sculptra vs radiesse สองตัวดัง ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน
กระแสการทำหัตถการในกลุ่ม Skin Booster ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ครับ โดยเฉพาะ sculptra และ radiesse ที่สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจากระดับเซลล์
ในบทความนี้หมอจะมาเปรียบเทียบความเหมือนและแตกต่างระหว่าง sculptra vs radiesse ว่าแต่ละตัวมีส่วนประกอบอะไรบ้าง ? ออกฤทธิ์อย่างไร ? ให้ผลลัพธ์เหมือนหรือต่างกันแค่ไหน ? ต้องฉีดเยอะไหม ? ผลลัพธ์อยู่ได้นานเท่าไหร่ ราคาเท่ากันรึเปล่า ? ควรเลือกแบบไหนให้เหมาะกับปัญหาของแต่ละคน
สารบัญ sculptra vs radiesse
sculptra vs radiesse
การฉีด sculptra และ radiesse จะเป็นการฟื้นฟูโครงสร้างผิว ทำให้ผิวแน่นกระชับขึ้น ดูอ่อนเยาว์ขึ้น และตอบโจทย์เทรนด์บิวตี้ปัจจุบัน ที่คนส่วนใหญ่อยากหน้าเด็ก ผิวตึงกระชับ ผิวดูสุขภาพดี รวมไปถึง Glass Skin ซึ่งเป็นเทรนด์งานผิวจากเกาหลีที่เข้ามามีอิทธิพลกับวงการบิวตี้ในปัจจุบันครับ
sculptra
ส่วนประกอบหลักใน REVS จะมีอยู่ 2 ตัว คือ Hyaluronic Acid Non-Crosslinked น้ำหนัก 1.4 ล้านดาลตัน และ Polynucleotide เข้มข้น DNA ธรรมชาติจากแซลมอน
Sculptra คือ สารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หรือ Collagen Stimulator ที่สกัดจาก PLLA (Poly-L-Lactic Acid) ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่สามารถดูดซึมได้ จากงานวิจัยพบว่า sculptra สามารถสร้างคอลลาเจนในผิวเพิ่มขึ้นได้ถึง 66.5% ช่วยเพิ่มปริมาตรให้ผิว ทำให้ผิวหนาขึ้น ยืดหยุ่น จัดอยู่ในกลุ่มสารกึ่งถาวร มีความปลอดภัยสูง ผ่านมาตรฐานยุโรป CE, อเมริกา FDA และอย.ไทย
radiesse
Radiesse คือ สารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ที่เน้นฟื้นฟูผิวแบบองค์รวม หรือที่เรียกว่า Regenerative Biostimulator โดยจะช่วยให้ผิวเฟิร์ม แน่นกระชับ อิ่มฟูเด้ง ริ้วรอยลดลง มีคุณภาพดียิ่งขึ้น และช่วยยืดอายุผิวคุณภาพดี ให้อยู่ได้นานขึ้น ผ่านมาตรฐานยุโรป CE, อเมริกา FDA และอย.ไทย
เทียบ 7 ด้าน sculptra vs radiesse เหมือนหรือต่างกันอย่างไร ?
1.ประเทศผู้ผลิต
- sculptra ผลิตและพัฒนาโดยบริษัท Galderma Laboratories, L.P. โดยใช้กระบวนการผลิตที่ได้จดสิทธิบัตรเฉพาะของบริษัทกัลเดอร์มาเท่านั้น นำเข้าจากอิตาลี โดยบริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด
- radiesse ผลิตโดยบริษัท Merz Aesthetic ที่ได้รับความไว้วางใจในหลายประเทศทั่วโลกมาตั้งแต่ปี 2006 นำเข้าจากอเมริกา โดยบริษัท เมิร์ซ เฮลธ์แคร์ จำกัด
2.ส่วนประกอบหลัก
- sculptra มีส่วนประกอบหลักคือ PLLA (Poly-L-Lactic Acid) ซึ่งเป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนตามธรรมชาติตัวแรกของโลก เมื่อเวลาผ่านไป sculptra จะสลาย และเหลือไว้แต่เส้นใยคอลลาเจนที่ร่างกายสร้างขึ้นแทน
- radiesse มีส่วนประกอบหลักคือ CaHA (Calcium Hydroxylapatite) ผลิตด้วยวิธีการสังเคราะห์ให้เหมือน CaHA ในร่างกาย ไม่กระตุ้นภูมิให้ร่างกายต่อต้าน และจะสลายไปเองตามธรรมชาติ
3.หลักการทำงาน
- sculptra ออกฤทธิ์โดยใช้ Subclinical Inflammation เมื่อเกิดการอักเสบระดับเซลล์ จะมีการส่งสัญญาณไปกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาว และเซลล์เม็ดเลือดขาวจะส่งสัญญาณไปกระตุ้นเซลล์ Fibroblast เพื่อให้สร้างคอลลาเจน และอีลาสติน
- radiesse ออกฤทธิ์โดยตรงกับ Fibroblast โดยอนุภาค CaHA จะก่อตัวเป็นโครงสร้าง และกระตุ้นให้ Fibroblast ผลิตคอลลาเจนเพิ่มขึ้นรอบ ๆ โครงสร้างนั้นเป็นเส้นใยตาข่าย 3 มิติ (3D Matrix)
4.การกระตุ้นคอลลาเจน
- sculptra จะเน้นช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Type I ซึ่งเป็นคอลลาเจนที่มีมากที่สุดในร่างกาย โดยสามารถเพิ่มได้ถึง 66.5% งปัจจุบันยังไม่มีสารตัวไหนสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวได้เยอะเท่านี้
- radiesse จะเข้าไปฟื้นฟู Fibroblast ทำให้เกิดการกระตุ้นสารสำคัญในร่างกาย 5 ชนิด ได้แก่ Collagen Type 1, Type 3, Elastin, Angiogenesis และ Proteoglycans
5.ระยะเวลา
- ฉีด sculptra และ radiesse กี่วันเห็นผล ?
- หลังฉีด Sculptra ประมาณ 2-3 สัปดาห์ จะเริ่มเห็นผลการเปลี่ยนแปลง แต่จะเห็นผลชัดเจนในช่วง 3 เดือน
- หลังฉีด radiesse จะเข้าไปกระชับผิวทันที ริ้วรอยตื้นขึ้น ก่อนตัวยาจะออกฤทธิ์ และเริ่มเห็นผลตั้งแต่ 1 เดือน เห็นผลชัดเจนในช่วง 3-6 เดือน
- ฉีด sculptra และ radiesse อยู่ได้นานไหม ?
- radiesse และ sculptra อยู่ได้นาน 2 ปี
6.การรับรองมาตรฐานสากล
- ทั้ง sculptra และ radiesse เป็นตัวยาที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากยุโรป CE, อเมริกา FDA และอย.ไทยเหมือนกันครับ
7.ฉีดจุดไหนได้บ้าง ?
- sculptra ฉีดในจุดที่ต้องการให้เกิดการสร้างคอลลาเจนมาก ๆ เช่น หน้าแก้ม กรอบหน้า ขมับ
- radiesse ฉีดบริเวณหน้าแก้ม ร่องแก้ม ร่องมุมปาก คาง ลําคอ หลังมือ ยกกระชับผิวกรอบหน้า
sculptra vs radiesse เลือกแบบไหน เหมาะกับใคร ?
sculptra เหมาะกับใคร ?
ข้อห้ามในการฉีด sculptra
- มีประวัติแพ้ PLLA (Poly-L-Lactic acid)
- แพ้ยาชา หรือมีประวัติแพ้ที่รุนแรง (anaphylactic shock)
- ผู้ที่กำลังมีการอักเสบหรือติดเชื้อของผิวหนังบริเวณที่ฉีด เช่น สิว เริม ก้อนซีสต์ ผดผื่น
- ผู้ที่กำลังรับประทานยากดภูมิ หรือสเตียรอยด์อยู่
- คนไข้โรคแพ้ภูมิตัวเอง (Systemic Lupus Erythematosus : SLE)
- สตรีมีครรภ์และให้นมบุตร
radiesse เหมาะกับใคร ?
ข้อห้ามในการฉีด radiesse
- มีประวัติแพ้สารที่เป็นองค์ประกอบใน Radiesse
- แพ้ยาชา หรือมีประวัติแพ้ที่รุนแรง (anaphylactic shock)
- ผู้ที่ผิวหนังมีแนวโน้มเกิดแผลเป็นนูนหรือคีย์ลอยด์สูง
- ผู้ที่กำลังมีการอักเสบหรือติดเชื้อของผิวหนังบริเวณที่ฉีด เช่น สิว เริม ก้อนซีสต์ ผดผื่น
- ผู้ที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติ
- สตรีมีครรภ์และให้นมบุตร
ข้อควรรู้ก่อนฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน
การฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจนเป็นหัตถการที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนัง ทำให้ผิวดูเต่งตึง เรียบเนียน และอ่อนเยาว์ขึ้นครับ แต่ก่อนฉีดหมอแนะนำให้ศึกษาข้อมูล เลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ยาแท้ แพทย์มีประสบการณ์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย
แนะนำการเตรียมตัวก่อนฉีด sculptra และ radiesse
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาต้านการอักเสบไม่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน
- งดยาหรือวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น กลุ่มยาแอสไพริน วิตามินอี น้ำมันปลา ฯลฯ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีด
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนทำหัตถการ
- แจ้งประวัติการแพ้ยา หรือโรคประจำตัวกับแพทย์
- ไม่อยู่ในภาวะการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
Skin Booster มีอะไรอีกบ้าง ?
นอกจาก sculptra และ radiesse ยังมีหัตถการในกลุ่ม Skin Booster อื่น ๆ อีกครับ เช่น Rejuran, Exosome, Gouri หรือฟิลเลอร์อย่าง Revive, Volite ซึ่งแต่ละตัวก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป แนะนำให้เข้ามาประเมินปัญหาผิวกับหมอ เพื่อเลือกหัตถการที่เหมาะสมกับผิวของแต่ละคนมากที่สุด
อยากหน้าเด็ก เลือกทำอะไรดี ?
แม้ว่าทั้ง sculptra และ radiesse จะมีคุณสมบัติในการกระตุ้นคอลลาเจนและช่วยให้ผิวหน้าเด็กลงได้ทั้งคู่ แต่ปัญหาผิวของแต่ละคนมีความซับซ้อนต่างกันไปครับ ปัจจัยที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพก็มีหลายอย่าง ดังนั้นการแก้ปัญหาให้ตรงจุดถือเป็นสิ่งสำคัญ
การปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เคยเจอเคสมาหลากหลาย จะเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์ปัญหาผิว และแนะนำหัตถการที่เหมาะสมสำหรับแต่ละคนได้
ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องเลือกใช้หัตถการเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเสมอไปครับ ในบางเคสการใช้หลายหัตถการร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการฉีดกระตุ้นคอลลาเจน การฉีดฟิลเลอร์ โบท็อก หรือเครื่องยกกระชับต่าง ๆ แก้ไขตามปัญหาที่คนไข้มี ก็จะช่วยเสริมให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้ด้วยครับ
sculptra และ radiesse ราคาเท่าไหร่ ?
sculptra และ radiesse ราคาจะแตกต่างกันไปตามปริมาณที่ใช้ครับ ถ้ามีปัญหาผิวเยอะก็ต้องใช้ตัวยามากขึ้น รวมถึงโปรโมชันแต่ละคลินิกก็จะไม่เหมือนกัน
sculptra และ radiesse ฉีดด้วยกันได้ไหม ?
sculptra และ radiesse จริง ๆ สามารถฉีดด้วยกันได้ครับ แต่ต้องปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อประเมินและวางแผนลำดับการฉีดอย่างถูกต้อง เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยในการฉีด ถ้าฉีดคนละบริเวณกัน สามารถฉีดพร้อมกันได้เลย แต่ถ้าจะฉีดบริเวณเดียวกันควรรอให้ตัวที่ฉีดไปครั้งแรกออกฤทธิ์เต็มที่ก่อน ประมาณ 3-6 เดือน แล้วจึงค่อยฉีดอีกตัวตามครับ
สรุป sculptra vs radiesse กระตุ้นคอลลาเจน
sculptra vs radiesse ถ้าให้เปรียบเทียบต้องดูที่ปัญหาผิวและความต้องการของคนไข้แต่ละคนครับ แต่ละคนอาจจะเหมาะใช้หัตถการที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้แนะนำหัตถการที่เหมาะสมกับทั้งปัญหา และงบประมาณของคนไข้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวังและคุ้มค่ามากที่สุดครับ