ร้อยไหมก้างปลา อยู่ได้นานแค่ไหน อยู่ได้กี่ปี มีข้อปฏิบัติตัวหลังทำอย่างไรบ้าง ?

ร้อยไหมก้างปลา อยู่ได้นานแค่ไหน

ไหมก้างปลา อยู่ได้นานแค่ไหน

หลังร้อยไหมก้างปลา อยู่ได้นานแค่ไหน อยู่ได้นานกี่ปี กี่วันถึงจะเห็นผลมักเป็นสิ่งที่คนไข้คาดหวัง เพราะผลลัพธ์หลังร้อยไหมนอกจากการเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์แล้ว การดูแลตัวเองหลังร้อยไหมก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลการร้อยไหมอยู่ได้นานขึ้นครับ

หากต้องการให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น ควรดูแลตัวเองอย่างไร? ร้อยไหมก้างปลา กี่วันเห็นผล บวมกี่วัน? ไหมแต่ละชนิดต่างกันอย่างไร ไหมชนิดไหนอยู่ได้นานที่สุด? ทำไมแต่ละคนร้อยไหมแล้วอยู่ได้นานไม่เท่ากัน? สามารถติดตามอ่านได้ครับ 

สารบัญ ร้อยไหมก้างปลา อยู่ได้นานแค่ไหน


ร้อยไหมก้างปลา อยู่ได้นานแค่ไหน ?

ร้อยไหมก้างปลา อยู่ได้นานแค่ไหนขึ้นอยู่กับชนิดของไหมที่เลือกใช้ครับ โดยทั่วไปจะอยู่ได้นานประมาณ 4 เดือน ถึง 1 ปี

ร้อยไหมก้างปลา อยู่ได้นานแค่ไหน
  • ไหม PDO (Polydioxanone) จะประคองผิวได้นานประมาณ 4-5 เดือน  จุดเด่นที่ทำให้ได้รับความนิยมมากที่สุดของไหมชนิดนี้คือ มีความยืดหยุ่นสูง
  • ไหม PLLA (Polylactate) จะประคองผิวได้นานประมาณ 18-24 เดือน จุดเด่นของไหมชนิดนี้คือ ความแข็ง แต่ก็มีข้อเสียคือ เป็นไหมชนิดที่เปราะหักง่าย
  • ไหม PCL (Polycaprolactone) จะประคองผิวได้นานประมาณ 1 ปี ปัจจุบันนี้ไหมชนิด PCL ประกอบด้วยส่วนผสมของ PLLA ในสัดส่วนที่พอเหมาะด้วย จึงส่งผลให้ในปัจจุบันนี้ ไหม PCL จัดเป็นวัสดุเส้นไหมที่ดีที่สุด  รวมถึงมีจุดเด่นคือ ความยืดหยุ่น เส้นใหญ่ที่สุด ไหมก้างปลาเส้นใหญ่ เงี่ยงใหญ่ ละลายช้า จึงอยู่ได้นานมากยิ่งขึ้น

ร้อยไหมก้างปลา  กี่วันเห็นผล ?

หลังร้อยไหมก้างปลาจะเห็นผลทันทีครับ เพราะเงี่ยงไหมที่มีลักษณะคล้ายตะขอจะดึงผิวขึ้น ทำให้ผิวดูยกกระชับ หน้าเรียวขึ้นอย่างชัดเจน  ใบหน้าจะเข้าที่ ได้รูปชัดเจนขึ้นในช่วงประมาณ 1 เดือนครับ


ร้อยไหมก้างปลา บวมกี่วัน ?

หลังร้อยไหมจะมีอาการบวมใน3-4 วันแรก และหลังจากนั้นอาการบวมจะเริ่มยุบลงจนเข้าที่ใน 14 วัน แต่หากหลังครบ 4 วันแล้วคนไข้ยังมีอาการปวดมากขึ้น บวมแดงมากขึ้น ต้องรีบกลับไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจประเมินและรับยากินเพิ่มเติมครับ

อ่านบทความเพิ่มเติม : ร้อยไหมบวมไหม ร้อยไหมบวมกี่วัน มีวิธีการลดอาการบวมอย่างไร ?

ไหมแต่ละชนิดต่างกันอย่างไร แบบไหนอยู่ได้นานที่สุด ?

ไหมแต่ละชนิดต่างกันอย่างไร แบบไหนอยู่ได้นานที่สุด

ไหมแต่ละชนิดจะมีความต่างกันไม่มากครับ ส่วนใหญ่จะเป็นไหมเงี่ยง bidirectional barbed thread ทั้งสิ้น ที่ต้องตั้งชื่อให้แตกต่างกันเพราะเหตุผลทางการค้าเท่านั้นครับ แต่ไหมที่นิยมใช้มากที่สุดและอยู่ได้นานที่สุด คือไหม PCL+PLLA เนื่องจากเป็นไหมที่ถูกพัฒนาโดยการนำจุดเด่นของไหม PCL และไหม PLLA มาผสมกันในสัดส่วนที่พอเหมาะ  ซึ่งที่ V Square Clinic จะเลือกใช้ ไหมก้างปลาที่ดีที่สุดเท่านั้นครับ

  1. ไหมเรียบ (Mono threads)
    • ไหมเรียบ ชื่ออื่น เช่น ไหมคอลลาเจน, ไหมมิราคุ, ไหมสเต็มเซล, ไหม ruby, ไหมทับทิม ฯลฯ
    • เป็นไหมละลายเส้นเรียบที่ไม่มีเงี่ยงหรือเป็นเกลียว เป็นไหมชนิดแรกๆ ที่นำมาใช้
    • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนมาเติมผิวคล้ายๆ ฟิลเลอร์ ช่วยลดริ้วรอยในบางจุดช่วยให้ชั้นผิวฟูขึ้น ช่วยกระชับผิวได้เล็กน้อย
    • มักใช้ร้อยเพิ่มเติมร่องใต้ตา ริ้วรอยหน้าผาก ลดความหย่อนคล้อยที่คอ
    • ใช้ประมาณ 10-20 เส้นต่อหนึ่งจุดที่ทำ
    • จะเห็นผลในช่วง 4-5 เดือน อยู่ได้ประมาณ 8 เดือน
  1. ไหมเงี่ยง (Barbed threads/ Cog threads)
    • ไหมเงี่ยง ชื่อทางการแพทย์คือ bidirectional barbed thread ชื่ออื่น เช่น ไหมก้างปลา,ไหมเงี่ยงกุหลาบ,ไหมก้างปลา 8D, ไหม Rose, ไหมฟันฉลาม, ไหมจระเข้, ไหมปิรันย่า, ไหมล็อค,ไหมค็อก ฯลฯ
    • เป็นไหมละลายที่มีเงี่ยงยื่นออกมา แบ่งออกตามขนาดเส้นไหม คือไหมเงี่ยงใหญ่และไหมเงี่ยงเล็ก
    • มีลักษณะเหมือนตะขอ มีทั้งแบบเงี่ยง 1 ทิศทางและ 2 ทิศทาง เมื่อสอดเข้าไปใต้ผิวหนัง จะดึงรั้งเนื้อเยื่อผิวได้ดี ใช้ในการยกกระชับแก้มที่หย่อน ลดแก้มตอบ เพิ่มความคมชัดให้กรอบหน้า และเป็นที่นิยม
    • ใช้ประมาณ 6-12 เส้นต่อการยกกระชับแก้มทั้ง 2 ข้าง
    • อยู่ได้ 4-12 เดือน ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้
  1. ไหมเกลียว (Screw Threads /Tornado Threads)
    • ไหมเกลียว ชื่ออื่น เช่น ไหมสปริง, ไหมทอร์นาโด ฯลฯ
    • เป็นการใช้ไหม 1-2 เส้นพันเป็นเกลียวก่อนสอดเข้าใต้ผิวหนัง เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นไหม
    • ใช้เพื่อเติมเต็มผิวที่ยุบ เป็นแอ่ง ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนให้เรียบตึงขึ้น ช่วยปรับรูปหน้า ริ้วรอยบางจุด หรือต้องการยกแก้มบริเวณแก้มส้ม
    • ใช้ประมาณ 6-8 เส้นต่อหนึ่งจุดที่ทำ
    • อยู่ได้ประมาณ 8 เดือน
  1. ไหมกรวย (Silhouette Soft)
    • ไหมกรวย ชื่ออื่น เช่น ไหมเทอร์โบ, ไหมโคน, ไหม Silhouette, ไหมกรวยซิลลูเอท, ไหม PGA
    • เป็นไหมที่มีปมติดเป็นระยะ ๆ ลักษณะคล้ายโคนหรือกรวย
    • ช่วยในการยกกระชับใบหน้า เห็นผลหลังทำทันที แต่ต้องใช้เข็มใหญ่ โอกาสบวมช้ำสูง จึงใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าไหมเงี่ยง
    • ใช้ประมาณ 2-8 เส้น ต่อการทำแต่ละบริเวณ
    • อยู่ได้ 8-10 เดือน
    • ข้อเสียคือมีราคาสูง เมื่อเทียบกับไหมชนิดอื่น ๆ
  1. ไหมมิ้นท์ (Mint Lift)
    • ไหมมิ้นท์ เป็นไหมละลายชนิดล่าสุดที่ได้มีการพัฒนาเพื่อช่วยในเรื่องการยกกระชับหน้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 
    • เส้นไหมจะมีลักษณะพิเศษคือสามารถหมุนได้ 360 องศา เพื่อช่วยในการยึดเกาะเนื้อเยื่อได้หลายทิศทาง 
    • ตัวไหมแข็งแรง ไม่เปราะง่าย เห็นผลดีในการยกกระชับหน้า ผ่าน อย.
    • อยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือน
  1. ไหมตาข่าย (Tesslift  Soft)
    • ไหมตาข่าย เป็นไหมละลายที่มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องความแข็งแรงของเส้นไหม ทนแรงต้านได้ดีกว่าไหมทั่วไปถึง 80 เท่า 
    • การใช้ไหมตาข่าย 1 เส้น เทียบเท่ากับการร้อยไหม 2 เส้น  ทำให้สามารถช่วยในเรื่องการยกกระชับและพยุงผิวที่หย่อนคล้อยได้ดี 
    • ผ่านการรับรองจาก CE Approved (European Conformity) 
    • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เห็นผลเร็วและอยู่ได้นาน
    • อยู่ได้ประมาณ 8-12 เดือน

อ่านบทความเพิ่มเติม : ร้อยไหมแบบไหนดี ไหมแต่ละแบบต่างกันอย่างไร ร้อยไหมกี่เส้น ถึงจะเห็นผล ?

ทำไมแต่ละคนร้อยไหมแล้วอยู่ได้นานไม่เท่ากัน ?

ผลลัพธ์หลังร้อยไหมอยู่ได้นานไม่เท่ากัน บางคนอยู่ได้ 3-4 เดือน บางคนอยู่ได้นาน 6 เดือน โดยจะมี 3 ปัจจัยหลัก ดังนี้ครับ

ทำไมแต่ละคนร้อยไหมแล้วอยู่ได้นานไม่เท่ากัน
  1. ชนิดของไหมที่เลือกใช้ : ไหม PCL, PLLA และ  PDO เป็นไหมละลายที่มีอายุการใช้งานที่ไม่เท่ากัน เนื่องจากขนาดของเส้นไหมและวัสดุของเส้นไหมมีความแตกต่างกัน โดยคนไข้แต่ละรายอาจใช้ไหมคนละชนิดกัน โดยหมอจะเป็นผู้ประเมินว่าคนไข้เหมาะกับการใช้ไหมชนิดใดครับ
  2. สภาพผิวเดิมของคนไข้ : หากผิวของคนไข้มีความแน่นมากเพียงพอก็จะส่งผลให้ผลอยู่ได้นานมากขึ้น แต่สำหรับคนที่มีความแน่นของผิวน้อย โดยเฉพาะคนที่มีอายุมาก ผลที่ได้ก็จะอยู่ได้สั้นลง 
  3. ความสามารถในการสร้างอีลาสตินของผิวที่แตกต่างกัน : หลังไหมละลายในคนไข้บางรายผลการร้อยไหมยังอยู่ต่อได้นานขึ้น เนื่องจากเนื้อเยื่ออาจมีการสร้างอิลาสตินขึ้นมามาก จึงทำ ให้ผิวคงความกระชับอยู่ได้ แต่ในกรณีที่คนไข้อายุเยอะ หากร้อยไหมหลายครั้งเนื้อเยื่อจะมีการสร้างเส้นใยอิลาสตินและคอลลาเจนได้มาก ทำให้มีความกระชับและอยู่ได้นานขึ้นครับ

ข้อปฏิบัติตัวหลังร้อยไหมเพื่อรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้น

  • ห้ามแตะ แกะเกา การกดนวดในจุดที่ร้อยไหม เพราะอาจทำให้ไหมเคลื่อนที่ และยากต่อการแก้ไข
  • ไม่ควรประคบเย็น หากมีอาการปวดมาก ควรปรึกษาแพทย์หรือประคบเย็นตามแพทย์สั่งเท่านั้น
  • สามารถล้างหน้า แต่งหน้าได้ตามปกติ แต่งดทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน
  • เลี่ยงแสงแดด หรือทำกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เช่น อบซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ หรือกิจกรรมที่ต้องอยู่หน้าเตาเป็นเวลานาน ๆ เป็นเวลา 3 วันหลังทำ 
  • งดการนวดหน้า เลเซอร์ หรือหัตถการอื่นๆ บริเวณใบหน้า เป็นเวลา 14 วัน
  • หากเป็นเลเซอร์ร้อนลงผิวชั้นลึก RF หรือ Thermage ควรเว้นอย่างน้อย 1 เดือน
  • เพื่อป้องกันการร้อยไหมแล้วไหมเคลื่อน อย่าขยับใบหน้าเยอะโดยเฉพาะในช่วง 3 วันหลังทำ หากมีอาการผิดปกติบวม ช้ำ เจ็บมาก ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เหล้า เบียร์ ไวน์ น้ำหมัก แนะนำให้งดไปก่อน 14 วันหลังร้อยไหม หรือถ้าหากใครที่อยากดื่มจริง ๆ หรือเลี่ยงไม่ได้ก็ควรเว้นระยะ 2-3 วัน

อ่านบทความเพิ่มเติม : หลังร้อยไหม มีข้อปฏิบัติ – ข้อห้าม อะไรบ้างที่ควรรู้ เพื่อช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น

หลังร้อยไหม ห้ามกินอะไรบ้าง ?

หลังร้อยไหม ห้ามกินอะไรบ้าง
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เหล้า เบียร์ ไวน์ น้ำหมัก แนะนำให้งดไปก่อน 14 วันหลังร้อยไหม หรือถ้าหากใครที่อยากดื่มจริง ๆ หรือเลี่ยงไม่ได้ก็ควรเว้นระยะ 2-3 วัน
  • อาหารที่มีรสหวานจัด เช่น ลูกกวาด น้ำหวาน น้ำอัดลม ชานมไข่มุก เพราะจะกระตุ้นกระบวนการอักเสบได้
  • ควรงดสูบบุหรี่ ในบุหรี่มีสารหลายชนิดที่ขยายหลอดเลือด จะทำให้ยุบบวมช้า และผลการรักษาอยู่ได้สั้นลง
  • เลี่ยงอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ จำพวกปลาดิบ หอยสด ไข่ดิบ เนื้อที่ปรุงไม่สุก มักมีสิ่งปนเปื้อนอย่างพยาธิหรือเชื้อโรคที่ส่งผลให้แผลที่เกิดจากรอยเข็มหายช้า หรือทำให้แผลติดเชื้ออักเสบ
  • เลี่ยงอาหารหมักดอง อย่างเช่น ผลไม้ดอง ผักดอง ปลาร้า เนื่องจากอาหารที่มีกรรมวิธีในการดองมักจะมีสิ่งปนเปื้อน ที่อาจจะไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของรอยเข็มได้
ผลไม้ลดบวมหลังร้อยไหม

มีหลายงานวิจัยที่ระบุว่าสารชื่อ bromelain ที่อยู่ในแกนสับปะรด สามารถกินเพื่อช่วยให้อาการปวดบวมช้ำหลังจากร้อยไหมหายได้ไวขึ้นได้

รีวิวร้อยไหมก้างปลา

ร้อยไหมก้างปลา ดึงแก้ม By V Square Clinic

ร้อยไหมก้างปลา ฟิลเลอร์ใต้ตา | V Square Clinic

รีวิว ร้อยไหมก้างปลา1

ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมในเคสนี้ คนไข้มีปัญหาแก้มหย่อนคล้อย  มีแก้มห้อยทำให้หน้าดูไม่กระชับ
หลังทำทันที ใบหน้าดูเรียวขึ้น แก้มกระชับ ดูอ่อนกว่าวัย

รีวิว ร้อยไหมก้างปลา2

ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมในเคสนี้ คนไข้มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ทำให้ดูแก่กว่าวัย
หลังทำทันที ผิวบริเวณกรอบหน้ายกกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หน้าเด็กลง

รีวิว ร้อยไหมก้างปลา3

ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมในเคสนี้ คนไข้มีปัญหาแก้มหย่อนคล้อย ไม่มีมิติ 
หลังทำทันที ใบหน้ายกกระชับขึ้น หน้าเรียวขึ้น

รีวิว ร้อยไหมก้างปลา4

ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมในเคสนี้ มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด หน้าไม่มีมิติ
หลังทำทันที กรอบหน้าชัด ใบหน้ายกกระชับขึ้น ริ้วรอยจางลง 

รีวิว ร้อยไหมก้างปลา5

ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมในเคสนี้ คนไข้มีปัญหาหน้าไม่มีมิติ กรามใหญ่ มีแก้มห้อย ทำให้หน้าดูไม่กระชับ
หลังทำทันที ใบหน้าดูเรียวขึ้น แก้มกระชับ ดูอ่อนกว่าวัย

รีวิว ร้อยไหมก้างปลา6

ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมในเคสนี้คนไข้มีปัญหาร่องแก้มลึก แก้มห้อยย้อย
หลังทำทันที แก้มยกกระชับ ริ้วรอยร่องแก้มจางลง ใบหน้าเรียวสวยเข้ารูป

รีวิว ร้อยไหมก้างปลา7

ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมในเคสนี้คนไข้มีปัญหาหน้าหย่อนคล้อย มีร่องแก้มลึก แก้มห้อยย้อย
หลังทำทันที ริ้วรอยร่องแก้มดูตื้นขึ้น ใบหน้ายกกระชับ ดูอ่อนกว่าวัย

รีวิว ร้อยไหมก้างปลา8

ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมในเคสนี้คนไข้มีปัญหาแก้มห้อยย้อย หน้าไม่กระชับ ทำให้ดูแก่กว่าวัย
หลังทำทันที ใบหน้ายกกระชับ กรอบหน้าชัด ร่องแก้มตื้นขึ้น ดูเด็กลง

รีวิว ร้อยไหมก้างปลา9

ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมก้างปลา ในเคสนี้คนไข้มีปัญหาหน้ากรามใหญ่ มีแก้มห้อยย้อย ส่งผลให้หน้าไม่เรียว 
หลังทำทันที ใบหน้าดูเรียวเป็นวีเชฟขึ้น แก้มกระชับ ริ้วรอยจางลง

รีวิว ร้อยไหมก้างปลา10

ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมก้างปลา ในเคสนี้คนไข้มีปัญหาแก้มหย่อน ห้อย มีร่องแก้ม ร่องใต้ตา
หลังทำทันที ใบหน้ายกกระชับขึ้น แก้มถูกยกทำให้ร่องแก้มตื้นขึ้น ใต้ตาเต็ม ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย

รีวิว ร้อยไหมก้างปลา11

ก่อนทำ รีวิวร้อยไหมก้างปลา ในเคสนี้คนไข้มีความกังวลเรื่องร่องแก้ม ร่องมุมปาก จึงแนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์และร้อยไหมดึงแก้มควบคู่กัน
หลังทำทันที ร่องแก้มตื้นขึ้น มุมปากยกและแก้มส่วนล่างถูกดึงขึ้นไป ใบหน้าโดยรวมดูเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด


สรุป

หลังร้อยไหมก้างปลาผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน นอกจากการเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ คลินิกที่ได้มาตรฐานแล้ว การดูแลตัวเองหลังร้อยไหมก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามครับ  คนไข้สามารถนำข้อปฏิบัติหลังร้อยไหมที่หมอได้เขียนไปในข้างต้น นำไปปรับใช้ได้ครับเพื่อผลลัพธ์ที่ดี ดูเป็นธรรมชาติ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา
Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า