิธีการกรีดช่วงไรผม ความยาวตามขนาดของซิลิโคน หลังผ่าตัดจะมีรอยแผลและสามารถเกิดเป็นรอยแผลเป็นตามมาได้
หลังผ่าตัดจะมีอาการบวมช้ำมากกว่าการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อป้องกันการอักเสบติดเชื้อ ต้องดูแลรักษาความสะอาดของแผลเป็นพิเศษ ผลลัพธ์หลังการผ่าตัดเสริมหน้าผากสามารถอยู่ได้ถาวร หากต้องการปรับแก้ต้องผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนซิลิโคนครับ
ข้อควรรู้และข้อควรระวังก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
บริเวณหน้าผาก มีเส้นเลือดสำคัญอยู่จำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นตำแหน่งที่กว้าง ต้องใช้ปริมาณของฟิลเลอร์ค่อนข้างมาก จึงต้องอาศัยประสบการณ์ของแพทย์ เพื่อไม่ให้พลาดฉีดโดนเส้นเลือดสำคัญ โดยเฉพาะเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงจอประสาทตา เพราะอาจทำให้ตาบอดได้ ก่อนตัดสินใจฉีดหน้าผากจึงควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้เทคนิคที่ถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยสูงสุดครับ
ฟิลเลอร์หน้าผาก ยี่ห้อไหนดี ?
Filler หน้าผากที่หมอแนะนำจะเป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เกลี่ยง่าย เมื่อเนื้อฟิลเลอร์เซตตัวกับเนื้อเยื่อของผิวจะมีความคงตัว ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
ที่ V Square Clinic ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่เหมาะกับการฉีดเพื่อเติมเต็มหน้าผาก 2 ยี่ห้อ คือ Juvederm Volbella และ Restylane Vital light ก่อนฉีดแพทย์จะเป็นผู้ประเมินปัญหา สภาพผิว และแนะนำฟิลเลอร์ยี่ห้อที่เหมาะสมให้ครับ
ฟิลเลอร์หน้าผาก 1 CC เพียงพอหรือไม่ ควรใช้กี่ CC ?
ก่อนฉีดหมอจะประเมินปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ ให้เหมาะสมกับปัญหาหน้าผากที่ต้องการแก้ไขเป็นรายบุคคล เช่น
- ผู้ที่ต้องการแก้ไขร่องหน้าผาก ร่องโหนกคิ้ว เพื่อเติมเต็มผิวให้เรียบเนียนเสมอผิวเดิม ปกติจะใช้ปริมาณฟิลเลอร์อยู่ที่ 1-2 CC
- กรณีที่ต้องการเพิ่มความโหนกนูน แก้ไขปัญหาหน้าผากแบน หน้าผากยุบ หรือต้องการเสริมโหงวเฮ้ง อาจต้องใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณที่มากขึ้น ประมาณ 3-5 CC โดยแพทย์จะแนะนำให้ทยอยเติมฟิลเลอร์ครั้งละไม่เกิน 5 CC เนื่องจากการเติมฟิลเลอร์ที่มากไปในบริเวณหน้าผาก จะทำให้เนื้อฟิลเลอร์ไปกดเนื้อเยื่อ ส่งผลให้หน้าผากบวม หรือเกิดการไหลย้อยได้
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
นอกจากเลือกฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์แล้ว การดูแลตัวเองที่ดีจะช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่ได้เร็ว เกาะผิว กลืนกันกับเนื้อเยื่อปกติของผิวได้ดี โดยมีวิธีการดูแลตัวเอง ดังนี้
- หลังฉีดฟิลเลอร์จะมีอาการบวมแดง รอยช้ำเขียวจากการฉีด สามารถประคบเย็นตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น เนื่องจากการประคบเย็นที่ผิดวิธีอาจส่งผลให้ฟิลเลอร์ไม่แกะผิว
- หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด รวมถึงกิจกรรมที่อาจส่งผลให้เลือดสูบฉีด (อย่างน้อย 48 ชม.) เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ รวมถึงการนั่งทานอาหารปิ้งย่างหน้าเตาร้อน ๆ
- หากมีอาการคันหลังฉีดฟิลเลอร์ ควรหลีกเลี่ยงการเกาบริเวณที่ฉีด อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ได้
- เลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพื่อลดการอักเสบของผิว
- ไม่ควรนอนคว่ำหรือนอนตะแคง เพื่อลดการกดทับบริเวณที่ฉีด
- ไม่ควรขยับหน้าผาก และใบหน้าโดยรวมบ่อยในช่วงแรก ๆ หลังจาก 2 สัปดาห์หลังฟิลเลอร์เข้าที่ สามารถขยับได้ตามปกติ
รีวิวการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
รีวิว ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ที่ V Square Clinic
จากผู้ใช้บริการจริง ก่อน-หลังทำ
ก่อนทำ : ในเคสนี้มีปัญหาหน้าผากยุบเป็นแอ่งตรงกลางหน้าผาก ต้องการปรับแก้ไขให้หน้าผากเต็ม กลมมน เพื่อแก้ไขโหงวเฮ้ง
หลังทำทันที : หน้าผากเต็มขึ้น มีความโค้งมน ช่วยเสริมโหงวเฮ้ง
ก่อนทำ : หน้าผากบุ๋มเป็นแอ่ง ส่งผลให้โหนกคิ้วเด่นขึ้นมา ทำให้หน้าดุ ไม่สดชื่น
หลังทำทันที : หน้าผากอิ่มเต็ม มีมิติรับกับใบหน้าได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ที่ไหนดี ?
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์หลังการฉีดที่ดี ตรงตามความต้องการ ควรให้ความสำคัญในการเลือกฉีดฟิลเลอร์กับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่สามารถตรวจสอบได้ และฉีดกับหมอที่มีประสบการณ์เท่านั้น
ยินดีให้คำปรึกษา โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถเข้ามาปรึกษาโดยตรงกับแพทย์ประจำสาขา หรือสอบถามผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ หมอจะเป็นคนตอบเองทุกเคสครับ
โปรโมชั่น ฟิลเลอร์หน้าผาก ที่ V Square Clinic
ราคาฟิลเลอร์หน้าผากแต่ละคลินิก ก็จะมีราคาที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ ที่ V Square Clinic มีฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm และ Restylane ที่เหมาะกับการฉีดบริเวณหน้าผาก ราคาเริ่มต้น 16,900 บาท/CC ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้ครับ
Q&A ฟิลเลอร์หน้าผาก
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก บวมกี่วัน ?
หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะมีอาการบวม ช้ำ เขียว ได้ในบริเวณที่มีการแทงเข็มเป็นเรื่องปกติ โดยอาการเหล่านี้จะดีขึ้นใน 2-3 วัน คนไข้สามารถทานยาแก้ปวด ลดบวม ที่คลินิกจ่ายให้ได้ ฟิลเลอร์จะเริ่มสมานกับเนื้อเยื่อและเข้าที่ใน 14 วัน หากอาการบวมไม่ดีขึ้น แนะนำให้กลับมาพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุหาแนวทางแก้ไขต่อไป
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก อันตรายไหม ?
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ไม่อันตรายครับ หากใช้ฟิลเลอร์แท้ ฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ฉีดในระดับความลึกที่เหมาะสม จะสามารถเลี่ยงจุดฉีดที่อันตรายได้ ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ควรศึกษาข้อมูล ดูรีวิวจากเคสที่ผ่านมา เปรียบเทียบก่อนทำ-หลังทำ เพื่อความมั่นใจว่าจะให้ผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัยที่สุดครับ
สรุป
ฟิลเลอร์หน้าผาก สามารถแก้ไขปัญหาหน้าผากแบน หน้าผากยุบ รวมถึงช่วยปรับโหงวเฮ้งที่ดีได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ทำให้เกิดแผล เห็นผลลัพธ์หลังทำทันที เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีหมอแนะนำให้ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ รู้เทคนิคการฉีดในระดับความลึกที่เหมาะสม ฉีดแล้วฟิลเลอร์ไม่เป็นก้อน หากพลาดฉีดโดนเส้นเลือดสำคัญ ก็สามารถแก้ไขได้ ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์อย่างถูกวิธีครับ