หน้าเหี่ยว
ปัญหาหน้าเหี่ยวย่น มีริ้วรอยบนใบหน้า เป็นปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สามารถป้องกันและแก้ไขให้ดีขึ้นได้ด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว ในบทความนี้หมอจะมาแนะนำวิธีการป้องกันหน้าเหี่ยว และเคล็ดลับการรักษาริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อยให้กลับมาตึงกระชับ เรียบเนียนได้อย่างเห็นผลครับ
สารบัญ หน้าเหี่ยว
ปัญหาหน้าเหี่ยวย่น มีริ้วรอย เกิดจากสาเหตุใด ?
ปัญหาหน้าเหี่ยวย่น มีริ้วรอย เกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น สภาพแวดล้อม และพฤติกรรมการใช้ชีวิต ดังนี้
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น
เมื่อเราอายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง ส่งผลให้ผิวไม่ยืดหยุ่น ผิวหน้าหย่อนคล้อย มีริ้วรอย
- มลภาวะ
มลพิษทางอากาศ น้ำ หรือฝุ่นควัน สามารถทำลายเซลล์ผิวให้อ่อนแอ เกิดริ้วรอยได้ง่าย
- แสงแดด
ในแสงแดดมีรังสี UVA และ UVB ที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพ เมื่อผิวโดนแดดเป็นระยะเวลานาน แสงยูวีจะเข้าไปทำลายชั้นผิว ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น ผิวคล้ำเสียและแห้งกร้าน
รังสี UV ในแสงแดดทำให้หน้าเหี่ยวและหมองคล้ำ
- ดื่มน้ำน้อย
น้ำ เป็นส่วนประกอบหลักของร่างกายครับ หากได้รับในปริมาณที่ไม่เพียงพอ จะทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น หน้าแก่ก่อนวัย
- ดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
แอลกอฮอล์ ทำให้ผิวเหี่ยวแห้ง ส่วนการสูบบุหรี่ จะทำให้หน้าแกเร็ว เนื่องจากในบุหรี่มีสารนิโคติน ส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวบอบบาง และหย่อนยาน
- การแสดงสีหน้าบ่อย ๆ
การแสดงอารมณ์ทางสีหน้าบ่อยหรือมากเกินไป เช่น การยิ้ม หัวเราะ ขมวดคิ้ว หรือขยี้ตาบ่อย ๆ จะทำให้เกิดริ้วรอยที่เรียกว่า Dynamic Line คือรอยย่นที่เห็นเวลาแสดงสีหน้า เช่น รอยตีนกา รอยย่นหน้าผาก ร่องคิ้ว
10 วิธีทำให้หน้าไม่เหี่ยว
สำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย ผิวเหี่ยว หน้าย่น ต้องการรักษาผิวให้กลับมากระชับ เรียบเนียน หมอแนะนำ 10 วิธีที่มีประสิทธิภาพ ทำแล้วเห็นผลลัพธ์เร็ว ดังนี้
- ฉีดโบท็อก
- ฉีดฟิลเลอร์
- ฉีดเมโสหน้าใส
- Hifu Ultraformer III
- Ulthera SPT
- Thermage FLX
- ร้อยไหม
- การฉีด PRP
- ผ่าตัดดึงหน้า
- ทาครีมลดริ้วรอย
1. ฉีดโบท็อก
การฉีดโบท็อก คือการฉีดสาร Botulinum toxin A ซึ่งมีคุณสมบัติออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ ช่วยให้กล้ามเนื้อที่แสดงสีหน้าทำงานได้ลดลง ช่วยลดเลือนริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า ทำให้ผิวกลับมาตึง เรียบเนียน และยังช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้ครับ
การรักษาผิวเหี่ยวย่นด้วยการฉีดโบท็อก เป็นหัตถการที่เห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้จริง ไม่ต้องมีการเตรียมตัวที่ยุ่งยาก ใช้เวลาทำไม่นาน หลังทำไม่มีรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลเต็มที่ใน 2 สัปดาห์ และคงอยู่ได้นาน 4-5 เดือน สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ เช่น Hifu Ultraformer lll, Ulthera SPT, Thermage FLX เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
อ่านบทความเพิ่มเติม : โบท็อกลดริ้วรอย มีกระบวนการทำงานอย่างไร ? ฉีดจุดไหนได้บ้าง ?
2. ฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์ คือการฉีดสารไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไปเติมเต็มชั้นผิวที่เริ่มเสื่อมสภาพ และทดแทนส่วนของชั้นกระดูกหรือชั้นไขมันที่มีการยุบตัวเมื่อมีอายุมากขึ้น ทำให้ผิวกลับมาเต่งตึง ริ้วรอยร่องลึกตื้นขึ้น ให้ผลลัพธ์ที่เนียนสวย อิ่มฟู ดูเป็นธรรมชาติ เห็นผลทันทีที่ทำ
ฉีดฟิลเลอร์ให้ปลอดภัยและได้ผลดี ต้องฉีดด้วยฟิลเลอร์แท้ครับ เพราะสามารถสลายได้หมด 100% ตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้าง ไม่มีผลข้างเคียง สามารถฉีดซ้ำได้เรื่อย ๆ โดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และควรฉีดโดยหมอที่มีประสบการณ์สูงเท่านั้น
3. ฉีดเมโสหน้าใส
การฉีดเมโสหน้าใส ไม่ได้เป็นการรักษาหน้าเหี่ยวย่นโดยตรง แต่จะช่วยบำรุงผิว โดยการฉีดสารบำรุงต่าง ๆ เช่น วิตามิน แร่ธาตุ และกรดอะมิโน เข้าไปยังผิวชั้นกลาง เพื่อเติมความชุ่มชื้นและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น แข็งแรง ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย เห็นผลลัพธ์ไวกว่าการทาครีม
ฉีดเมโสสามารถทำควบคู่กับการฉีดโบท็อก ฉีดฟิลเลอร์ได้ครับ เพื่อเสริมประสิทธิภาพของผลลัพธ์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โบท็อกจะออกฤทธิ์ช่วยให้ริ้วรอยบนใบหน้าค่อย ๆ จางลง แก้ปัญหาหน้าเหี่ยวได้ตรงจุด ส่วนฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็ม เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวเรียบเนียน เต่งตึง ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยในอนาคต ทำให้หน้าเด็ก ดูอ่อนเยาว์
4. Hifu Ultraformer III
การทำ Hifu (High Intensity Focus Ultrasound) คือการใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง ส่งลงไปยังผิวหนังชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่หมอใช้ศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า เพื่อให้เกิดความร้อน 45-70°C ทำให้ผิวชั้น SMAS และชั้นไขมันเกิดการหดตัว ช่วยยกกระชับผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวหน้ายืดหยุ่นมากขึ้น
คนไข้ที่มีผิวหน้าหย่อนคล้อย หน้าเหี่ยว มีริ้วรอย เมื่อยกกระชับผิวด้วยการทำ Hifu จึงช่วยลดริ้วรอย ผิวหน้าเรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์ขึ้นครับ
ที่ V Square Clinic จะใช้เครื่อง Hifu ยี่ห้อ Hifu Ultraformer III มีหัวยิงที่หลากหลายตามระดับความลึกของผิว สามารถแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด หลังทำเห็นผลทันที 20% เห็นผลเต็มที่ใน 2-3 เดือน อยู่ได้นาน 5-6 เดือน
5. Ulthera SPT
Ulthera SPT เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวที่มีหลักการทำงานคล้าย ๆ กับการทำ Hifu คือจะใช้คลื่นเสียงความถี่สูงและมีความเฉพาะเจาะจง ยิงลงไปใต้ผิวชั้น SMAS เพื่อยกกระชับผิวตามแนวที่ต้องการ ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน ลดปัญหาผิวหน้าเหี่ยวย่น สามารถทำได้ทั้งบริเวณใบหน้า ลำคอ และลำตัว
จุดเด่นของ Ulthera คือ หัวยิงที่มีความลึก 3 ระดับ สามารถแก้ปัญหาในชั้นผิวที่แตกต่างกัน และมีเทคนิค SPT (See-Plan-Treat) ซึ่งมองเห็นได้ถึงผิวชั้นลึก หน้าจอแสดงผลแบบ Real-Time ทำให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาและออกแบบการยิงพลังงานอย่างเหมาะสม ผลลัพธ์ที่ได้จึงแม่นยำ ตรงจุด และมีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1 ปี
อ่านบทความเพิ่มเติม : Ulthera SPT ดีอย่างไร ? ทำจุดไหนได้บ้าง ?
6. Thermage FLX
การทำ Thermage เป็นการใช้พลังงานคลื่นวิทยุ RF (Monopolar RF) ลักษณะเป็นก้อนขนาดใหญ่ ยิงลงไปในชั้นผิวหนัง ตั้งแต่ชั้นบนจนถึงชั้นไขมัน เพื่อยกกระชับผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน สลายไขมัน ทำให้ผิวหน้าเหี่ยวกลับมาแน่น กระชับ และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
Thermage ที่ V Square Clinic เลือกใช้ จะเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด คือ Thermage FLX มีจุดเด่นในด้านของหัวทิปที่กระจายพลังงานได้ครอบคลุมทุกชั้นผิว หน้าจอมีการแสดงผลแบบเรียลไทม์ ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้แม่นยำ มีระบบ Cooling Effect และพลังงานสั่น ป้องกันผิวไหม้และลดความเจ็บขณะทำ ช่วยให้คนไข้รู้สึกผ่อนคลายและเจ็บน้อยลง Thermage FLX สามารถทำจุดไหนได้บ้าง ? หมอเคยเขียนอธิบายไว้ในบทความก่อนหน้า สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ครับ
7. ร้อยไหม
การร้อยไหม คือ การใช้เข็มนำเส้นไหมละลายที่มีเงี่ยง สอดลงไปในชั้นผิวหนัง ผิวก็จะถูกเงี่ยงเกี่ยวขึ้นมาตามทิศทางที่ร้อยไหมเข้าไป ช่วยยกแก้มย้อยหรือผิวหน้าเหี่ยวย่นให้ตึงขึ้น ลดริ้วรอยบนใบหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัด หลังร้อยไหม เส้นไหมจะกระตุ้นให้ผิวบริเวณนั้นเกิดการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวแข็งแรงและกระชับ เต่งตึงขึ้นขึ้นได้อย่างชัดเจน เห็นผลรวดเร็วครับ
นอกจากนี้ การร้อยไหม ยังสามารถทำร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์ โบท็อก หรือ Hifu Ultraformer lll เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น ก่อนทำควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อประเมินปัญหา และวางแผนการรักษาอย่างตรงจุด เพื่อผลลัพธ์สวยงามและปลอดภัย
8. การฉีด PRP
การฉีด PRP (Pletlet Rich Plasma) คือการนำเลือดของตัวเองไปปั่นเพื่อแยกชั้นพลาสมาออกจากเม็ดเลือดต่าง ๆ เพื่อให้ได้สเต็มเซลล์มาฉีดบำรุงผิวในบริเวณที่ต้องการ ช่วยในการรักษาเนื้อเยื่อ ซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง ช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่น รอยแผลเป็น หลุมสิวให้เรียบเนียน
ข้อควรระวังคือ อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคเลือด ผู้ที่รับประทานยาต้านเกล็ดเลือด หรือยาละลายลิ่มเลือด และหลังทำอาจมีอาการบวมช้ำได้ครับ
9. ผ่าตัดดึงหน้า
การผ่าตัดดึงหน้า คือการทำศัลยกรรมเพื่อยกกระชับกล้ามเนื้อและไขมันใต้ผิวหนังให้เต่งตึง และตัดไขมันส่วนเกินออกเพื่อให้ใบหน้าเรียบเนียน ช่วยลดริ้วรอย ความหย่อนคล้อยได้ครับ แต่ก็แลกมาด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง รวมทั้งความเสี่ยงจากยาสลบ และการอักเสบติดเชื้อต่าง ๆ หลังทำอาจมีรอยแผล ทำให้ต้องพักฟื้น ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องใช้หน้าเร่งด่วน
10. ทาครีมลดริ้วรอย
การทาครีมที่มีส่วนผสมของวิตามิน และมอยเจอร์ไรเซอร์ จะช่วยบำรุงและเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวเนียนใส ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยได้ครับ แต่จะไม่สามารถลดริ้วรอยที่มีอยู่ก่อนแล้ว และต้องอาศัยระยะเวลาในการเห็นผล ประสิทธิภาพของผลลัพธ์จึงไม่ชัดเจนเท่าวิธีทางการแพทย์ครับ
วิธีป้องกันไม่ให้หน้าเหี่ยว ย่น ก่อนวัย
หน้าเหี่ยวย่นก่อนวัย สามารถป้องกันได้ด้วยวิธีการดูแลผิวง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ดังนี้ครับ
- ล้างหน้าให้สะอาดอย่างถูกวิธี
การล้างหน้าให้สะอาดจะช่วยขจัดความมันและสิ่งสกปรกที่ตกค้างในรูขุมขน ลดปัญหาผิว สิว ผดผื่นและริ้วรอย
- หมั่นทาครีมกันแดด
รังสี UV ในแสงแดดเป็นปัจจัยต้น ๆ ที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ และมีริ้วรอย ดังนั้นก่อนออกจากบ้าน ควรทาครีมกันแดดที่มี SPF สูง ๆ ใช้ปริมาณ 2 ข้อนิ้วมือ เพื่อช่วยปกป้องผิวหน้าจากแสงแดดและมลภาวะ
ทาครีมกันแดด 2 ข้อนิ้ว
- รับประทานผักและผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ
ในผักและผลไม้หลายชนิด เช่น ผักคะน้า ผักโขม อะโวคาโด้ มะม่วงสุก มะละกอสุก มะเขือเทศ มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการทำลายเซลล์ผิว บำรุงผิวให้เต่งตึง อ่อนเยาว์ และยังป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้ครับ หากรับประทานเป็นประจำจะช่วยให้ผิวแข็งแรง และชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
การรับประทานผักผลไม้จะช่วยบำรุงผิวและชะลอการเกิดริ้วรอย
- ดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม
การดื่มน้ำ 6-8 แก้วต่อวัน จะช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว ช่วยลดความแห้งและหยาบกร้านของผิว ทำให้ผิวอิ่มฟู เรียบเนียน
- พักผ่อนให้เพียงพอ
หากไม่อยากหน้าเหี่ยวย่น หน้าแก่ก่อนวัย ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมงครับ เพราะการนอนหลับจะช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของโกรทฮอร์โมน ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง
วิธีเลือกคลินิกดูแลผิวหน้า แก้ปัญหาหน้าเหี่ยวย่น
คลินิกดูแลผิวหน้าที่ได้มาตรฐาน มีวิธีสังเกต ดังนี้
- คลินิกเปิดให้บริการอย่างถูกต้อง มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก ห้องทำหัตถการกว้างขวาง บรรยากาศภายในคลินิกสะอาด ปลอดเชื้อ มีอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ครบครัน ทันสมัย
- หมอต้องมีความรู้และประสบการณ์ ควรเลือกหมอที่มีใบประกอบวิชาชีพ และมีความรู้เกี่ยวกับโครงสร้างของใบหน้า เพราะปัญหาหน้าเหี่ยวย่นไม่ได้เกิดจากการแสดงสีหน้าเท่านั้น แต่ยังอาจเกิดได้จากการยุบตัวของกระดูกเมื่ออายุมากขึ้น ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์ของแพทย์ครับในการประเมินปัญหาและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม แก้ปัญหาได้ตรงจุด
- ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ควรเลือกคลินิกที่ใช้ตัวยาแท้ เครื่องแท้ ได้มาตรฐาน มีตัวแทนจำหน่ายอย่างถูกต้อง สามารถตรวจสอบได้
- มีช่องทางการติดต่อที่หลากหลาย คลินิกควรมีช่องทางติดต่อ ทั้งโทรศัพท์และช่องทางออนไลน์ เช่น Facebook หรือ Line@ ให้คนไข้สามารถติดต่อสอบถามข้อสงสัยกับหมอได้โดยตรง
- มีการนัดติดตามผล มีหมอให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวและมีการนัดติดตามผลทุกครั้งหลังทำอย่างใกล้ชิด
ที่ V Square Clinic ให้บริการโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงด้านการปรับรูปหน้า ให้ความสำคัญกับการประเมินสภาพผิวที่ลงลึกถึงโครงสร้างผิว ตั้งแต่ผิวชั้นบนไปจนถึงชั้นกระดูก มีหลายหัตถการที่สามารถแก้ปัญหาที่แตกต่างกันในแต่ละเคส ไม่ว่าจะเป็น โบท็อก, ฟิลเลอร์, Hifu Ultraformer lll, Ulthera SPT, Thermage FLX, ร้อยไหม และฉีดเมโสหน้าใส แพทย์จะแนะนำวิธีที่เหมาะสม ตรงกับความต้องการและงบประมาณของคนไข้ครับ
สรุป
ปัญหาหน้าเหี่ยวย่น รักษาได้ด้วยหลายวิธีครับ ไม่จำเป็นต้องเลือกวิธีใดวิธีหนึ่ง สามารถทำหัตถการต่าง ๆ ร่วมกันได้ เช่น ฉีดโบท็อกร่วมกับร้อยไหม ทำ Hifu Ultraformer lll ร่วมกับฉีดเมโสหน้าใส เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งนี้ สามารถปรึกษาแพทย์ เพื่อให้แพทย์ประเมินสภาพผิว และแนะนำวิธีที่เหมาะสมกับแต่ละคนครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ
