เลเซอร์ขน
ใครที่กำลังเบื่อกับการกำจัดขนแบบเดิม ๆ ไม่ว่าจะเป็นการโกน การแว็กซ์ หรือการถอนขนที่นำมาซึ่งปัญหาขนขุด ผิวระคายเคืองตามมาในภายหลัง ในบทความนี้หมอมีวิธีกำจัดขนที่ทั้งสะดวก และให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานมาแนะนำครับ นั่นก็คือ การเลเซอร์ขน ที่จะทำให้คนไข้ไม่ต้องกังวลกับปัญหาขนคุด และการกำจัดขนบ่อย ๆ อีกต่อไป
แล้วการเลเซอร์ขน ดีกว่าวิธีอื่นอย่างไร ? เลเซอร์ขน คืออะไร ? มีกี่แบบ ? เลเซอร์ขนอันตรายไหม มีข้อดีอะไรบ้าง ? ต้องทำกี่ครั้ง ทำแล้วขนจะกลับมาขึ้นอีกไหม ? รู้ขั้นตอนเลเซอร์ขน ผลลัพธ์หลังทำ ราคา เพื่อประกอบการตัดสินใจได้ในบทความนี้ครับ
สารบัญ เลเซอร์ขน
ขนเกิดจากอะไร ? รู้จักวงจรการเติบโตของขน ก่อนทำเลเซอร์ขน
ขน (Hair) บนร่างกายของเรานั้น เกิดจากรากขนที่อยู่ในชั้นผิวหนังที่เรียกว่า dermis ครับ สามารถพบได้ตามรูขุมขนในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยขนจะมีโปรตีนที่เรียกว่าเคราตินเป็นส่วนประกอบหลักมากกว่า 95% มีส่วนช่วยทำให้เส้นขนมีความแข็งแรง และสีของเส้นขนก็มาจากเม็ดสีเมลานินที่ผลิตโดยเซลล์เมลาโนไซต์ในรากขน โดยความหนาแน่น และสีของเส้นขน จะต่างกันไปตามพันธุกรรมและฮอร์โมนของแต่ละบุคคลครับ
ระยะการเติบโตของขน
การเติบโตของขนแบ่งออกเป็นสามช่วงหลัก ๆ ครับ ได้แก่ ช่วงเติบโต (Anagen), ช่วงหยุดพัก (Catagen) และช่วงหลุดร่วง (Telogen)
- ระยะเติบโต (Anagen Phase) : เป็นช่วงที่เส้นขนเติบโต ซึ่งรากขนจะผลิตเซลล์เคราตินอย่างต่อเนื่อง เส้นขนจะยาวขึ้นเรื่อย ๆ ระยะเวลาของช่วงนี้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของขนบนร่างกาย และปัจจัยทางพันธุกรรม โดยทั่วไปจะอยู่ระหว่าง 2-6 ปี
- ระยะหยุดพัก (Catagen Phase) : หลังจากเส้นขนเติบโตไปจนถึงจุดหนึ่ง มันจะเข้าสู่ระยะหยุดพัก ซึ่งเป็นช่วงที่การเติบโตของขนหยุดลง และรากขนจะเริ่มหดตัว ช่วงนี้มีระยะเวลาสั้นมาก ประมาณ 2-3 สัปดาห์
- ระยะหลุดร่วง (Telogen Phase) : เป็นช่วงที่เส้นขนเริ่มหลุดร่วง รากขนเข้าสู่ช่วงพักผ่อน และเริ่มเตรียมตัวสำหรับการเติบโตของเส้นขนใหม่ ช่วงนี้จะมีระยะเวลาประมาณ 3-4 เดือน หลังจากนั้นขนใหม่จะเริ่มงอกและเข้าสู่ระยะเติบโตอีกครั้ง
ในแต่ละช่วงเวลา ขนบนร่างกายจะมีสัดส่วนที่อยู่ในแต่ละระยะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับตำแหน่งบนร่างกาย และปัจจัยเฉพาะบุคคล ดังนั้นการเข้าใจระยะการเติบโตของขน จะช่วยให้เราสามารถเลือกวิธีกำจัดขนที่เหมาะสมอย่างการเลเซอร์ขน ให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นครับ
“ ข้อควรรู้ : การเติบโตของขนจะถูกควบคุมด้วยฮอร์โมนในร่างกาย เช่น ฮอร์โมนเพศชาย (เทสโทสเตอโรน) และฮอร์โมนเพศหญิง (เอสโตรเจน) ที่สามารถกระตุ้นหรือยับยั้งการเติบโตของขนได้ นอกจากนี้ยาบางชนิด สภาพความผิดปกติทางพันธุกรรม หรือการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมน ก็สามารถมีผลต่อการเติบโตของขนได้เช่นกันครับ ”
มีวิธีการกำจัดขนแบบไหนบ้าง วิธีไหนเห็นผลดีสุด ?
วิธีการกำจัดขนมีหลายวิธีด้วยกันครับ ทั้งวิธีชั่วคราวและวิธีถาวร เช่น
- การโกนขน : เป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็ว ใช้ได้กับหลายส่วนของร่างกาย เช่น ขา, แขน, รักแร้ หรือบริเวณหน้า แม้ว่าจะเป็นวิธีที่ง่ายและไม่ต้องใช้เวลามาก แต่ก็มีข้อเสียคือขนจะเริ่มงอกกลับมาอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วันหลังการโกน และโอกาสทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง การเกิดขนคุด หรือการบาดเจ็บจากใบมีดโกน
- การแว็กซ์ขน : เป็นวิธีการกำจัดขนที่ช่วยให้ผิวหนังเรียบเนียน และช่วยลดการเติบโตของขนได้นานกว่าการโกนหรือใช้ครีมกำจัดขน แต่อาจทำให้เจ็บปวดได้ เนื่องจากกระบวนการดึงขนออกจากรากขน และอาจทำให้เกิดการระคายเคือง ผิวหนังแดง หรือขนคุดได้
- การใช้ครีมกำจัดขน : เป็นวิธีที่สะดวก ไม่เจ็บ เพราะครีมกำจัดขนจะไปทำลายโครงสร้างเคราตินของเส้นขน ทำให้เส้นขนอ่อนนุ่ม และสามารถละลายหลุดออกจากผิวหนังได้ง่าย แต่จะเห็นผลลัพธ์ชั่วคราวเช่นกัน ขนจะเริ่มงอกกลับมาได้ภายในไม่กี่วันถึงหนึ่งสัปดาห์
- การถอนขน : สามารถทำได้โดยใช้แหนบหรือเครื่องถอนขน ช่วยให้ขนไม่งอกกลับมาได้นานกว่าวิธีการโกน แต่อาจทำให้เจ็บ หรืออาจทำให้เกิดการระคายเคือง ผิวหนังแดง ขนคุดได้
- การใช้แสง IPL (Intense Pulsed Light) : เป็นการใช้แสงเพื่อทำลายรากขน สามารถช่วยลดการงอกกลับของขนได้ แต่อาจไม่ดีเท่าการทำเลเซอร์ขน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดจำนวนขนในบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณที่มีขนหนาและเข้มสี เช่น ขา รักแร้ หรือบริเวณบิกินี่ แต่อาจต้องทำหลายครั้งเพื่อเห็นผล
- การทำเลเซอร์ขน : เป็นการใช้เลเซอร์เฉพาะเจาะจงเพื่อทำลายรากขนโดยตรง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดขนในบริเวณที่ไม่ต้องการ เช่น ขา, รักแร้, บริเวณบิกินี่ และใบหน้า ข้อดีคือช่วยลดปัญหาเกี่ยวกับขน เช่น ขนคุดหรือการระคายเคืองจากการโกนขนหรือแว็กซ์ และให้ผลลัพธ์ยาวนานหรือถาวรในการลดจำนวนขน
การเลือกวิธีการกำจัดขน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ตำแหน่งที่ต้องการกำจัดขน, งบประมาณ, ความสะดวกของแต่ละบุคคล แต่หากคนไข้ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนาน เห็นผลดีที่สุด และไม่ต้องเสียเวลาดูแลบ่อยครั้ง การทำเลเซอร์ขน จะเป็นวิธีกำจัดขนที่ดี และเหมาะสมที่สุดครับ
แม้ว่าการทำเลเซอร์ขนจะมีราคาสูงกว่าวิธีการกำจัดขนอื่น ๆ แต่การลงทุนที่คุ้มค่ามากที่สุด ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในระยะยาว เมื่อเทียบกับการโกนขนหรือใช้วิธีการกำจัดขนชั่วคราวอื่น ๆ ที่ต้องทำซ้ำ ๆ
ทำความรู้จักเลเซอร์ขน คืออะไร ? มีกี่แบบ ?
เลเซอร์ขน (Laser hair removal) คือ การใช้เลเซอร์เฉพาะเจาะจงที่มีความยาวคลื่นแสง ซึ่งได้รับการออกแบบมาให้ทำลายรากขนโดยไม่ทำอันตรายต่อเนื้อเยื่อรอบข้าง หลักการทำงานของเลเซอร์ขนจะเป็นการส่งพลังงานแสงไปยังเม็ดสีเมลานินที่อยู่ในรากขน ทำให้รากขนถูกทำลายจากความร้อนที่เกิดขึ้น ช่วยให้ขนหยุดเติบโต เกิดขนใหม่ช้าลง จนเส้นขนน้อยลงในที่สุด
เลเซอร์ขนมีหลายแบบ แบ่งออกเป็นตามชนิดของเลเซอร์ โดยแต่ละประเภทมีคุณสมบัติ และเหมาะกับสีผิว สีขน รวมถึงลักษณะของขนที่แตกต่างกัน ซึ่งเครื่องเลเซอร์ขนที่ได้รับความนิยมจะมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบครับ ได้แก่
- เลเซอร์ขน Diode : เป็นเครื่องเลเซอร์ขนที่เหมาะกับผู้ที่มีสีผิวอ่อนถึงปานกลาง มีความยาวคลื่นประมาณ 810 นาโนเมตร สามารถกำจัดขนได้ทุกขนาด ทั้งขนเส้นเล็กและขนเส้นใหญ่ ทำลายรากขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เลเซอร์ขน IPL (Intense Pulsed Light) : จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลเซอร์ แต่เป็นแสงที่มีความยาว คลื่นหลายชนิด เหมาะสำหรับการกำจัดขนในบริเวณกว้าง เช่น ขาหรือหลัง สามารถปรับเปลี่ยนความยาวคลื่นได้เพื่อให้เหมาะสมกับสีขนและสีผิว แต่อาจต้องทำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
- เลเซอร์ขน Nd:YAG : เป็นเครื่องเลเซอร์ขนที่มีความยาวคลื่นอยู่ที่ 1064 นาโนเมตร ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่มีสีผิวเข้มหรือมีขนที่หนาแน่น สามารถลงไปในชั้นผิวหนังได้ลึกโดยไม่ทำอันตรายต่อผิวหนัง ช่วยทำลายรากขนได้ทั่วถึง และลดการเติบโตของขนใหม่ โดยแต่ละครั้งสามารถกำจัดขนได้ถึง 20-30% ของเส้นขนทั้งหมด มีระบบทำความเย็นเพื่อลดความรู้สึกไม่สบาย และป้องกันการระคายเคืองต่อผิวหนังระหว่างทำเลเซอร์ขน
ซึ่งแต่ละเครื่องเลเซอร์ขนมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับสภาพผิว และสีขนของแต่ละบุคคล ดังนั้นการเลือกชนิดเลเซอร์ขนที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญมากครับ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกชนิดเลเซอร์ที่เหมาะสมกับตนเองมากที่สุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นตามมา
เลเซอร์ขนอันตรายไหม ?
การทำเลเซอร์ขน เป็นวิธีการกำจัดขนที่ปลอดภัย ให้ผลลัพธ์ที่ดีและคุ้มค่าในระยะยาวสำหรับหลาย ๆ คนหากทำกับแพทย์ที่ผ่านการเทรนนิง และใช้เครื่องเลเซอร์ขนที่ได้มาตรฐานครับ
อย่างไรก็ตาม การทำเลเซอร์ขนก็อาจมีผลข้างเคียงที่สามารถเกิดขึ้นได้ เช่น การระคายเคืองของผิวหนัง, ผิวหนังแดง หรือบวมเล็กน้อย แต่อาการเหล่านี้สามารถหายได้เองภายในไม่กี่ชั่วโมงครับ
ข้อดีการเลเซอร์ขน
- การเลเซอร์ขนช่วยลดจำนวนขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นานหลายเดือนหรือหลายปี หากมีการทำซ้ำตามแนะนำ
- ช่วยลดปัญหาขนคุดที่มักเกิดจากการโกนหรือการแว็กซ์
- ลดความจำเป็นในการโกนหรือใช้วิธีการกำจัดขนอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง
- สำหรับผู้ที่ผิวแพ้ง่ายหรือเกิดการระคายเคืองจากวิธีการกำจัดขนแบบเดิม เช่น การโกนหรือการแว็กซ์ การทำเลเซอร์ขนเป็นทางเลือกที่ดี
- เลเซอร์สามารถเลือกกำจัดขนในพื้นที่เฉพาะเจาะจงได้อย่างแม่นยำโดยไม่ทำอันตรายต่อผิวหนังรอบข้าง
- สามารถใช้การเลเซอร์ขนกับบริเวณต่าง ๆ บนร่างกาย เช่น ใต้วงแขน, บริเวณบิกินี่, ใบหน้า และขา
- แม้ในระหว่างการรักษาอาจมีความรู้สึกเหมือนถูกยิงด้วยยางยืด แต่ก็เจ็บน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการถอนหรือแว็กซ์ขน
การเตรียมตัวก่อนเลเซอร์ขน
- หลีกเลี่ยงการโกนหรือกำจัดขนในบริเวณที่ต้องการเลเซอร์ขนอย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ เพื่อให้ขนมีความยาวเพียงพอที่เลเซอร์จะสามารถจับเป้าหมายได้
- หลีกเลี่ยงการออกแดด โดนแดดแรง หรืออาบแดด และใช้ครีมกันแดดที่มี SPF สูงหากต้องออกไปข้างนอก
- งดการแว็กซ์หรือใช้ครีมกำจัดขน เพราะอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของการเลเซอร์ขน
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจทำให้ผิวระคายเคือง เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีกรด (AHA, BHA) หรือ retinol ก่อนเลเซอร์ขนประมาณ 1-2 สัปดาห์
- แจ้งประวัติการรักษาและยาที่ใช้ปัจจุบันให้กับแพทย์ทราบ เพื่อประเมินว่ามีสภาพหรือยาใดที่อาจส่งผลต่อการกำจัดขนด้วยเลเซอร์
เลเซอร์ขนมีขั้นตอนอะไรบ้าง ใช้เวลากี่นาที นานไหม ?
การทำเลเซอร์ขนมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากครับ ในแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 15 นาที จนถึง 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำ และความหนาแน่นของขน บริเวณที่มีขนน้อยอาจใช้เวลาน้อยกว่า แต่หากเป็นบริเวณกว้างและมีขนหนา อาจต้องใช้เวลามากขึ้นเล็กน้อยครับ โดยขั้นตอนการเลเซอร์ขนจะมีดังนี้
- เข้ารับการปรึกษา เพื่อประเมินสภาพผิวและขน รวมถึงการพูดคุยเกี่ยวกับความคาดหวังและผลลัพธ์ที่ต้องการ
- บริเวณที่จะทำการเลเซอร์ขนจะถูกทำความสะอาด เช็ดแอลกอฮอล์ และในบางกรณีอาจต้องโกนขน เพื่อให้เลเซอร์สามารถเจาะลึกลงไปยังรากขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- แพทย์หรือ Specialist จะปรับความยาวคลื่น และพลังงานของเลเซอร์ให้เหมาะสมกับสีผิวและสีขนของคนไข้
- สวมแว่นตาป้องกันเพื่อปกป้องดวงตาจากรังสีเลเซอร์
- แพทย์หรือ Specialist จะใช้เครื่องเลเซอร์เคลื่อนไปบนผิวหนังของคนไข้ ขณะทำอาจรู้สึกเหมือนมีความร้อนบนผิวหนังหรือรู้สึกเหมือนโดนยางดีด
- หลังเลเซอร์ขน จะมีการประคบเย็น ทาครีมให้ความชุ่มชื้น ลดการระคายเคือง
- ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้หน้า ใช้ชีวิตได้ตามปกติ
การดูแลหลังเลเซอร์ขน เพื่อรักษาผลลัพธ์ในระยะยาว
- หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรง และใช้ครีมกันแดดที่มี SPF สูง มีการป้องกัน UVA และ UVB
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น เพราะอาจทำให้ผิวหนังระคายเคืองได้
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ระคายเคือง เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์ กรดผลไม้ หรือส่วนผสมที่มีฤทธิ์แรงอื่น ๆ
- ทาครีมบำรุงผิว หรือครีมลดการระคายเคืองหลังเลเซอร์ขน เพื่อช่วยให้ผิวหนังฟื้นตัวได้ดีขึ้น
- หลีกเลี่ยงการเกาบริเวณที่ทำเลเซอร์ขน เพราะการเกาอาจทำให้เกิดการระคายเคือง หรือการติดเชื้อบนผิวหนังที่บอบบางได้
- หลีกเลี่ยงการถอน ใช้ครีมกำจัด หรือการแวกซ์หนวด เพราะในการเลเซอร์หนวดครั้งต่อไปจะได้มีเซลล์รากขนอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นในการกำจัดขน
- ดื่มน้ำมาก ๆ เพราะการดื่มน้ำช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื้นจากภายใน ช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้ดีขึ้นหลังการทำเลเซอร์ขน
- หลีกเลี่ยงการใช้สระว่ายน้ำหรืออ่างน้ำร้อนหลังเลเซอร์ขน 1-2 สัปดาห์หลังการทำเลเซอร์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระคายเคืองหรือติดเชื้อ
- สวมเสื้อผ้าที่ไม่รัดแน่นจนเกินไป เพื่อลดการเสียดสีกับผิวหนังบริเวณที่ทำเลเซอร์
เลเซอร์ขนต้องทำกี่ครั้ง ทำแล้วขนจะกลับมาขึ้นอีกไหม ?
โดยทั่วไปแล้วการทำเลเซอร์ขน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรทำอย่างน้อย 6-10 ครั้งครับ ซึ่งจำนวนครั้งที่ทำนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ตำแหน่งที่ต้องการกำจัดขน, ลักษณะของขน, สีผิว, สีขน และการตอบสนองของแต่ละบุคคลด้วย
สำหรับจำนวนครั้งของการทำเลเซอร์ขนตามแต่ละบริเวณ โดยเฉลี่ยจะมีจำนวนครั้งดังนี้ครับ
- เลเซอร์ขนหน้า : เช่น เลเซอร์หนวด เครา ควรทำติดต่อกัน 6-8 ครั้ง โดยเว้นระยะห่าง 4-6 สัปดาห์ เพราะการเติบโตของขนบนใบหน้ามักจะเร็วกว่าส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย
- เลเซอร์ขนรักแร้/บิกินี่ : ควรทำติดต่อกัน 6-10 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างประมาณ 6-8 สัปดาห์
- เลเซอร์ขนแขน/ขา : ควรทำติดต่อกัน 6-8 ครั้ง โดยเว้นระยะห่าง 8-10 สัปดาห์
- เลเซอร์ขนหลังและหน้าอก (สำหรับผู้ชาย) : ควรทำติดต่อกัน 6-10 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างประมาณ 8-10 สัปดาห์
ส่วนคำถามที่ว่าทำเลเซอร์ขนแล้ว ขนจะกลับมาขึ้นอีกไหม ? การทำเลเซอร์ขนสามารถช่วยลดจำนวนขนได้จริง และทำให้ขนหยุดเติบโตได้ในระยะยาวครับ แต่อาจไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะกำจัดขนได้ถาวร 100% นั่นหมายความว่ามีโอกาสที่ขนอาจงอกขึ้นใหม่ได้ครับ แต่จะบางและอ่อนนุ่มกว่าขนเดิม
เลเซอร์ขนเจ็บไหม ตอนทำรู้สึกอย่างไร ?
ระหว่างทำเลเซอร์ขนอาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยครับ ให้ความรู้สึกเหมือนถูกยิงด้วยยางยืดเล็ก ๆ แต่เป็นความเจ็บที่ทนได้ เพราะคลินิกส่วนใหญ่จะมีวิธีลดความเจ็บ เช่น การใช้เจลเย็นหรืออุปกรณ์ทำความเย็นระหว่างทำเลเซอร์ขน ซึ่งสามารถช่วยลดความรู้สึกเจ็บและระคายเคืองได้
เลเซอร์ขนแล้วคันเกิดจากอะไร ?
การคันหลังจากทำเลเซอร์ขนอาจเกิดจากหลายสาเหตุครับ หลัก ๆ จะเกิดจากการตอบสนองต่อการทำเลเซอร์ ซึ่งอาจทำให้ผิวหนังมีการระคายเคืองหรืออักเสบได้เล็กน้อย นอกจากนี้การแห้งของผิวหลังการทำเลเซอร์ก็อาจทำให้เกิดความรู้สึกคันได้เช่นกัน
เพื่อช่วยลดความรู้สึกคันหลังจากทำเลเซอร์ขน คนไข้สามารถใช้ครีมหรือโลชั่นที่ช่วยบำรุง และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ครับ และควรหลีกเลี่ยงการขัดหรือเกาบริเวณที่ทำเลเซอร์ขน เพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคืองหรือการติดเชื้อ แต่หากมีอาการคันรุนแรงหรือไม่หายไป ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและรักษาตามอาการครับ
สรุป
การเลเซอร์ขน เป็นวิธีการกำจัดขนที่ทำได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายครับ ไม่เพียงแต่ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานหรือถาวรเท่านั้น แต่ยังช่วยลดการบาดเจ็บที่อาจเกิดจากการใช้มีดโกนหรือการแว็กซ์ ลดความจำเป็นในการโกนขนบ่อย ๆ ทำให้ประหยัดเวลา ไม่ต้องกังวลเรื่องขนคุดตามมา และยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันได้อีกด้วย
คนไข้ท่านใดที่สนใจทำเลเซอร์ขน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำต่าง ๆ และเลือกชนิดของเลเซอร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวและสีขน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ