เบ้าตาลึก ตาโหล มีลักษณะอย่างไร ? แก้ไขด้วยวิธีไหนได้บ้าง ?

เบ้าตาลึก ตาโหลโหล

เบ้าตาลึก ตาโหล

เบ้าตาลึก ตาโหล เป็นเรื่องที่หลายคนกังวล เพราะดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ความลึกของเบ้าตาและร่องใต้ตาที่เกิดขึ้นนั้น อาจทำให้ลักษณะของดวงตาดูไม่สดใสและแก่กว่าวัยไปมาก บทความนี้หมอจึงจะพาไปทำความเข้าใจสาเหตุ วิธีการรักษา และสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเบ้าตาลึก ตาโหล

สารบัญ เบ้าตาลึก ตาโหล


เบ้าตาลึก ตาโหล มีลักษณะอย่างไร ?

เบ้าตาลึก ตาโหล จะสังเกตเห็นได้ 3 ลักษณะ ดังนี้

1. เบ้าตาลึกมาก เป็นร่องชัดเจน

เบ้าตาลึกมาก เป็นร่องชัดเจน ตาโหลลักษณะนี้จะมองเห็นกระดูกบริเวณเบ้าตาบนใต้คิ้วเป็นร่องหรือขอบชัดเจน เกิดจากการที่กระดูกเบ้าตากร่อน และไขมันเปลือกตาบนหายไป

เบ้าตาลึกมาก เป็นร่องชัดเจน

2. ตาสามชั้น หรือชั้นตาไม่ชัดเจน

ในเคสที่มีปัญหาตาโหล ตาลึกมาก ๆ จะสามารถมองเห็นชั้นตาเป็นหลาย ๆ ชั้นได้ โดยมีความลึกเข้าไปในเบ้าตา หรือลึกลงไปในชั้นพับตา

ตาสามชั้น หรือชั้นตาไม่ชัดเจน

3. ตาโหล เบ้าตาลึกเฉพาะหัวตาหรือหางตา

ตาดูโทรม ดูเศร้า ดูเหนื่อยล้าอยู่ตลอดเวลา ใบหน้าไม่สดใส ดูแก่กว่าวัย ถ้าปล่อยไว้ไม่แก้ไขก็จะพัฒนาเป็นตาสามชั้น และเมื่อไขมันเปลือกตาบนหายไป ก็จะทำให้ตาโหลเบ้าตาลึกลงเรื่อย ๆ เมื่ออายุมากขึ้น

ตาโหล เบ้าตาลึกเฉพาะหัวตาหรือหางตา

สาเหตุของเบ้าตาลึก ตาโหล

เบ้าตาลึก ตาโหล อาจเกิดได้จากหลายปัจจัย ดังนี้

  • กรรมพันธุ์ : บางคนอาจมีลักษณะของดวงตาโหลตั้งแต่เกิด เนื่องจากพันธุกรรม ทำให้โครงสร้างของใบหน้า กะโหลกเบ้าตาลึก และเมื่อไขมันบริเวณเปลือกตาหายไปเรื่อย ๆ ก็จะทำให้เบ้าตาลึกขึ้น ตาโหลชัดเจนขึ้น
  • การเสื่อมสภาพตามวัย : เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นและเต่งตึง โดยเฉพาะบริเวณใต้ตาที่มีผิวหนังบอบบาง ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย จึงเกิดลักษณะตาโหลที่ดูเหมือนดวงตายุบลง
  • น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว : การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วอาจทำให้ไขมันใต้ผิวหนังลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เบ้าตาดูลึกขึ้น
  • โรคบางประเภท : คนไข้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ อาจมีปัญหาเบ้าตาลึก ตาโหลได้ง่ายมากกว่าปกติ เนื่องจากภูมิคุ้มกันมีความบกพร่อง มักจะส่งผลกระทบต่อบริเวณดวงตาได้โดยตรง หรือคนไข้ที่เป็นโรคภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ก็จะสังเกตเห็นเบ้าตาลึก ตาโหลชัดกว่าปกติ
  • ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต : เช่น ความเครียด การนอนหลับไม่เพียงพอ การขาดน้ำ การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ ล้วนสามารถทำให้ผิวหนังรอบดวงตาเหี่ยวและหย่อนคล้อยได้ นอกจากนี้ยังทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดี ส่งผลให้ขอบตาดำคล้ำและทำให้ดวงตาดูลึก

เบ้าตาลึก ตาโหล อันตรายไหม ?

เบ้าตาลึก ตาโหล ไม่ได้เป็นอันตรายร้ายแรงที่มีผลต่อการทำงานของร่างกายโดยตรง แต่เป็นลักษณะทางกายภาพที่อาจเกิดจากพันธุกรรมหรือการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของร่างกาย ในกรณีที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันหรือร่วมกับอาการอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุอื่น ๆ ที่อาจเป็นอันตรายได้


เบ้าตาลึก ตาโหล ส่งผลอะไรบ้าง ?

เบ้าตาลึก ตาโหลสามารถส่งผลกระทบได้หลายด้าน โดยสรุปได้ดังนี้ครับ

  • ส่งผลต่อรูปลักษณ์ใบหน้า : เบ้าตาลึก ตาโหล ผิวหนังบริเวณใต้ตาที่บางและหย่อนคล้อยอาจทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ตาได้ง่ายขึ้น ทำให้ใบหน้าดูโทรม เหนื่อยล้า แก่กว่าวัย
  • ยากต่อการแต่งหน้า : การแต่งหน้าสำหรับคนที่มีเบ้าตาลึกและตาโหลอาจทำได้ยากกว่า เนื่องจากต้องใช้เทคนิคพิเศษเพื่อปรับรูปทรงของดวงตาและใบหน้าให้ดูดีขึ้น อาจต้องใช้ผลิตภัณฑ์แต่งหน้าหลายชนิดและต้องใช้ความชำนาญในการแต่งหน้า
  • ส่งผลต่อความมั่นใจ : การไม่พอใจในรูปลักษณ์ของตัวเองอาจส่งผลต่ออารมณ์และความมั่นใจในตัวเองได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมที่ให้ความสำคัญกับความสวยงาม
Vsquare tips

หากตาเป็นแอ่งโบ๋ ร่องตาลึก เบ้าตาลึก ตาโหล หรือมีถุงใต้ตาเยอะเกินไป นอกจากจะทำให้ใบหน้าโดยรวมดูโทรม และแก่กว่าวัยแล้ว ยังบ่งบอกถึงการมีโหงวเฮ้งไม่ดีด้วยครับ จะอาภัพโชค อาภัพรัก หาคู่ครองยาก หากมีบุตรก็จะดื้อ เลี้ยงยาก

โหงวเฮ้งใต้ตา และรอบดวงตา

เบ้าตาลึก ตาโหล รักษาอย่างไร ?

เบ้าตาลึก ตาโหล สามารถรักษาได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับสาเหตุและลักษณะของปัญหา หมอแนะนำวิธีการรักษาทั่วไปที่คนไข้สามารถทำได้เอง ดังนี้

1. การรักษาด้วยวิธีธรรมชาติ

  • นอนหลับให้เพียงพอ : การนอนหลับ 7-8 ชั่วโมงต่อคืนจะช่วยให้ผิวใต้ตาฟื้นฟูได้เร็วขึ้น ช่วยลดความหมองคล้ำ และอาการตาโหล
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ : การขาดน้ำทำให้ผิวแห้งและสูญเสียความยืดหยุ่น ซึ่งอาจทำให้เบ้าตาลึกหรือมีตาโหลได้ การดื่มน้ำให้เพียงพอ 6-8 แก้วต่อวัน จะช่วยให้ผิวใต้ตาดูสดใสขึ้น
  • ใช้ครีมบำรุงใต้ตา : หมั่นใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของคอลลาเจน ไฮยาลูโรนิค แอซิด หรือ วิตามิน C เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ช่วยให้ผิวกระชับและแข็งแรง

2. การรักษาด้วยการปรับพฤติกรรม

  • การปรับอาหาร : การรับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน เช่น วิตามิน A, C, E, คอลลาเจน และ กรดไขมันโอเมก้า 3 จะช่วยฟื้นบำรุงผิวพรรณใต้ตา ลดการสูญเสียไขมันใต้ผิว
  • การหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ : การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ไม่กระชับ ส่งผลให้เบ้าตาลึกและตาโหลได้ง่ายขึ้น

3. การรักษาเบื้องต้นที่บ้าน

  • การประคบเย็น : การใช้ช้อนเย็น หรือถุงน้ำแข็ง ประคบใต้ตา สามารถช่วยลดอาการบวมและทำให้ตาดูสดใสขึ้นได้ชั่วคราว
  • การนวดเบา ๆ : การนวดเบา ๆ บริเวณใต้ตา จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้นและลดอาการบวม

วิธีเหล่านี้ เหมาะกับเบ้าตาลึก ตาโหลที่มีสาเหตุเกิดจากการเสื่อมสภาพของผิวหรือปัญหาที่ไม่รุนแรง การรักษาสามารถทำได้โดยวิธีการที่ไม่ซับซ้อน และอาศัยระยะเวลาในการเห็นผล ส่วนถ้าหากมีปัญหาเบ้าตาลึกมาก ๆ หมอแนะนำให้รักษาด้วยวิธีทางแพทย์ จะเห็นผลไวและแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดครับ


เบ้าตาลึก ตาโหล รักษาเร่งด่วนได้ไหม ?

เบ้าตาลึก ตาโหล สามารถแก้ไขอย่างเร่งด่วนด้วยวิธีทางการแพทย์ ซึ่งคาดหวังผลลัพธ์ได้ชัดเจน โดยหมอรวม 5 หัตถการที่ได้รับความนิยมมาแนะนำให้ดังนี้ครับ

1. การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา โดยหมอซี

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นวิธีแรก ๆ ที่หมอแนะนำครับ โดยแพทย์จะฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไปเติมเต็มหรือเสริมในชั้นผิวหนังและใต้ผิวหนัง ช่วยลดริ้วรอย ร่องลึก กักเก็บความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว ทำให้ผิวเต่งตึง เรียบเรียน และปรับรูปหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ

  • ข้อดี : มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เห็นผลได้ทันที สามารถสลายได้หมด ไม่มีสารตกค้าง
  • ข้อเสีย : ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-24 เดือน ต้องมีการฉีดซ้ำเพื่อคงผลลัพธ์ที่ต่อเนื่อง
ฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร ? ดีไหม ?

2. การฉีดไขมันใต้ตา

ฉีดไขมันใต้ตา

การแก้ไขเบ้าตาลึกด้วยการฉีดไขมัน แพทย์จะดูดไขมันออกมาจากบริเวณที่มีไขมันส่วนเกิน เช่น ไขมันหน้าท้อง หรือต้นขา ก่อนนำไปปั่นแยกสกัดเอาสเต็มเซลล์ออกมาใช้ ผสมกับเนื้อเยื่อไขมัน แล้วนำไปฉีดเติมเบ้าตาในส่วนที่ลึกลงไป ไขมันจะเข้าไปผสานกับไขมันเดิม ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยและร่องลึกใต้ตาได้

  • ข้อดี : ใช้ไขมันของตนเอง ทำให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัย ลดความเสี่ยงต่ออาการแพ้ได้
  • ข้อเสีย : มีขั้นตอนที่ค่อนข้างยุ่งยากและซับซ้อน คนไข้จึงต้องเจ็บตัวถึง 2 ครั้ง และมีแผลในจุดที่ดูดไขมัน หลังทำผิวอาจไม่เรียบเนียน

สำหรับคนที่มีปัญหาใต้ตา เช่น ใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ เบ้าตาลึก ตาโหล ถุงใต้ตา ใต้ตาหย่อนคล้อย ริ้วรอยใต้ตา และกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะเลือกทำอะไรดี ระหว่างฉีดไขมันใต้ตา VS ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หมออธิบายและเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียไว้ให้ในคลิปแล้วครับ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา VS ฉีดไขมันใต้ตา ต่างกันอย่างไร ?

3. การใช้เครื่องยกกระชับ

3 เครื่องยกกระชับ! Ulthera Thermage Hifu ต่างกันอย่างไร ?

การใช้เทคโนโลยีในกลุ่มเครื่องยกกระชับ เช่น Hifu ใต้ตา, Ulthera รอบดวงตา หรือ Thermage กระชับผิว สามารถช่วยแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อย ลดริ้วรอยใต้ตา และกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวเต่งตึง เรียบเนียน โดยแนะนำให้ทำร่วมกับฟิลเลอร์ใต้ตา จะได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นครับ

  • ข้อดี : ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น หลังทำสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงทันที
  • ข้อเสีย : ผลลัพธ์หลังทำจะอยู่ไม่ถาวร สามารถกลับมาทำซ้ำ ควบคู่กับการดูแลตัวเองเพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น

4. การเลเซอร์ใต้ตา

เลเซอร์ใต้ตา

การเลเซอร์ใต้ตา เป็นการใช้แสงจากเลเซอร์ยิงเข้าไปในชั้นผิวหนังบริเวณใต้ตา เพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน และอิลาสติน สามารถช่วยฟื้นฟูผิวใต้ตาโหลที่หย่อนคล้อยให้กระชับขึ้น ทำลายเม็ดสี ลดใต้ตาคล้ำ ผลลัพธ์หลังเลเซอร์จะทำให้ใต้ตากลับมาสว่างขึ้น ใต้ตาดูสดใส ไม่โทรม

  • ข้อดี : สามารถปรับสภาพผิวและลดริ้วรอยเล็ก ๆ ได้โดยไม่ต้องผ่าตัด
  • ข้อเสีย : เลเซอร์จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและทำให้ผิวกระชับขึ้น แต่ไม่ได้เติมไขมันใต้ตาที่สูญหายไป จึงไม่เหมาะกับเคสมีปัญหาตาโหล เบ้าตาลึกมาก ๆ ครับ

5. การผ่าตัดรักษาใต้ตา

ผ่าตัดรักษาใต้ตา

การผ่าตัดทำตาสองชั้นด้วยเทคนิคที่ดี โดยผ่าตัดบริเวณใต้ตาและจัดเรียงถุงไขมันที่อยู่ใต้ตาใหม่ ทำให้ผิวหนังใต้ตาดูตึงและเรียบเนียนมากขึ้น สามารถแก้ไขได้สำหรับเคสที่มีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง และเมื่อทำร่วมกับย้ายไขมันก็จะทำให้ภาวะเบ้าตาลึกดีขึ้นได้ครับ

  • ข้อดี : ช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตาในผู้ที่มีไขมันส่วนเกิน ถุงใต้ตาหย่อนคล้อยมาก
  • ข้อเสีย: การผ่าตัดต้องอาศัยเทคนิคและความชำนาญของแพทย์สูง หลังทำอาจใช้เวลาพักฟื้นนาน และเสี่ยงต่อการอักเสบติดเชื้อ

จะเห็นว่า 5 หัตถการที่หมอได้กล่าวไปในข้างต้น มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน เหมาะกับการใช้แก้ไขปัญหาที่ต่างกัน ดังนั้นก่อนทำควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อประเมินสภาพปัญหาและวางแผนการรักษาเบ้าตาลึก ตาโหลที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลครับ


เบ้าตาลึก ตาโหล รักษาแล้วสามารถหายถาวรไหม ?

หลังรักษาเบ้าตาลึก ตาโหล จะหายถาวรหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสาเหตุหลักของปัญหาครับ หากสาเหตุเกิดจากการขาดน้ำ การพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการดูแลสุขภาพที่ดีจะช่วยให้เบ้าตาดูตื้นขึ้นได้

แต่หากสาเหตุเกิดจากโครงสร้างใบหน้า เช่น กระดูกเบ้าตา หรือการสูญเสียไขมันใต้ผิวหนังอย่างมาก การรักษาก็อาจไม่สามารถหายถาวรได้อย่างสมบูรณ์ ควรทำหัตถการควบคู่กับการดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อคงสภาพของผลลัพธ์ ช่วยในการปรับปรุงแก้ไขปัญหาให้ดีขึ้นได้ครับ


รักษาเบ้าตาลึก ตาโหล ที่ไหนดี ?

ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ไขเบ้าตาลึก ที่ไหนดี คนไข้ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด และคำนึงถึงความปลอดภัย โดยสามารถพิจารณาเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ได้ตามเช็กลิสต์ดังนี้

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ?
  • เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง โดยมีเลขใบอนุญาต 11 หลัก และมีแพทย์ประจำคลินิกที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ สามารถตรวจสอบได้
  • แพทย์มีประสบการณ์ ใช้เทคนิคฉีดฟิลเลอร์ที่ถูกต้อง เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดี ดูเป็นธรรมชาติ ลดโอกาสการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน
  • ใช้ฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid (HA) แท้ ที่ได้มาตรฐาน ผ่าน อย.ไทย
  • แพทย์ที่ทำการฉีดจะต้องเลือกใช้ยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตาที่เหมาะสมในแต่ละเคส
  • มีรีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาของคนไข้ที่เข้ามาใช้บริการจริง โดยควรมีทั้งรูปก่อนและหลังทำ

ฉีดฟิลเลอร์ รักษาเบ้าตาลึก ตาโหล ที่ V Square Clinic

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ V Square Clinic โดยหมอเป้

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ V Square Clinic ใช้ฟิลเลอร์แท้แบรนด์ระดับโลก ทีมแพทย์มีประสบการณ์ และชำนาญด้านศิลปะการฉีดฟิลเลอร์ สามารถประเมิน เลือกรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับแต่ละคน แกะกล่องให้ดูต่อหน้าทุกเคส ฉีดด้วยเทคนิคพิเศษ มือเบา บวมช้ำน้อย มั่นใจได้ในผลลัพธ์และความปลอดภัยครับ

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ V Square Clinic

สรุป เบ้าตาลึก ตาโหล

เบ้าตาลึก ตาโหล คือสภาพที่เกิดขึ้นเมื่อผิวใต้ตาหย่อนคล้อยหรือสูญเสียไขมัน ทำให้ตาดูลึก มีริ้วรอยใต้ตา ขอบตาดำ หน้าดูโทรม แก่กว่าวัย สามารถแก้ไขได้หลายวิธี ทั้งนี้ควรเลือกทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ในคลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้น เพื่อความปลอดภัย ได้ผลลัพธ์ที่ดี ดูเป็นธรรมชาติครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

หมอให้คำปรึกษา
Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า