ร้อยไหมก้างปลา
ร้อยไหมก้างปลา เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยม เพราะสามารถยกผิวหย่อนคล้อยให้ตึงกระชับได้ โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น สามารถทำได้ทั้งการร้อยไหมปรับรูปหน้าเรียว ร้อยไหมจมูกได้ ปัจจุบันไหมก้างปลามีหลายชนิดครับ ร้อยไหมก้างปลา ราคาเท่าไหร่ ? มีกี่แบบ ? รู้จักไหมก้างปลาชนิดต่าง ๆ แบบไหนดีที่สุดได้ในบทความนี้
สารบัญ ร้อยไหมก้างปลา
ร้อยไหมมีกี่แบบ ?
ร้อยไหม มี 2 แบบ คือ ไหมไม่ละลาย และไหมละลาย ปัจจุบันคลินิกส่วนใหญ่นิยมใช้ไหมละลาย ซึ่งผ่านการรับรองจาก U.S.FDA และ อย.ไทย ว่ามีความปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อน ทำจากวัสดุ เช่น Polydioxanone, Polycaprolactone ที่สามารถละลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย
ส่วนไหมไม่ละลาย จะเป็นไหมจำพวกไหมทองคำ (Gold Thread) ทำมาจากทองคำ 99.99% ทำให้หลังร้อยมีข้อจำกัดมาก เช่น ห้ามทำเลเซอร์ ไม่สามารถทำ MRI scan และไม่เหมาะกับผู้ที่แพ้โลหะ อีกทั้งระยะเวลาของไหมทองคำ อยู่ได้นานถึง 8-15 ปี จึงอาจทิ้งสารตกค้างในร่างกาย
ทำไมบางคนบอกว่าร้อยไหมไม่ได้ผล
ในอดีตเทคนิคการร้อยไหม ยังไม่ค่อยแพร่หลาย การร้อยไหมทั่ว ๆ ไปจะใช้ไหมเรียบ (Mono Thread) เป็นไหมเส้นเล็ก ๆ สั้น ๆ ร้อยในผิวชั้นตื้นเติมเต็มผิวคล้าย ๆ ฉีดฟิลเลอร์ ช่วยเรื่องริ้วรอย แต่ไม่สามารถดึงยกกระชับผิวได้
ในปัจจุบันแทบทุกคลินิกจึงไม่มีการร้อยไหมเรียบ เพื่อยกกระชับหน้าแล้ว หากคนไข้ต้องการผลที่คล้าย ๆ การร้อยไหม Mono จะนิยมทำ Hifu Ultraformer III เพราะเห็นผลชัดเจนกว่า และนิยมร้อยไหมก้างปลา หรือไหมเงี่ยง (Barb Thread) ในการยกกระชับผิว ปรับรูปหน้าเรียว ราคาไม่แพงครับเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ ทำให้การร้อยไหมกลับมาเป็นที่นิยม
อ่านบทความเพิ่มเติม : Hifu กับ ร้อยไหม ต่างอย่างกันอย่างไร ทำด้วยกันได้ไหม
ร้อยไหมก้างปลา ราคาเท่าไหร่ ?
ร้อยไหมก้างปลา ราคาเริ่มต้น 8,900.- ขึ้นอยู่กับจำนวนเส้นไหมที่ใช้ แพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้าจะสามารถประเมินและแก้ไขปัญหาใบหน้าได้อย่างตรงจุด เลือกใช้จำนวนเส้นไหมได้อย่างเหมาะสม ได้ผลลัพธ์สวยงามดูเป็นธรรมชาติ
ลักษณะของไหมก้างปลาที่ดีที่สุด
ไหมก้างปลาที่ดีที่สุด ควรละลายช้าและอยู่ได้นาน ลักษณะเป็นเงี่ยง (Barb) ที่เกี่ยวผิวมีความแข็งแรง ยืดหยุ่น สามารถดึงยกผิวไว้ได้นาน เป็นไหมละลายผ่านการรับรองจาก FDA ทั้งในไทยและต่างประเทศว่ามีความปลอดภัย และให้ผลลัพธ์ดีในการยกกระชับหน้า ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน
V Square Clinic เลือกใช้เส้นไหมที่มีคุณภาพ เพื่อให้แพทย์เลือกใช้ให้เหมาะกับปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวคนไข้ครับ
ตัวอย่างไหมก้างปลาชนิดต่าง ๆ และข้อดี-ข้อเสีย
- ไหมก้างปลา PCL (Polycaprolactone) มีความยืดหยุ่นสูงที่สุด แข็งทน ไม่เปราะหักง่าย มีส่วนผสมของ PLLA ในสัดส่วนที่เหมาะสม เส้นใหญ่ที่สุด
- ไหมก้างปลา PLLA (Poly-L-Lactic Acid) มีความแข็ง ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี แต่ข้อเสียคือเปราะหัก ปัจจุบันไม่ค่อยเป็นที่นิยม
- ไหมก้างปลา PDO (Polydioxanone) มีความยืดหยุ่นปานกลาง นิ่ม ไม่เปราะ ขณะที่ร้อยจะไม่รู้สึกระคายเคือง
- ไหมมิ้น (Mint Lift) มีเงี่ยงไหม 360 องศา 3 มิติ ยึดเกาะเนื้อเยื่อได้หลายทิศทาง เงี่ยงไหมกางชัดเจน เส้นไหมแข็งแรง เห็นผลดีในการยกกระชับหน้า ผ่าน อย.
- ไหม Tesslift Soft ไหมโครงตาข่าย 1 เส้น เทียบเท่ากับการร้อยไหม 2 เส้น ทนแรงต้านได้ดีกว่าไหมทั่วไป 80 เท่า มีความแข็งแรง ยกกระชับและพยุงผิวที่หย่อนคล้อยได้ดี กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เห็นผลเร็วและอยู่ได้นาน ผ่านการรับรองจาก CE Approved (European Conformity)
- ไหม Tesslift Foxy Eye แก้หนังตาตก มีโครงตาข่ายล้อมรอบเส้นไหม ทำให้เส้นไหมมีความแข็งแรง
*ระยะเวลาที่ไหมสามารถดึงผิวไว้ได้ ขึ้นอยู่กับคุณภาพผิวของแต่ละบุคคล
ควรร้อยไหมก้างปลากี่เส้น ?
โดยปกติจะใช้ข้างละ 3-10 เส้น โดยพิจารณาจากขนาดเนื้อแก้มของคนไข้ ความแน่นของผิว และความต้องการของคนไข้ว่าต้องการดึงในจุดไหนบ้าง
แพทย์จะประเมินจำนวนเส้นไหมและชนิดของไหม ตามความเหมาะสมกับคนไข้แต่ละเคส สามารถใช้จำนวนเส้นไหมที่เยอะขึ้นได้ครับ หากคนไข้ต้องการให้อยู่ได้นานขึ้น คล้ายกับการใช้เชือกจำนวนหลายเส้นในการยกของ ย่อมแข็งแรงมั่นคงและอยู่ได้นานยิ่งขึ้นครับ
รีวิวร้อยไหมก้างปลา
ร้อยไหมก้างปลา หน้าบวมกี่วัน? กี่วันเห็นผล ?
หลังร้อยไหมก้างปลา อาจมีอาการบวมแดงหรือเขียวช้ำเล็กน้อย โดย 3-4 วันแรกหลังร้อยไหม หน้าจะบวมมากขึ้นครับ เกิดขึ้นได้เป็นปกติ เพราะร้อยไหมเป็นการใช้เข็มพร้อมไหม แทงเข้าไปใต้ผิวหนัง จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดการบวมช้ำหลังทำค่อนข้างสูง ทั้งจากการฉีดยาชา และเลือดที่ออกใต้ผิวหนัง ถือเป็นเรื่องปกติ ไม่อันตรายครับ อาการบวมจะยุบลงได้เองใน 14 วัน ใบหน้าเข้าที่ได้รูปชัดเจนใน 1 เดือน
อ่านบทความเพิ่มเติม : ข้อห้ามหลังร้อยไหม ข้อปฏิบัติที่ควรรู้ เพื่อผลลัพธ์ที่ยาวนาน เข้าที่เร็ว
สรุป
ร้อยไหมก้างปลา มีลักษณะเป็นเส้นไหมที่มีเงี่ยงเกี่ยวผิว ทำให้สามารถยกกระชับผิวได้ผลลัพธ์ดีกว่าไหมเส้นเรียบ โดยปัจจุบันการร้อยไหม เป็นหัตถการที่ราคาไม่แพงครับ เมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ V Square Clinic เลือกใช้ไหมก้างปลาที่ดีที่สุด โดยแพทย์จะประเมินปัญหาความหย่อนคล้อยของผิว และความต้องการของคนไข้ เพื่อเลือกใช้ชนิดเส้นไหม และจำนวนเส้นไหมที่เหมาะสม