ฉีดโบท็อก เจ็บไหม
ใครที่ต้องการฉีดโบท็อก แต่กลัวว่าฉีดโบท็อก เจ็บไหม ? เพื่อคลายความกังวล ในบทความนี้หมอจะมาให้คำตอบครับ เพราะจากการที่คนไข้เข้ามาปรึกษาปัญหาใบหน้ากับหมอ พบว่าคนไข้ส่วนมากกลัวเจ็บ กลัวเข็ม และกลัวว่าหลังฉีดโบท็อกจะมีผลข้างเคียงที่อันตราย
หากกลัวเจ็บ มีวิธีบรรเทาอย่างไร มียาชาไหม ? ฉีดโบท็อก เจ็บไหม? มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง ? หากมีอาการเจ็บ ทำอย่างไร อาการเจ็บแบบไหน ที่ควรพบแพทย์ ก่อนและหลังฉีด ปฏิบัติตัวอย่างไรเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด สามารถติดตามอ่านได้ครับ
สารบัญ ฉีดโบท็อก เจ็บไหม
ฉีดโบท็อก เจ็บไหม ?
ฉีดโบท็อก ไม่เจ็บครับ เนื่องจากการฉีดโบท็อก เป็นหัตถการที่ใช้เข็มขนาดเล็กฉีดลงในชั้นผิวที่ไม่ลึกมาก ซึ่งจากข้อมูลของคนไข้ที่เข้ามาฉีดโบท็อกบอกว่าเจ็บน้อยกว่าการกดสิว ก่อนฉีดมีการแปะยาชา และระหว่างฉีดจะมีการประคบน้ำแข็ง เพื่อลดความเจ็บจากเข็ม จึงไม่ต้องกังวลครับ
ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนมีประสบการณ์และใช้เทคนิคพิเศษในการฉีด มือเบา ไม่เจ็บ ลดโอกาสเกิดการบวม ช้ำ อาจมีเพียงรอยบวมเข็มเล็ก ๆ เท่านั้น ซึ่งสามารถหายได้อีกในช่วง 2-3 ชั่วโมงหลังฉีด ไม่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน หลังฉีดคนไข้สามารถกลับไปทำงานได้โดยไม่ต้องพักฟื้น
หลังฉีดโบท็อก หากมีอาการเจ็บ ปวด ทำอย่างไร ?
หลังฉีดโบท็อก หากมีอาการเจ็บหรือปวด คนไข้สามารถทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้ครับ ซึ่งผลข้างเคียงนี้เป็นแค่ชั่วคราว จะหายได้เองใน 2-3 วัน ระหว่างนี้คนไข้ควรงดจับ กด หรือนวดบริเวณที่ฉีด เพราะอาจทำให้เกิดการช้ำจากรอยลงเข็ม หรือหากมือไม่สะอาดอาจทำให้เชื้อโรคเข้าสู่แผลจากรอยเข็มได้ครับ
หลังฉีดโบท็อก อาการเจ็บแบบไหน ที่ควรพบแพทย์
- หลังฉีดโบท็อก 2-3 วัน ยังรู้สึกปวด
- สัมผัสบริเวณรอยเข็มแล้วเจ็บ
- มีอาการอักเสบและบวมแดงบริเวณที่ฉีดมากขึ้นผิดปกติ
หากมีอาการดังกล่าว ควรรีบกลับไปพบแพทย์เพื่อประเมินและรักษาตามอาการครับ ซึ่งกรณีนี้มักเกิดจากคนไข้เลือกฉีดโบท็อกกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือฉีดกับหมอกระเป๋าที่ไม่มีเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง ใช้อุปกรณ์ที่ไม่สะอาดมากพอ ไม่มีระบบการดูแลความสะอาดปลอดเชื้อ
ก่อนฉีดโบท็อก เตรียมตัวอย่างไรบ้าง ?
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบท็อก รวมถึงวิธีการสังเกตโบท็อกแท้แต่ละยี่ห้อ เพื่อความปลอดภัย
- เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพราะแพทย์จะสามารถประเมินปัญหาใบหน้า และวางแผนการแก้ไขได้อย่างเหมาะสม
- ฉีดโบท็อกแท้ ผ่านการรับรองจาก อย.เท่านั้น เพื่อลดโอกาสการดื้อยาและเกิดผลข้างเคียง
- ควรให้แพทย์เปิดขวดใหม่ ผสมโบท็อกให้ดูต่อหน้า เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ได้เจือจางน้ำเกลือมากเกินไป และควรขอกล่องและขวดกลับบ้านไว้ตรวจสอบ เพื่อมั่นใจว่าเป็นของแท้
- งดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, NSAIDs, Ponstan
- งดสครับใบหน้า คอร์สเลเซอร์ แว็กผิวหรือนวดหน้าบริเวณที่ฉีด 2-3 วัน เพื่อลดอาการเขียวช้ำ
- หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำ ควรปรึกษาหรือแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง
ขั้นตอนการฉีดโบท็อก
- พบแพทย์เพื่อปรึกษาประเมินรูปหน้า สภาพผิว ปัญหาที่กังวล
- แพทย์แนะนำยี่ห้อของโบท็อก และคำนวณยูนิตที่เหมาะสมในแต่ละบุคคล
- ทำความสะอาดผิวหน้า หากคนไข้กลัวเจ็บสามารถแปะยาชา หรือประคบน้ำแข็งเพื่อบรรเทาความเจ็บได้
- แพทย์ฉีด Botox ในตำแหน่งที่ต้องการแก้ไข
ข้อปฏิบัติตัวหลังฉีดโบท็อก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด
- หลังฉีดโบท็อกควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง เพื่อให้โบท็อกถูกเซลล์ประสาทดูดเข้าไปให้มากที่สุด
- ควรทานอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสี เพื่อช่วยให้โบท็อกออกฤทธิ์ไวขึ้น และทำงานดีขึ้น
- งดนอนราบ นอนคว่ำ หรือก้มหัวต่ำกว่าอก 3 ชม. เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนมาที่บริเวณใบหน้ามากขึ้น ส่งผลให้โบท็อกที่ฉีดปลิวไปบริเวณที่ไม่ต้องการได้
- หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง 48 ชม. เช่น อบซาวน่า ออกกำลังกายหนักๆ ตากแดด ทำเลเซอร์
- หลังฉีดโบท็อกควรงดอาหารรสจัด และอาหารหมักดอง เพราะมีสารที่ทำให้เส้นเลือดขยายตัว
- งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เนื่องจากจะส่งผลต่อการอักเสบ ยุบบวมช้า และผลการรักษาอยู่ได้สั้นลง
อ่านบทความเพิ่มเติม : หลังฉีดโบท็อก มีข้อห้าม – ข้อควรปฏิบัติอย่างไร ให้โบท็อกออกฤทธิ์ไว สลายช้า
ผลข้างเคียงหลังฉีดโบท็อก มีอะไรบ้าง ?
ผลข้างเคียงหลังฉีดโบท็อก อาจมีรอยช้ำจากเข็มเพียงเล็กน้อย และมีอาการปวด เมื่อย เกิดขึ้นได้เป็นปกติสามารถหายไปได้เองภายใน 2-3 วัน ครับ
สรุป
การฉีดโบท็อก เป็นหัตถการที่มีความเจ็บเพียงเล็กน้อยขณะฉีดเท่านั้น เป็นความเจ็บที่ทนได้ หากใครที่กลัวเจ็บ ก่อนฉีดสามารถแปะยาชา และประคบน้ำแข็งเพื่อบรรเทาความเจ็บได้ครับ
ทั้งนี้ควรเลือกฉีดโบท็อกกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ยาแท้ และดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกตามคำแนะนำของหมอ ก็จะช่วยให้โบท็อกออกฤทธิ์ได้ดี และอยู่ได้นานขึ้นครับ