ร้อยไหมอยู่ได้กี่เดือน
ร้อยไหม เป็นวิธีช่วยยกกระชับที่นิยมทำกันเป็นอย่างมาก เพราะราคาไม่สูง เห็นการเปลี่ยนแปลงหลังทำทันที ทำไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องพักฟื้น ในปัจจุบันแต่ละคลินิกมีการเรียกชื่อไหมที่ใช้แตกต่างกันไป ทำให้หลายคนสับสนว่าไหมมีกี่แบบ อะไรบ้าง และอยู่ได้นานเท่าไหร่
ในบทความนี้ หมอจะมาให้คำตอบว่า ร้อยไหมอยู่ได้กี่เดือน หรือกี่ปี ไหมแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร อยู่ได้นานต่างกันหรือไม่ พร้อมแนะนำวิธีการดูแลตัวเองหลังทำเพื่อให้อยู่ได้นานยิ่งขึ้นครับ
สารบัญ ร้อยไหมอยู่ได้กี่เดือน
ร้อยไหมอยู่ได้กี่เดือน
การร้อยไหมเป็นการใช้เส้นไหมร้อยเข้าไปในผิวหนัง เพื่อช่วยยกกระชับหรือกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ผลลัพธ์ที่ได้จะแตกต่างกันตามลักษณะของเส้นไหมและวัสดุที่ใช้ รวมถึงการอยู่ได้นานเท่าไหร่ก็จะแตกต่างกันไป โดยทั่วไปจะประคองผิวได้ประมาณ 4 เดือน ถึง 1 ปี นอกจากนี้การดูแลตัวเองหลังร้อยไหมก็มีผลต่ออายุของไหมด้วยครับ
ไหมแต่ละชนิดต่างกันอย่างไร แบบไหนอยู่ได้นานที่สุด
ไหมที่ใช้ในการสอดลงไปใต้ผิวหนังต้องเป็นไหมละลายทางการแพทย์ที่มีความปลอดภัย สามารถสลายได้ในร่างกาย และไม่ทิ้งสารตกค้าง ที่สำคัญคือต้องผ่านการรับรองจาก FDA ทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศว่ามีความปลอดภัยในการนำเข้าร่างกาย
ในปัจจุบันวัสดุที่ใช้ในการผลิตเส้นไหมมีหลายชนิด และมีการออกแบบลักษณะของเส้นไหมที่แตกต่างกันหลากหลายแบบ ซึ่ง 2 ปัจจัยนี้ ส่งผลต่อระยะเวลาสลายของเส้นไหมในร่างกายและระยะเวลาคงผลลัพธ์ของการร้อยไหม โดยไหมแต่ละชนิดต่างกันอย่างไร หมอจะอธิบายรายละเอียดเป็นข้อ ๆ ดังนี้
แบ่งตามลักษณะของเส้นไหม
- ไหมกรวย (Silhouette Soft)
ไหมกรวย หรือชื่ออื่น เช่น ไหมเทอร์โบ, ไหมโคน, ไหม Silhouette, ไหมกรวยซิลลูเอท, ไหม PGA เป็นไหมที่มีปมลักษณะคล้ายโคนหรือกรวยติดเป็นระยะ ๆ ตามเส้นไหม ใช้ในการยกกระชับใบหน้า ไหมประเภทนี้จะอยู่ได้ 8-10 เดือนครับ ข้อเสียคือ มีราคาสูงและโอกาสบวมช้ำสูงเมื่อเทียบกับไหมชนิดอื่นๆ
- ไหมเงี่ยง (Barbed threads/ Cog threads)
ไหมเงี่ยง หรือที่นิยมเรียกว่าไหมก้างปลา และมีชื่ออื่น เช่น ไหมก้างปลา 8D, ไหม Rose, ไหมฟันฉลาม, ไหมจระเข้, ไหมปิรันย่า, ไหมล็อค,ไหมค็อก ฯลฯ เป็นไหมที่มีเงี่ยงยื่นออกมา คล้ายกับก้างปลา เมื่อสอดเข้าไปใต้ผิวหนัง จะดึงรั้งเนื้อเยื่อผิวได้ดี ช่วยเกี่ยวผิวให้ยกกระชับขึ้น ยกแก้มที่หย่อน เก็บกรอบหน้าเรียว ไหมประเภทนี้จะอยู่ได้ 4-12 เดือน ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้
- ไหมเรียบ (Mono threads)
ไหมเรียบ หรือชื่ออื่น เช่น ไหมมิราคุ, ไหมสเต็มเซล, ไหม ruby, ไหมทับทิม ฯลฯ เป็นไหมละลายแบบแรกที่นำมาใช้ในวงการเสริมความงาม ใช้ร้อยเพื่อสร้างคอลลาเจนมาเติมร่องลึกและริ้วรอยตามจุดต่าง ๆ คล้ายฟิลเลอร์ แต่ปัจจุบันไม่นิยมใช้ เพราะต้องใช้ไหมจำนวนมากร้อยซ้อนกัน มีโอกาสเกิดพังผืดได้ง่าย ไหมประเภทนี้อยู่ได้ประมาณ 8 เดือนครับ
- ไหมเกลียว (Screw Threads /Tornado Threads)
ไหมเกลียว หรือชื่ออื่น เช่น ไหมสปริง, ไหมทอร์นาโด ฯลฯ เป็นการใช้ไหมเรียบ 1-2 เส้นพันเป็นเกลียวแบบต่างๆ ก่อนสอดเข้าใต้ผิวหนัง เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นไหมในการยกกระชับ ช่วยช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนให้เรียบตึงขึ้น เติมร่องลึก เพิ่มเนื้อให้เต็มขึ้น อยู่ได้ประมาณ 8 เดือนเช่นเดียวกับไหมเรียบครับ
- ไหมมิ้นท์ (Mint Lift)
ไหมมิ้นท์ หรือบางคลินิกตั้งชื่อว่าไหมกุหลาบ เป็นไหมละลายที่มีเงี่ยงรอบทิศทาง ยึดเกาะผิวได้ดีขึ้น ในการผลิต จะผลิตส่วนเงี่ยงแยกกับส่วนที่เป็นเส้นไหม แล้วนำมาหลอมเข้าด้วยกัน ทำให้ช่วยให้ยกกระชับหน้าได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไหมมิ้นท์อยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือนครับ
ลักษณะไหมก้างปลา (บน) และไหมกุหลาบ (MINT) (ล่าง)
- ไหมตาข่าย (Tesslift Soft)
ไหมตาข่าย หรือไหมโครงตาข่าย เป็นไหมเงี่ยงรอบทิศทางที่คลุมด้วยเส้นใยโครงตาข่ายรอบเส้นไหม ทำให้เด่นในเรื่องความแข็งแรงของเส้นไหม ทนแรงต้านได้ดีกว่าไหมทั่วไปถึง 80 เท่า ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี เห็นผลเร็ว โดยจะอยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือนครับ
แบ่งตามวัสดุที่ใช้
- ไหมวัสดุ PDO (Polydioxanone)
เป็นไหมชนิดแรกที่นำมาใช้ในวงการเสริมความงาม มีสีน้ำเงิน คุณสมบัติยืดหยุ่นปานกลาง นิ่ม ไม่เปราะไม่ขาดง่าย เมื่อนำมาร้อยเข้าผิวหนังจะละลายหมดประมาณ 6 เดือน แต่สามารถกระตุ้นในเกิดการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้ดี จึงอาจเห็นว่าผิวยกกระชับขึ้นกว่าตอนก่อนร้อยได้ถึง 12 เดือนในบางราย
- ไหมวัสดุ PLLA (Poly-L-Lactic Acid)
เป็นไหมเส้นสีขาว ที่พัฒนาต่อมาจากไหม PDO ทนต่อแรงดึงและกระตุ้นคอลลาเจนได้ดีกว่าวัสดุอื่น ๆ แต่ไม่ยืดหยุ่น ทำให้ขาดง่าย ไหมจะอยู่ได้ประมาณ 1 ปี แต่ด้วยคุณสมบัติที่เปราะ ขาดง่าย จากการนำมาใช้จริงพบว่าอยู่ได้ไม่ถึง 1 ปีครับ
- ไหมก้างปลา PCL (Polycaprolactone)
เป็นไหมเส้นใหญ่สีขาว เส้นผ่านศุนย์กลางกว้างกว่าไหมวัสดุอื่น มีความยืดหยุ่นสูงที่สุด แข็งทน ไม่เปราะหักง่าย ไหมจะละลายหมดใน 12 – 18 เดือน แต่ในบางเคสที่ผิวขาดคอลลาเจนหรืออิลาสตินมากๆ ผิวจะหลุดจากเส้นไหมก่อนที่ไหมละลายหมด อาจเห็นผลได้ไม่นานถึง 18 เดือน
ในปัจจุบัน ได้มีการนำจุดเด่นของไหมทั้งสองชนิด คือไหมวัสดุ PLLA ที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี มาผสมในไหม PCL ที่มีคุณสมบัติละลายช้าอยู่ได้นาน ทำให้ไหม PCL+PLLA เป็นไหมที่ดีที่สุดในขณะนี้ เมื่อร้อยเข้าผิว จะอยู่ได้ประมาณ 1 ปีครับ
ร้อยไหม กี่วันเห็นผล ?
หลังร้อยไหมก้างปลา จะเห็นว่าเกิดการเปลี่ยนแปลง แก้มที่หย่อยดูยกกระชับขึ้นทันทีหลังทำครับ และใบหน้าจะเข้าที่ได้รูปชัดเจนในช่วงประมาณ 1 เดือน
ร้อยไหมก้างปลา บวมกี่วัน ?
การร้อยไหม มีความเสี่ยงที่จะเกิดการบวมช้ำหลังทำค่อนข้างสูง ทั้งจากการฉีดยาชา และเลือดที่ออกใต้ผิวหนัง ถึงแม้หลังทำทันทีจะบวมน้อย แต่ก็อาจจะบวมมากขึ้นในช่วง 3-4 วันแรก
ซึ่งส่วนมากก็จะหายได้เองภายใน 7-14 วัน แต่หากหลังครบ 4 วันแล้วคนไข้ยังมีอาการปวดมากขึ้น บวมแดงมากขึ้น ต้องรีบกลับไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจประเมินและรับยากินเพิ่มเติมครับ
หลังร้อยไหมอยู่ได้นานกี่ปี ?
โดยทั่วไปจะประคองผิวได้ประมาณ 4 เดือน ถึง 1 ปี ขึ้นกับชนิดของไหมที่ร้อย และการดูแลตนเองหลังทำครับ
ข้อปฏิบัติตัวหลังการร้อยไหม เพื่อคงผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้น
การปฏิบัติตัวหลังร้อยไหมอย่างถูกวิธี จะช่วยให้คงผลลัพธ์ได้อยู่นานขึ้นได้ครับ และยังลดอาการบวมช้ำได้ครับ โดยข้อปฏิบัติหลังทำก็ปฏิบัติตามได้ไม่ยาก ดังนี้ครับ
- งดการอ้าปากกว้าง ๆ เช่น การแปรงฟันแรง ๆ หรือ การอ้าปากทำฟัน ทั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยงการดึงรั้งของเส้นไหมในผิว ในช่วง1เดือนแรก
- งด หรือ หลีกเลี่ยง การสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ เพราะเป็นตัวการทำร้ายผิว ทำให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วยิ่งขึ้น
- งดนวดหน้าหรือทำทรีทเม้นต์ ในระยะ 14 วันหลังร้อยไหม หรือ 48 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย
- แนะนำให้ดื่มน้ำปริมาณมากๆ ประมาณ 1.5 – 2 ลิตรต่อวัน เพื่อช่วยให้ผิวเต่งตึง สุขภาพดี และรักษาสภาพผิวให้มีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ
รีวิวร้อยไหม
ร้อยไหมก้างปลา รีวิวก่อนและหลังทำ เคสนี้มีแก้มที่หย่อนไม่กระชับร่วมกับแก้มตอบ หลังทำการร้อยไหม แก้มดูยกขึ้น แก้มตอบลดลง ใบหน้าเรียวสวย ดูอ่อนวัยขึ้นครับ
รีวิวร้อยไหมก้างปลา 6 เส้น
เคสนี้มีแก้มส่วนล่างค่อนข้างเยอะ ทำให้ดูไม่กระชับ หลังจากร้อยไหมทันทีเห็นว่าแก้มส่วนล่างถูกยกให้กระชับขึ้น หน้าดูเรียวขึ้น
รีวิวร้อยไหมก้างปลา 10 เส้น
เคสนี้มีแก้มหย่อนคล้อยค่อนข้างมาก และมีปัญหาแก้มตอบจากแก้มที่ยุบลง หลังร้อยจะเห็นแก้มยกกระชับอย่างเป็นธรรมชาติ และดูเด็กขึ้น
*ผลการรักษาแตกต่างกันแต่ละบุคคล
สรุป
ร้อยไหมอยู่ได้กี่เดือนหรือกี่ปีนั้น ขึ้นกับวัสดุที่ใช้ในการทำเส้นไหมและชนิดของไหมเป็นหลักครับ นอกจากนี้การดูแลตัวเองหลังทำก็ส่งผลต่ออายุของไหมได้เช่นกัน หากตัดสินใจที่จะร้อยไหม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการประเมินอย่างละเอียดก่อนว่าควรเลือกใช้ไหมชนิดใด และที่สำคัญคือควรเลือกร้อยไหมกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์ที่มีประสบการณ์ โดยดูรีวิวจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ เช่น pantip facebook ที่คลินิกไม่สามารถเข้าไปลบโพสต์ได้ พร้อมทั้งศึกษาวิธีปฏิบัติตัวก่อนและหลังร้อยไหม เพื่อเพิ่มความมั่นใจก่อนทำ คงผลลัพธ์ได้นาน ไม่ต้องทำบ่อย ๆ ครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ
