ฉีดเมโสหน้าใส คืออะไร ? อันตรายไหม ช่วยเรื่องอะไรบ้าง แนะนำข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีด

ฉีดเมโสหน้าใส

ฉีดเมโสหน้าใส-ผิวใส-สุขภาพดี-เลือกสูตรไหนดี

การฉีดเมโสหน้าใส คือหนึ่งในวิธีลัดฟื้นฟูผิวใส ให้ดูสุขภาพดีอย่างปลอดภัย เห็นผลจริง และเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นวิธีบำรุงผิวด้วยการฉีดวิตามินผิวเข้าสู่ชั้นผิวโดยตรง จึงทำให้เห็นผลไวกว่าการทาครีมบำรุงทั่วไป เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง พักผ่อนไม่เพียงพอ ผิวไม่ได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ หน้าดูโทรม ไม่สดใส 

สำหรับใครที่มีปัญหาหาผิวโทรม ต้องการฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน แต่ยังมีข้อสงสัยว่าการฉีดเมโสหน้าใส คืออะไร? คำว่าเมโส มีที่มาอย่างไร? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง? ฉีดเมโสหน้าใส อันตรายไหม? มีกี่แบบ? เลือกเมโสหน้าใส ยี่ห้อไหนดี? ก่อนฉีดเมโสหน้าใส มีข้อควรรู้อะไรบ้าง? หมอจะมาให้คำตอบในบทความนี้ครับ 

สารบัญ ฉีดเมโสหน้าใส


 

เมโสหน้าใส คืออะไร ?

เมโสหน้าใส (Mesotherapy) คือการทำทรีทเม้นท์บำรุงผิวใสในรูปแบบของการฉีดตัวยาเข้าสู่ผิวหน้าโดยตรง ซึ่งจุดเด่นของเมโสคือ ช่วยควบคุมให้เม็ดสีทำงานลดลง ส่งผลให้รอยฝ้า กระ จุดด่างดำจางลง ใบหน้าดูกระจ่างใส เต่งตึง เรียบเนียน สีผิวดูสม่ำเสมอขึ้นอย่างปลอดภัย เพราะตัวยาสกัดมาจากสารธรรมชาติ ไม่มีโปรตีนแปลกปลอม ผ่านการรับรองจาก อย.ไทย ไม่มีผลข้างเคียงที่ก่อการระคายเคืองต่อผิวครับ

 

คำว่า “เมโส” มีที่มาอย่างไร ?

คำว่าเมโสหน้าใส มาจากคำว่า meso ที่แปลว่าตรงกลาง ถ้าพูดในวงการทางการแพทย์เสริมความงามจะหมายถึงการฉีดลงใน “ชั้นกลางของผิว” ซึ่งผิวของเราจะประกอบไปด้วย ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) เป็นชั้นที่อยู่นอกสุด , ชั้นหนังแท้ (Dermis) เป็นผิวชั้นกลางที่ความยืดหยุ่น ประกอบไปด้วยคอลลาเจน และอิลาสติน ทำหน้าที่ช่วยให้ผิวมีสุภาพดี ดูอ่อนเยาว์ ชุ่มชื้น ยืดหยุ่น ดูเต่งตึง และชั้นไขมัน (Subcutis) เป็นชั้นที่อยู่ในสุดของชั้นผิวหนัง

ชั้นผิวหนัง

ซึ่งผิวหนังชั้นกลางมีความสำคัญ คือช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ เต่งตึง มีความยืดหยุ่นแก่ผิว และเมื่อเรามีอายุมากขึ้น ก็จะทำให้ระดับคอลลาเจน อิลาสติน และโครงสร้างผิวชั้นกลางเสื่อมสภาพลง ดังนั้นการฉีดเมโสหน้าใสเข้าไปในผิวชั้นกลางนี้ จึงเป็นวิธีบำรุงโครงสร้างผิวที่เห็นผลดีและรวดเร็ว ทำให้ผิวกลับมาแข็งแรง มีความยืดหยุ่นมากขึ้นครับ 

 

ฉีดเมโสหน้าใส ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?

เมโสหน้าใส-ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
  • ปรับสีผิวให้ดูกระจ่างใสอย่างสม่ำเสมอ ฟื้นฟูผิวคล้ำเสียจากแสงแดด
  • เติมความชุ่มชื้น บำรุงผิวล้ำลึก กระชับรูขุมขน ปรับใบหน้าให้ดูเรียบเนียน
  • กระตุ้นการไหลเวียนของต่อมน้ำเหลืองใต้ผิวหนัง ผิวพรรณเปล่งปลั่ง
  • ขับสารพิษที่ตกค้าง ลดการอักเสบของผิว ลดสิว ผดผื่น บำรุงผิวให้แข็งแรง ดูสุขภาพดี
  • ฟื้นฟูเซลล์ผิวและชะลอการเสื่อมของคอลลาเจนในผิว
 

การฉีดเมโสหน้าใสเหมาะกับใครบ้าง ?

  • คนที่ต้องการบำรุงผิวแบบเร่งด่วน ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง พักผ่อนน้อย ขี้เกียจทาครีม
  • คนที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น มีรูขุมขนกว้าง
  • คนที่มีปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยสิว 
  • คนที่มีผิวแพ้ง่าย ผิวอักเสบ เป็นสิวมีผดผื่น ผิวไม่แข็งแรง
 

การฉีดเมโสหน้าใส อันตรายไหม ?

การฉีดเมโสหน้าใส ไม่อันตรายครับ เนื่องจากตัวยาที่ฉีดล้วนเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อผิว เช่น vitamin A B C E, Transamin, Glutatione, คอลลาเจนและโคเอนไซม์ ที่สกัดมาจากธรรมชาติ หลังฉีดไม่ได้ทำให้ผิวบาง หรือผิวไวต่อแสง ในทางกลับกัน การฉีดเมโสหน้าใสช่วยให้ผิวหน้าแข็งแรงมากขึ้นครับ

เมโสหน้าใส เป็นหัตถการที่ผ่านการตรวจสอบรับรองจากอย. แล้วว่าปลอดภัย มีบริษัทนำเข้ามาอย่างถูกต้อง และตามกฏหมายยาบังคับจะขายให้กับหมอเท่านั้น ที่ควรระวังคือยาเมโสหน้าใสที่ลักลอบขายตามอินเทอร์เน็ต หรือที่เราเรียกกันว่ายาหิ้ว ในกรณีนี้หมอแนะนำให้เลี่ยงครับ 

 

ฉีดเมโสหน้าใส ยี่ห้อไหนดี ? แต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร ?

เมโสหน้าใส-ยี่ห้อไหนดี--แต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร
  • มาเด้ คอลลาเจน  เป็นยี่ห้อเมโสที่ช่วยขับสารพิษที่ตกค้างอยู่ในผิว ฟื้นฟูเซลล์ผิว และชะลอการเสื่อมของคอลลาเจนในผิวลดสิว ผดผื่น ผิวอักเสบ เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย ต้องการบำรุงผิวหน้าให้แข็งแรงขึ้น
  • Filorga / Revs  เน้นผิวขาวใส ลดฝ้า เติมความชุ่มชื้นให้ผิวดูอิ่มน้ำ ช่วยบำรุงผิวแบบ premium เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้งกร้าน ขาดการบำรุง 
  • Tensonez / Depigment  เป็นยี่ห้อเมโสที่ช่วยลดปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำบนใบหน้า ปรับผิวหน้าให้ดูกระจ่างใสอย่างสม่ำเสมอ เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้งเสียจากแสงแดด ดูหมองคล้ำ
  • Alpha arbutin เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเน้นลดฝ้าโดยตรง 
 

เทคนิคการฉีดเมโสหน้าใสแบบสะกิด vs แบบ 16 จุด

การฉีดเมโสหน้าใสจะมีเทคนิคการฉีดด้วยกัน 2 แบบ คือการฉีดเมโสหน้าใสแบบ 16 จุด และการฉีดเมโสหน้าใสแบบสะกิดครับ แต่ในปัจจุบันจะนิยมใช้เทคนิคการฉีดแบบ 16 จุดมากกว่า เนื่องจากมีความปลอดภัย เป็นแผลน้อยกว่า เจ็บน้อยกว่า ตัวยาออกฤทธิ์ได้ดีและยาวนานกว่าครับ

เทคนิคการฉีดเมโสหน้าใสแบบ 16 จุด

เทคนิคการฉีดเมโสหน้าใสแบบ-16-จุด

เทคนิคการฉีดเมโสหน้าใสแบบ 16 จุด คือเทคนิคการฉีดตามจุดฝังเข็ม 16 จุดทั่วใบหน้า เทคนิคนี้จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของต่อมน้ำเหลืองใต้ผิวหนังทำงานได้ดีขึ้น กระตุ้นการทำงานของระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายที่มีผลต่อสุขภาพผิวหน้า ช่วยให้ผิวหน้าแข็งแรง แลดูสุขภาพดี

เทคนิคการฉีดเมโสหน้าใสแบบสะกิด

เทคนิคการฉีดเมโสหน้าใสแบบสะกิด

เทคนิคการฉีดเมโสหน้าใสแบบสะกิด เป็นวิธีการฉีดเมโสแบบเก่า ทำโดยการสะกิดเข็มทั่วใบหน้า ในปัจจุบันไม่นิยมทำแล้วครับ เพราะมีผลข้างเคียง เช่น ถ้าระหว่างฉีดรักษาความสะอาดไม่เพียงพอ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อตามมา มีผื่นแดงจากรอยเข็ม หรือมีรอยช้ำ 

 

ฉีดเมโสหน้าใส เจ็บไหม ?

ฉีดเมโสหน้าใสไม่เจ็บครับ เพราะทางคลินิกจะมีการแปะยาชาทั่วหน้า จึงช่วยบรรเทาความเจ็บระหว่างฉีดได้ แต่ขณะฉีดคนไข้อาจรู้สึกแสบจากการเดินยาได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ไม่ต้องกังวลครับ 

 

เมโสหน้าใส อยู่ได้นานแค่ไหน ?

หลังฉีดเมโสหน้าใส ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 1-2 เดือนครับ หากฉีดอย่างสม่ำเสมอ ก็จะอยู่ได้นานขึ้นครับ ที่สำคัญคือการดูแลตัวเองและไม่ทำพฤติกรรมที่ทำร้ายผิว เช่น ตากแดดจัด พักผ่อนไม่เพียงพอ ดื่มแอลกอฮอลล์หรือสูบบุหรี่

 

หน้ามัน รูขุมขนกว้าง การฉีดเมโสช่วยได้ไหม ?

หน้ามัน-รูขุมขนกว้าง-การฉีดเมโสช่วยได้ไหม

สำหรับใครที่มีปัญหาหน้ามัน รูขุมขนกว้าง การฉีดเมโสช่วยได้ครับ เพราะเมื่อเราฉีดเมโสหน้าใสลงในชั้นผิวที่มีต่อมไขมันที่ทำหน้าที่รักษาความชุ่มชื้นให้ผิว ผลที่ได้คือต่อมไขมันทำงานน้อยลง รูขุมขนกระชับขึ้น หน้ามันน้อยลงครับ 

 

เมโสรักษาฝ้าได้จริงไหม ?

เมโสรักษาฝ้าได้จริงครับ แต่ไม่สามารถเห็นผลถาวร เป็นเพียงการควบคุมให้เม็ดสีทำงานลดลงเพื่อชะลอการกระจายของฝ้าเท่านั้น หลังฉีดเมโสฝ้าช่วยลดฝ้า กระ จุดด่างดำให้จางลงได้ประมาณ 20-50% แต่ทั้งนี้ก็ยังเห็นผลไวกว่าการทาครีม ถ้าคนไข้อยากรักษาฝ้าแบบเห็นผลเร่งด่วน เมโสฝ้าถือเป็นหัตถการที่แก้ปัญหาได้ตรงจุดครับ 

 

ฉีดเมโสฝ้า กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีดเมโสฝ้าจะเริ่มเห็นผลใน 3 วัน และจะเห็นผลเต็มที่ประมาณ 7-14 วัน ครับ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความถี่ในการฉีดและสภาพผิวของคนไข้แต่ละคน หากคนไข้ต้องการให้ผลลัพธ์ชัดเจนมากยิ่งขึ้น หมอแนะนำว่าในช่วงเดือนแรกควรฉีดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และเมื่อผิวเริ่มมีสุขภาพดีขึ้นแล้วก็สามารถฉีด 2-3 ครั้งต่อเดือนได้ครับ

 

ฉีดเมโสหน้าใส มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง ?

หลังฉีดเมโสหน้าใสไม่ได้มีผลข้างเคียงที่อันตรายครับ มีเพียงรอยเข็มเล็ก ๆ บางรายที่มีผิวบอบบางก็อาจจะมีรอยช้ำจากเข็มเล็กน้อย แต่ 1-2 วันก็หายเป็นปกติ 

 

หลังทำเมโสแล้วผื่นแดงขึ้น ต้องทำอย่างไร ?

หลังฉีดเมโสแล้วมีผื่นแดงขึ้น อาจมีสาเหตุมาจากรอยเข็มเล็ก ๆ  บางรายอาจมีรอยช้ำ สามารถประคบเย็นภายใน 48 ชม. และหลังจากนั้นสามารถประคบอุ่นได้ตามคำแนะนำของแพทย์ อาการก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นครับ 

แต่หากคนไข้มีอาการบวมแดง มีผื่นเยอะขึ้น ผิวอ่อนแอ ไวต่อแสง ร่วมกับมีอาการเจ็บบริเวณรอยเข็ม อาการเหล่านี้มักมาจากการฉีดเมโสปลอมที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์หรือฮอร์โมนครับ หากคนไข้มีอาการลักษณะนี้ แนะนำให้รีบรักษาด้วยยาฆ่าเชื้อ หรือปรึกษาแพทย์เพื่อจะได้รักษาอย่างตรงจุด

 

ฉีดเมโสหน้าใส ต้องทำบ่อยแค่ไหน ?

หากคนไข้ต้องการคงผลลัพธ์ให้อยู่นานขึ้น ในช่วงแรกหมอแนะนำให้ฉีดอาทิตย์ละ 1 ครั้ง และหลังจากนั้นฉีดทุก ๆ 2 อาทิตย์เพื่อคงผลลัพธ์ แต่สำหรับใครที่ต้องการผลแบบเร่งด่วน ก็สามารถฉีด 3 วัน/ครั้ง ได้เพราะตัวยาไม่มีผลข้างเคียง และไม่เป็นอันตรายต่อผิวครับ

 

นอกจากเมโสหน้าใสแล้ว มีวิธีไหนที่ช่วยให้หน้าใสได้อีก ?

นอกจากเมโสหน้าใสแล้ว ยังมีวิธีที่ช่วยให้หน้าใสขึ้นได้อีกครับ มีทั้งการทำหัตถการทางการแพทย์ และวิธีบำรุงผิวใสด้วยตัวเอง เช่น

  • Platelet Rich Plasma (PRP) เป็นวิธีฟื้นฟูผิวด้วยเกร็ดเลือดตัวเอง โดยการนำเลือดของตัวคนไข้เอง ไปทำการปั่นแยกเกร็ดเลือด เพื่อแยกส่วนของเลือดและน้ำออกจากกันเพื่อให้ได้เกล็ดเลือดที่มีเข้มข้นสูง หลังทำผิวจะดูกระจ่างใสขึ้น ผิวดูอิ่มน้ำ 
  • ทำทรีทเม้นท์หน้าใส เป็นวิธีแก้ปัญหาหน้าหมองคล้ำ ปรับผิวใสด้วยการผลักวิตามินเข้าสู่ผิวชั้น นอก เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต 
  • การทำเลเซอร์หน้าใส แก้ปัญหาหน้าโทรมด้วยการใช้เลเซอร์กลุ่มกำจัดเม็ดสีเมลานิน ซึ่งเลเซอร์ที่ได้รับความนิยมคือ เลเซอร์ ND-Yag , Fractional, Q-Switch, Dual Yellow Laser ที่เป็นการผลัดเซลล์ผิวเก่า และกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ให้ผิวดูใสขึ้น
  • การมาสก์หน้า ฟื้นฟูผิวใส เป็นวิธีที่เห็นผลและได้รับความนิยม เพราะสามารถหาซื้อแผ่นมาสก์หน้าได้ง่าย และมีราคาไม่แพง 
  • ฉีดโบท็อกหน้าใส เป็นการฉีดสารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัมลงไปสู่ชั้นกล้ามเนื้อ เพื่อให้กล้ามเนื้อดึงผิวเราน้อยลง ผลที่ได้คือ ผิวชั้นบนเรียบเนียนขึ้น และดูใสขึ้นครับ
  • Hifu / Ulthera หน้าใส เป็นวิธีปรับปัญหาผิวหน้า โดยการใช้เครื่องมือยกกระชับผิวด้วยพลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง ส่งลงไปในชั้นผิวหนัง SMAS มีจุดเด่นคือช่วย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวหน้ายืดหยุ่น ลดริ้วรอย กระชับรูขุมขน ผิวเรียบเนียน กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ
  • Thermage หน้าใส เป็นการฟื้นฟูผิวใสด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูง (Monopolar RF) ยิงลงไปในชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวเกิดการหดตัว ปรับผิวให้ตึงกระชับมากขึ้น พร้อมกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวแน่น กระจ่างใส ลดริ้วรอย และรูขุมขนเล็กลงครับ

สำหรับใครที่ต้องการฟื้นฟูผิวใสแบบเร่งด่วน ไม่มีเวลาพักฟื้น หมอแนะนำให้เลือกใช้วิธีทางการแพทย์หรือการทำหัตถการจะดีกว่าครับ เพราะเห็นผลไวกว่าวิธีอื่น ๆ ช่วยฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วนโดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผิว อีกทั้งไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้หน้าได้เลย แต่ทั้งควรเลือกทำหัตถการกับคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อความปลอดภัยและคุ้มค่าครับ

 

เมโสหน้าใสแบบทา ได้ผลจริงไหม ?

เมโสหน้าใสแบบทาที่เราเห็นทั่วไปตามอินเตอร์เน็ต ส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบครีมบำรุงหรือเซรั่มหน้าใส ซึ่งจะให้ผลเหมือนการทาครีมบำรุงทั่วไปครับ ต้องใช้ระยะเวลาและความสม่ำเสมอ อีกทั้งประสิทธิภาพจะต่างจากเมโสหน้าใสแบบฉีดมาก

 

ข้อควรระวังในการทำเมโสหน้าใส

ข้อควรระวังในการทำเมโสหน้าใส.webp

การฉีดเมโสหน้าใสที่หมอแนะนำให้ระวังเลยก็คือ การซื้อตัวยาเมโสจากอินเตอร์เน็ตมาฉีดเอง หรือฉีดกับหมอกระเป๋าครับ ตัวยาเมโสหน้าใสที่ลักลอบขายตามอินเทอร์เน็ต ล้วนเป็นยาหิ้ว ยาปลอมด้วยกันทั้งสิ้น เพราะตามกฏหมายบังคับขายยาแล้ว บริษัทที่นำเข้ามาอย่างถูกต้อง จะขายให้กับแพทย์หรือคลินิกที่เปิดอย่างถูกต้องเท่านั้นครับ และหากคนไข้นำมาฉีดเองโดยไม่มีความรู้กายวิภาคบนใบหน้าก็จะเสี่ยงฉีดถูกเส้นเลือดสำคัญ ๆ ก็จะยิ่งทำให้อันตรายมากขึ้น

 

หลังฉีดเมโสหน้าใสห้ามทำอะไร ?

หลังฉีดเมโสหน้าใส ไม่ได้มีข้อห้ามอะไรที่ต้องระวังเป็นพิเศษครับ เพียงแค่เลี่ยงการนวดผิวทันทีหลังทำ ควรปล่อยให้ตัวยาค่อย ๆ แพร่กระจายและซึมเข้าสู่ผิวเอง , พยายามเลี่ยงแสงแดด หากจำเป็นต้องออกแดดบ่อย ๆ ควรทาครีมกันแดดที่มี SPF30 ขึ้นไป และงดทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองบริเวณรอยเข็มได้ 

 

ฉีดเมโสหน้าใส ที่ไหนดี ?

ฉีดเมโสหน้าใส-ที่ไหนดี
  • ควรเลือกคลินิกที่ใช้ยาเมโสแท้  สามารถตรวจสอบได้ และเพื่อให้มั่นใจว่าคลินิกใช้ของแท้ตามที่กล่าวไว้ คนไข้ควรให้หมอแกะกล่องเมโสหน้าใสให้ดูต่อหน้า 
  • คลินิกได้มาตรฐาน ได้รับการรับรองตามกระทรวงสาธารณสุข มีพื้นที่และห้องการทำหัตถการกว้างขวาง สะอาด ไม่ทึบหรือแออัด ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี เดินทางสะดวก 
  • มีรีวิวจริงที่เป็นปัจจุบัน เชื่อถือได้ และควรดูจากแหล่งที่เป็นกลาง เช่นดูจาก Feedback ที่คนไข้มารีวิว เพราะเมื่อเข้ามาโพสแล้วทางคลินิกจะไม่สามารถลบออกได้
  • มีช่องทางติดต่อกับหมอได้โดยตรง เช่น  inbox facebook หรือ Line@ ของคลินิก เพื่อที่คนไข้สามารถสอบถามข้อสงสัย หรือคำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลตัวเองก่อน-หลังทำหัตถการ หรือนัดคิวปรึกษากับแพทย์ที่ดูแลเคสได้โดยตรง
 

เมโสหน้าใส รีวิว

วิว Made Collagen และ LLD Fat คุณโบ้ท By V Square Clinic

รีวิวฉีดเมโส1 หมอแอน
รีวิวฉีดเมโส2 หมอแพน
รีวิวฉีดเมโส3 หมอแอน
รีวิวฉีดเมโส4 หมอปุ๋ย
 

เมโสหน้าใส ราคา เท่าไหร่ ?

เมโสหน้าใส ราคา เท่าไหร่

โปรโมชั่น เมโส หน้าใส ราคาพิเศษ
สำหรับผู้ติดตาม Line@ และมีสติ๊กเกอร์ “น้อง ดักกี้ V Square”

  • มาเด้ คอลลาเจน
    ครั้งละ  2,500.-
    คอร์ส 5 ครั้ง  9,900.-
  • เมโสหน้าใส Filorga (Fillmed)
    ครั้งละ  9,000.-
    คอร์ส 5 ครั้ง  39,000.-
  • เมโสหน้าใส Revs
    ครั้งละ  6,000.-
    คอร์ส 5 ครั้ง  25,000.-
  • เมโสหน้าใส Neo Glutanex Glow /Tensonez / Alpha arbutin
    ครั้งละ  3,500.-
    คอร์ส 5 ครั้ง  15,000.-

สรุป เรื่องเมโสหน้าใส

การฉีดเมโสหน้าใส เป็นวิธีทำให้หน้าใสที่ได้ผลดี เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเห็นผลเร่งด่วน อีกทั้งยังเป็นหัตถการที่ปลอดภัย หากคนไข้สนใจฉีดเมโสหน้าใส  ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหาผิวหน้าก่อนว่าเหมาะกับตัวยาสูตรใด เพื่อความคุ้มค่าและผลลัพธ์เป็นไปตามที่คาดหวังครับ


Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า