ฟิลเลอร์
ปัจจุบันมีนวัตกรรมการปรับรูปหน้าใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่การฉีดฟิลเลอร์ก็ยังเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ มาโดยตลอดครับ เพราะเป็นวิธีรักษาริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้าได้เห็นผลทันที ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น และมีการพัฒนาออกฟิลเลอร์ยี่ห้อใหม่ ๆ และรุ่นใหม่ ๆ เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกปัญหาบนใบหน้ามากยิ่งขึ้น
หมอจึงได้รวบรวมข้อมูลที่ควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ รวมถึงในปีนี้จะมีอะไรใหม่ ๆ เกี่ยวกับฟิลเลอร์ที่ควรอัปเดตบ้าง ติตตามอ่านได้ในบทความนี้ครับ
ฉีดฟิลเลอร์คืออะไร ? ฉีดจุดไหนได้บ้าง ?
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรกควรรู้อะไร ?
สารบัญ ฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ คืออะไร ?
ฟิลเลอร์ คือ การปรับรูปหน้าด้วยการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) ที่มีคุณสมบัติช่วยกักเก็บน้ำและความชุ่มชื้น เข้าไปในชั้นผิวหนังที่ยุบตัวลงตามวัย หรือใช้ปรับโครงสร้างของใบหน้าจุดต่าง ๆ เช่น คาง ขมับ กรอบหน้า ให้สมส่วนมากขึ้น
ฟิลเลอร์ ปลอดภัยหรือไม่ ?
ก่อนอื่นหมอขออธิบายก่อนว่าที่จริงแล้ว สารเติมเต็ม Filler ทางการแพทย์มี 4 ชนิด ได้แก่
- Hyualuronic Acid (HA) เป็นสารสังเคราะห์ มีความปลอดภัย สลายหมด ไม่ทิ้งสารตกค้าง
- Collagen เป็นคอลลาเจนจากสัตว์ ไม่นิยมใช้เพราะเสี่ยงทำให้เกิดอาการแพ้ได้ง่าย
- Transplanted Fat เป็นการใช้ไขมันที่มาจากร่างกายของเราเอง เหมาะกับผู้ที่ต้องการฉีดเติมเต็มในปริมาณมาก ครั้งละ 10-20 CC ขึ้นไป
- Biosynthetic Polymers เช่น ซิลิโคนเหลว พาราฟิน กลุ่มนี้จะเป็นฟิลเลอร์แบบถาวร ไม่สามารถสลายเองได้ ทำให้เกิดการตกค้างในชั้นผิว และส่งผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายในระยะยาว เช่น ฉีดแล้วแข็งเป็นก้อนไม่สลาย ฟิลเลอร์ไหล ต้องทำการผ่าตัดออกหรือขูดออกเท่านั้นครับ
ลักษณะเนื้อฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid (HA)
เมื่อพูดถึงการฉีดฟิลเลอร์ในไทย จะหมายถึงฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid (HA) ครับ จัดเป็นฟิลเลอร์แบบชั่วคราว สลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ตกค้างในร่างกาย ผ่านการรับรองจาก อย.ไทย และ อย. อเมริกา สามารถนำมาฉีดเข้าสู่ผิวได้โดยไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย มีความปลอดภัยสูง
“ ข้อควรรู้ : สาร HA ที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ มีหน้าที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้เซลล์ผิว จะพบได้ตามเนื้อเยื่อ ข้อต่อ ลูกตา ซึ่งจะค่อย ๆ หายไปเมื่ออายุมากขึ้น ในทางการแพทย์จึงมีการพัฒนาคิดค้นสังเคราะห์ HA ขึ้นมา เพื่อใช้ทดแทน HA ในร่างกายที่ในแต่ละปีจะเริ่มผลิตน้อยลงและช้าลง ”
กระบวนการทำงานของฟิลเลอร์
เมื่อฉีดฟิลเลอร์เข้าสู่ผิว ฟิลเลอร์จะเข้าไปเติมเต็มหรือเสริมในส่วนของผิวที่เริ่มเสื่อมสภาพและยุบตัวลง และปรับโครงสร้างของใบหน้าให้ได้สัดส่วน ทั้งยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวบริเวณที่ฉีด ให้ดูเต่งตึง เรียบเนียน และชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคต
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ร่องแก้ม ทดแทนกระดูกที่ทรุดตัวลงตามวัย
คุณสมบัติของฟิลเลอร์ที่ควรรู้ก่อนฉีด มีอะไรบ้าง ?
ฟิลเลอร์ยี่ห้อเดียว รุ่นเดียวไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกจุดครับ เนื่องจากโครงสร้างใบหน้าของคนเราที่มีความสลับซับซ้อน ทำให้ฟิลเลอร์จึงต้องมีคุณสมบัติที่หลากหลายเพื่อให้ครอบคลุมทุกปัญหา
หากได้ศึกษาข้อมูลของฟิลเลอร์แต่ละรุ่นมาบ้างแล้ว คนไข้อาจเคยเห็นคำอธิบายของฟิลเลอร์รุ่นต่าง ๆ เช่น ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง หรือกระจายตัวได้ดี
คำเหล่านี้ล้วนเป็นคำทางเทคนิคที่ใช้อธิบายถึงคุณสมบัติเนื้อฟิลเลอร์ของรุ่นนั้น ๆ ครับ โดยหมอจะยกตัวอย่างคำที่คนไข้อาจจะได้ยินหรือได้เห็นบ่อย ๆ เพื่อให้เข้าใจถึงคุณสมบัติของฟิลเลอร์แต่ละรุ่นมากยิ่งขึ้น
- ความแข็ง (Elasticity) คือ ความทนทานต่อแรงกดแนวตั้ง ฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติด้านนี้สูงจะเหมาะกับการฉีดปรับโครงสร้างใบหน้า หรือยกหน้า หรือฉีดในผิวชั้นลึก บริเวณขมับ คาง เป็นต้น
- ความยืดหยุ่น (Plasticity, Cohesiveness) คือ ความคงทนต่อแรงบิดในแนวนอน ฟิลเลอร์ที่ความยืดหยุ่นสูงจะเหมาะกับการฉีดบริเวณที่มีการขยับบ่อย ๆ เช่น ร่องแก้ม ปาก แก้มตอบ
- การกระจายตัว (Tissue Integration) คือ ความสามารถในการสมานกลืนเข้าผิวที่อยู่รอบ ๆ ดังนั้นฟิลเลอร์ที่มีการกระจายตัวได้ดี จะเรียนเนียนกลืนเข้ากับผิวได้ดี ไม่เห็นเป็นก้อน และจะเหมาะกับคนที่มีผิวบาง หรือผิวแห้งครับ
- ค่าความอุ้มน้ำ (Water Holding) ฟิลเลอร์ที่มีค่าความอุ้มน้ำสูง ฉีดไปแล้วจะฟูมาก เหมาะกับการฉีด ร่องแก้ม ขมับ จะทำให้ดูเต็มสวย และจะไม่เหมาะกับการฉีดใต้ตาเพราะจะทำให้ใต้ตาดูบวมครับ
- จำนวนการเชื่อมพันธะ (Crosslink) ในการผลิตฟิลเลอร์จะมีการสร้างจำนวนการเชื่อมพันธะ เพื่อให้ฟิลเลอร์สลายตัวได้ช้าลง และอุ้มน้ำน้อยลง เหมาะกับบริเวณที่ผิวมีการขยับบ่อย ๆ
- ขนาดของเม็ดฟิลเลอร์ (Particle Size) ฟิลเลอร์ถ้ามีขนาดเม็ดใหญ่จะมีค่าความแข็งสูง ค่าการกระจายตัวต่ำ และจะอยู่ได้นาน เหมาะฉีดยกหน้าในผิวชั้นลึก
ฟิลเลอร์เหมาะกับใคร ?
- ผู้ที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ มีร่องน้ำตา ตาลึก ตาโหล ถุงใต้ตา
- ผู้ที่มีริ้วรอยร่องแก้มลึก เห็นเป็นเส้นข้างแก้ม
- ผู้ที่มีปัญหาขมับยุบ ขมับตอบ ต้องการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน
- ผู้ที่ต้องการเติมเต็มใบหน้าให้ดูอิ่มเอิบ หน้าดูเด็กลง
- ผู้ที่มีปัญหาปากบาง ปากแห้ง หรือต้องการปรับทรงปากให้รับกับใบหน้าโดยรวม
- ผู้ที่มีคางสั้น คางตัด คางถอย ต้องการเสริมคางให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า แต่ไม่ต้องการศัลยกรรม ไม่มีเวลาพักฟื้น
- ผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงหลังทำทันที
ใครที่ไม่เหมาะฉีดฟิลเลอร์ ?
- ผู้ที่มีประวัติการแพ้ฟิลเลอร์
- ผู้ที่มีประวัติการแพ้ยาชา เพราะฟิลเลอร์บางรุ่นมียาชาผสมในตัวครับ
- สตรีมีครรภ์ หรืออยู่ในระหว่างการให้นมบุตร
- ผู้ที่มีปัญหาเลือดออกแล้วหยุดยาก มีแผลฟกช้ำง่าย
- คนที่มีการอักเสบของผิวหนังหรือการติดเชื้อใกล้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
ประโยชน์ของฟิลเลอร์ มีอะไรบ้าง ? เพราะอะไรถึงเป็นที่นิยม ?
- ช่วยเติมเต็มริ้วรอยร่องบนใบหน้า ปรับโครงสร้างใบหน้า
- ช่วยลดริ้วรอย ร่องลึกบนใบหน้า ชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคต
- ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว
- ช่วยทำให้ผิวเต่งตึง เรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์
- ปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ เห็นผลได้ทันที ไม่ต้องพักฟื้น
ฉีดฟิลเลอร์ตำแหน่งไหนได้บ้าง ? รวม 7 จุดที่ฉีดฟิลเลอร์ยอดนิยม
ด้วยคุณสมบัติของเนื้อฟิลเลอร์ที่มีหลากหลาย สามารถใช้แก้ไขในจุดที่ต้องการความละเอียดสูงได้ดี จึงสามารถฉีดได้หลายตำแหน่งบนใบหน้า ต่างจาก Radiesse filler ที่จะนิยมใช้ฉีดแก้ไขรอยพับและร่องลึก เช่น บริเวณหน้าแก้ม ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก และหลังมือ หรือโบท็อกที่จะนิยมใช้ฉีดลดริ้วรอยระหว่างคิ้ว หรือลดกราม
โดย 7 จุดที่ฉีดฟิลเลอร์ยอดนิยม ฉีดแล้วเห็นการเปลี่ยนแปลงได้มากที่สุด มีดังนี้ครับ
1. ฟิลเลอร์ใต้ตา
ฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร ? ดีไหม ? ปัญหาใต้ตาเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง ?
ใต้ตาเป็นจุดฉีดฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมมากครับ และเป็นจุดแรกที่หมอจะแนะนำให้เติม เพราะหลังฉีดจะเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน โดยสามารถแก้ไขปัญหาใต้ตาได้จากหลายสาเหตุ เช่น ใต้ตาคล้ำ ใต้ตาลึก ใต้ตาโหล ถุงใต้ตา
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เติมเต็มถุงใต้ตา ลดปัญหาใต้ตาคล้ำ ด้วยวิธีที่ปลอดภัย
2. ฟิลเลอร์ขมับ
ฉีดฟิลเลอร์ขมับอันตรายไหม ?
ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? หลังฉีดดูแลตัวเองอย่างไร ?
ขมับเป็นจุดฉีดฟิลเลอร์ที่หลายคนมอง การที่มีขมับตอบ ขมับลึกจะทำให้ใบหน้าดูโทรม ไม่สดใส ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ขมับตอบจะช่วยปรับใบหน้าโดยรวมให้ดูหวานขึ้น มีความละมุน ดูเป็นธรรมชาติ ลดโหนกแก้มเด่น
นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์ขมับ ยังช่วยเติมเต็มริ้วรอยหางตาให้ตื้นขึ้น เพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวบริเวณช่วงขมับกลับมาเต่งตึงครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ก่อนฉีดฟิลเลอร์ขมับ ครั้งแรกควรรู้เรื่องอะไรบ้าง ? เหมาะกับใครบ้าง ? ต้องใช้กี่ CC ?
3. ฟิลเลอร์หน้าผาก
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากดีไหม ?
ฉีดหน้าผากใช้กี่ CC ? ก่อนฉีดมีข้อควรระวังอย่างไร ?
ฟิลเลอร์หน้าผาก จุดฉีดฟิลเลอร์ปรับโหงวเฮ้งยอดนิยม ช่วยแก้ปัญหาหน้าผากยุบ หน้าผากบุ๋ม หน้าผากแบน ให้หน้าผากโหนกนูนได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากควรฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง
4. ฟิลเลอร์แก้มส้ม
ฟิลเลอร์แก้มส้ม คือ การฉีดฟิลเลอร์เข้าไปยังบริเวณกลางหน้าหรือพวงแก้ม เหมาะกับคนที่มีผู้ที่มีปัญหาแก้มตอบ หน้าตอบ หน้าดูแบน ไม่มีมิติ หลังฉีดหน้าแก้มจะเต็มขึ้น หน้าดูอิ่มเต็ม ดูอ่อนเยาว์ ใบหน้าโดยรวมดูเด็กลง
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม คืออะไร ? มีแก้มส้มแล้วทำไมจึงช่วยให้หน้าดูอ่อนวัยขึ้น ?
5. ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม คืออะไร ? แก้ปัญหาใดบ้าง ? เหมาะกับใคร ?
ปัญหาร่องแก้มลึกทำให้ใบหน้าดูมีอายุอย่างเห็นได้ชัด การฉีดฟิลเลอร์จะช่วยให้ร่องแก้มที่ลึกดูตื้นขึ้น ใบหน้าดูยกกระชับทันทีหลังทำ และดูเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มครั้งแรกควรรู้อะไรบ้าง ? ใช้กี่ CC ? ราคาเท่าไร ? มีข้อควรระวังอย่างไร ?
6. ฟิลเลอร์ปาก
8 คำถามยอดฮิต ฉีดฟิลเลอร์ปากครั้งแรก ต้องรู้อะไรบ้าง ?
ฟิลเลอร์ปาก ปรับรูปปากให้เป็นทรงได้สัดส่วนรับกับใบหน้า แก้ปัญหาปากบาง ปากไม่เท่ากัน ปากแห้ง เติมความชุ่มชื้น ให้ปากดูอวบอิ่มเป็นธรรมชาติ หรือปรับทรงปากได้ตามเทรนด์ ปากกระจับ ปากแบบสายฝอครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ปากครั้งแรกควรรู้อะไรบ้าง ? ถ้ายังไม่ได้อ่าน ห้ามฉีดฟิลเลอร์เด็ดขาด หากยังไม่รู้เรื่องนี้
7. ฟิลเลอร์คาง
ฟิลเลอร์คาง ช่วยอะไรบ้าง ? อันตรายไหม ? ก่อน – หลังฉีดควรรู้อะไรบ้าง ?
ฉีดฟิลเลอร์คาง ช่วยแก้ปัญหาคางสั้น คางตัด คางถอย ที่ทำให้ใบหน้าไม่ได้สัดส่วน เหมาะกับผู้ที่มีฐานคางเดิมอยู่แล้ว ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น แต่ไม่อยากผ่าตัด และไม่มีเวลาพักฟื้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับหน้าเรียวแต่ไม่อยากผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์คาง เสริมคางครั้งแรกควรรู้เรื่องอะไรบ้าง ? ต่างจากการเสริมซิลิโคนอย่างไร ?
นอกจาก 7 ตำแหน่งนี้แล้ว ฟิลเลอร์ยังสามารถนำมาฉีดเพื่อปรับสภาพผิวด้วย HA Skin booster หรือฟิลเลอร์งานผิว จะช่วยปรับสภาพผิวให้มีความชุ่มชื้น สุขภาพดี ดูฉ่ำวาว และเติมเต็มหลุมสิวให้ดูตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียนขึ้นครับ
ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? แต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร ?
ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? แต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร ? ปัจจุบันไทยได้นำเข้าฟิลเลอร์หลากหลายยี่ห้อจากหลายประเทศ หมอจะแนะนำเป็นยี่ห้อฟิลเลอร์ยอดนิยมที่ผ่าน อย.ไทย และ V Square Clinic นำมาใช้ในการปรับรูปหน้าให้กับคนไข้ครับ
ฟิลเลอร์ Restylane
ฟิลเลอร์ Restylane ผลิตโดยบริษัท Galderma บริษัทยาเจ้าใหญ่จากประเทศสวีเดน โดยเป็นฟิลเลอร์ยี่ห้อแรกของโลกที่ได้รับรองจาก US FDA ครับ Restylane ใช้ 2 เทคโนโลยีการผลิตที่โดดเด่นของแบรนด์คือ NASHA techology เด่นในการยกพยุงผิว และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
และ OBT technology เน้นในเรื่องของความยืดหยุ่น สามารถปรับรูปทรงได้หลากหลาย เติมเต็มในแต่ละจุดที่ต้องการอย่างเป็นธรรมชาติ
ฟิลเลอร์ Restylane ดีไหม ? มีกี่รุ่น ? แต่ละรุ่นแตกต่างกันอย่างไร ?
ฟิลเลอร์ Juvederm
ฟิลเลอร์ Juvederm จากอเมริกา เป็นอีกยี่ห้อที่มีใช้ในไทยมายาวนานและได้รับความนิยมมากครับ มี 2 เทคโนโลยีการผลิตที่เป็นจุดเด่นของแบรนด์ คือ Hylacross เด่นในเรื่องของค่าความอุ้มน้ำ และอีกเทคโนโลยีคือ Vycross เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาทีหลัง เด่นในเรื่องของการยกกระชับ
ฟิลเลอร์ Juvederm แต่ละรุ่นเหมาะฉีดจุดไหน ? แตกต่างกันอย่างไร ?
ฟิลเลอร์ Definisse
ฟิลเลอร์ Definisse จากอิตาลี ใช้นวัตกรรมการผลิต XTR™ Technology ทำให้ได้โมเลกุลสานกันเป็นร่างแห ช่วยในการยกพยุง ใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณที่พอเหมาะ (Optimal Volumization & Less is MORE) แต่เห็นผลลัพธ์ได้ทันทีและชัดเจน และดูเป็นธรรมชาติ หลังทำบวมช้ำน้อย
ฟิลเลอร์ Belotero
ฟิลเลอร์ Belotero จากสวิตเซอร์แลนด์ เป็นแบรนด์ที่กล่องมีสีสันสดใสเป็นเอกลักษณ์จนทำให้มีอีกชื่อเรียกว่า Colorfull filler โดย Belotero มีการใช้เทคโนโลยี CPM (Cohesive Polydensified Matrix) ในกระบวนการผลิต ทำให้เนื้อเจลมีความยืดหยุ่นสูง เกาะกันเป็นเนื้อเดียว ไม่ไหลไม่เป็นก้อนคงตัว ปั้นทรงสวย
ทั้งยังมีรุ่นที่สามารถช่วยปรับสภาพผิวตัวดังอย่าง Belotero Revive เป็นฟิลเลอร์ปรับสภาพผิวตัวแรกของโลก ซึ่งจะช่วยเพิ่มคุณภาพผิว (Skin Quality) โดยเฉพาะ
ฟิลเลอร์ Belotero ดีไหม ? มีกี่รุ่น ? แต่ละรุ่นเหมาะฉีดจุดไหนบ้าง ?
ฟิลเลอร์ Belotero Revive คืออะไร ? ดีไหม ? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
ฟิลเลอร์ Teoxane
ฟิลเลอร์ Teoxane จากสวิตเซอร์แลนด์ เป็นฟิลเลอร์ที่เพิ่งเปิดตัวในไทยเมื่อไม่นานมานี้ มีความโดดเด่นในเรื่องความยืดหยุ่นสูง ด้วยเทคโนโลยีพิเศษ RHA (Resilient Hyaluronic Acid) ทำให้ได้เนื้อฟิลเลอร์ที่สามารถเคลื่อนไหวตามการขยับของใบหน้า ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติครับ
ฟิลเลอร์ Flore
ฟิลเลอร์ Flore จากประเทศเกาหลี มีการใช้ 2 เทคโนโลยีในการผลิต คือ HCCL (Highly Completed Cross-Linking) และ PP process (Particle Plastic Process) ที่ทำให้เนื้อฟิลเลอร์คงรูปได้ดี ปั้นทรงง่าย เข้ากันดีกับผิวหนัง ฉีดแล้วเนียนสวย และอยู่ได้นานขึ้น
ฟิลเลอร์ Neuramis
ฟิลเลอร์จากเกาหลีที่ได้รับความนิยมในไทยเป็นอย่างมาก ผลิตด้วยนวัตกรรม The SHAPE ทำให้ได้เนื้อฟิลเลอร์ปั้นง่าย คงรูปได้ดี โดยจุดเด่นของฟิลเลอร์แบรนด์นี้คือมีราคาย่อมเยาครับ เริ่มต้นเพียง 5,xxx-7,xxx บาท/CC
ฟิลเลอร์ทุกยี่ห้อล้วนเป็นสาร HA เหมือนกันครับ แต่ใช้เทคโนโลยีที่ผลิตต่างกัน จึงมีความแตกต่างทั้งในเรื่องคุณสมบัติ ตำแหน่งที่ฉีด และระยะเวลาการคงอยู่ของฟิลเลอร์ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เจาะลึก ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? ฟิลเลอร์แท้-ปลอม สังเกตอย่างไร ?
“
ข้อควรรู้ :
ปัจจุบันมีฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย.ไทย แล้วทั้งหมด 15 ยี่ห้อ (มีนา 67) ได้แก่ Juvederm, Restylane, Belotero, Definisse, Flore, Perfectha, Neuramis, Yvoire, e.p.t.q, Neobelle, Hyabell, Biohyalux, Art Filler, Neuvia และ Saypha
แต่ไม่ใช่ว่าฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนผ่าน อย. แล้วจะผ่านตลอดไป หรือยี่ห้อนึงจะผ่านหมดทุกรุ่น โดยจะมีการตรวจสอบมาตรฐานทุก ๆ ปี แนะนำให้คอยอัปเดตอยู่เสมอครับ
”
ฉีดฟิลเลอร์ราคาเท่าไหร่ ?
การฉีดฟิลเลอร์ ราคาขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีด รุ่น/ยี่ห้อฟิลเลอร์ รวมถึงเทคนิคพิเศษที่ใช้ ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์ของแพทย์ครับ
สำหรับที่ V square Clinic ฉีดฟิลเลอร์แท้ ราคาแต่ละตำแหน่งเริ่มต้น ดังนี้
- ราคาฟิลเลอร์ใต้ตา เริ่มต้น 9,900.-/CC
- ราคาฟิลเลอร์ร่องแก้ม เริ่มต้น 9,900.-/CC
- ราคาฟิลเลอร์คาง เริ่มต้น 7,900.-/CC
- ราคาฟิลเลอร์ปาก เริ่มต้น 14,000.-/CC
- ราคาฟิลเลอร์หน้าผาก เริ่มต้น 14,000.-/CC
- ราคาฟิลเลอร์ขมับ เริ่มต้น 7,900.-/CC
- ราคาฟิลเลอร์จมูก เริ่มต้น 14,000.-/CC
ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์ที่ V Square Clinic ?
- ฉีดฟิลเลอร์ที่ V Square Clinic ดูแลและให้การรักษาโดยทีมแพทย์ประสบการณ์กว่า 15 ปี
- ปรึกษาปัญหากับหมอโดยตรง ไม่ผ่านเซลส์ โดยหมอประเมินปัญหาเป็นรายบุคคล เพราะแต่ละคนจะมีระดับปัญหา และความต้องการที่ต่างกันไปครับ หมอจะแนะนำหัตถการที่เหมาะสมกับคนไข้
- หมอออกแบบใบหน้า พร้อมนำใช้ศิลปะการฉีดฟิลเลอร์ (Fine Art of Filler) มาใช้ แก้ปัญหาตรงจุด ผลลัพธ์สวยงามดูเป็นธรรมชาติ
- ใช้ฟิลเลอร์แท้ แบรนด์ระดับโลก ที่ V Sqauare Clinic ใช้ฟิลเลอร์แท้แบรนด์ระดับโลก มีให้เลือกหลายรุ่นหลายยี่ห้อ ก่อนฉีดหมอแกะกล่องให้ดูต่อหน้า ตรวจสอบได้ทุกกล่อง และสามารถนำกล่องฟิลเลอร์กลับบ้านได้
- ฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิคพิเศษของ V Square Clinic มุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญ หมอมือเบา บวมช้ำน้อย
รีวิวฉีดฟิลเลอร์จากคนไข้ของ V Sqaure Clinic
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ประมาณ 1 อาทิตย์ แนะนำให้ปฏิบัติดังนี้ครับ
1 อาทิตย์ก่อนฉีดฟิลเลอร์
- งดยากลุ่มที่ทำให้เลือดแข็งตัวช้า เช่น แอสไพริน, NSAIDs, วิตามิน St.John’s Wort, ginkgo biloba, primrose oil, garlic, ginseng และวิตามิน E
3 วันก่อนฉีดฟิลเลอร์
- งดการแว็กซ์ผิว ผลัดเซลล์ผิว โกนขนบริเวณที่ฉีด
- งดการใช้ยาผลัดเซลล์ผิว เช่น Retinols, Retunoids, Glycolic Acid หรือครีมในกลุ่ม Anti-Aging
- งดเข้าคอร์สเลเซอร์ และนวดหน้า
24 ชั่วโมงก่อนทำ
- งดดื่มแอลกอฮอล์
- งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น ซาวน่า คาร์ดิโอ
นอกจากนี้แนะนำให้ศึกษาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ เช่น คุณสมบัติของฟิลเลอร์แต่ละรุ่น วิธีการเช็กคลินิกที่ได้มาตรฐาน และการวิธีเช็กฟิลเลอร์แท้ครับ
ฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรก มีขั้นตอนอย่างไร ?
- ปรึกษาแพทย์ : ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ ควรนัดเข้ามาปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินใบหน้าและปัญหา แนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสม
- เลือกชนิดของฟิลเลอร์และรุ่นที่เหมาะสม : เมื่อประเมินใบหน้า แพทย์จะเลือกยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับบริเวณที่ฉีด
- ทำความสะอาดใบหน้าจุดที่ฉีด : เพื่อความสะอาด และปลอดภัย ป้องกันการอักเสบติดเชื้อจากสิ่งสกปรกตกค้าง
- แกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า : เพื่อให้คนไข้ตรวจสอบว่าฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นของแท้ มั่นใจได้ในความปลอดภัย
- ฉีดฟิลเลอร์ : แพทย์เริ่มทำการฉีดฟิลเลอร์บริเวณที่ต้องการรักษาและแก้ไขปัญหา
- ประคบน้ำแข็ง : ระหว่างการฉีดจะมีการประคบน้ำแข็ง ช่วยลดความเจ็บจากเข็ม
- แนะนำวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีด : เพื่อให้อาการบวมยุบเร็ว ฟิลเลอร์เข้าที่ไว
- ติดตามผลหลังทำ : เมื่อฟิลเลอร์เข้าที่แล้ว จะมีการนัดติดตามผลหลังทำเพื่อดูผลการเปลี่ยนแปลง หากคนไข้ต้องการเติมฟิลเลอร์เพิ่ม แพทย์จะประเมินตามความเหมาะสม และค่อย ๆ ทยอยฉีดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ
การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดี อยู่ได้ยาวนาน
หลังฉีดฟิลเลอร์ จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันที แต่อาจจะมีอาการบวมจากตัวยา หรือรอยเขียวช้ำจากเข็มครับ ซึ่งอาการบวมจะหายไปได้เองใน 7-14 วันครับ ระหว่างนี้หมอแนะนำให้ปฏิบัติตามวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้อาการบวมยุบเร็ว เข้าที่ได้ไว และผลลัพธ์อยู่ได้นาน
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์
- นอนหมอนหนุนศีรษะ ยกหัวให้สูงกว่าระดับหน้าอก เพื่อช่วยลดอาการบวม
- แนะนำให้อยู่ในที่มีอากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เช่น ออกกำลังกายอย่างหนัก การซาวน่า
- ควรดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ เพราะการดื่มน้ำจะช่วยให้ฟิลเลอร์ที่เป็นสารอุ้มน้ำฟูสวยได้รูป และอยู่ได้นานครับ
ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์
- งดการแกะ บีบ นวดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
- ในช่วง 3 วันแรกหลังฉีด ไม่ควรขยับใบหน้าแรง ๆ เพราะฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ดี
- หลังฉีดฟิลเลอร์ 1 เดือน งดการทำทรีตเม้นต์ เลเซอร์ร้อนลงผิวทุกชนิด เช่น RF Thermage
- งดการสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์
- เลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีรสจัด อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ อาหารหมัดดอง 14 วันหลังฉีดฟิลเลอร์
ทั้งนี้แต่ละตำแหน่งก็มีข้อควรระวังที่แตกต่างกันไปอีกครับ เช่น การฉีดฟิลเลอร์ปากให้งดการใช้หลอดดูดน้ำ งดทาลิปสติกในช่วง 12 ชม.แรก การฉีดฟิลเลอร์คาง ควรระวังการนอนตะแคงหรือการนั่งเท้าคาง เพื่อไม่ให้ฟิลเลอร์เสียรูปทรง
4 ข้อควรระวังในการฉีดฟิลเลอร์ที่ควรรู้
- เลือกฉีดฟิลเลอร์โดยแพทย์มีประสบการณ์ภายใต้คลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้น
ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ภายใต้คลินิกที่ได้มาตรฐาน เพราะถ้าหากแก้ไขปัญหาไม่ถูกจุด ใช้ฟิลเลอร์ปริมาณที่น้อยเกินไป เลือกเนื้อฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมกับปัญหาที่ต้องการแก้ไข อาจทำให้หลังฉีดฟิลเลอร์แล้วไม่เห็นผลหรือทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
สำหรับวิธีเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ? เลือกอย่างไรให้ปลอดภัย ?
- ฟิลเลอร์ไม่ได้เหมาะกับทุกตำแหน่ง
การฉีดฟิลเลอร์อาจไม่ได้เหมาะกับทุกตำแหน่ง เช่น สะโพก หน้าอก เพราะต้องใช้ปริมาณที่เยอะมากกว่า 400 CC ถึงจะเห็นผลที่ชัดเจน ทำให้ราคาฉีดฟิลเลอร์สูงมากได้ถึงหลักล้านเลย อาจไม่คุ้มค่ากับผลลัพธ์ที่ได้ ถ้าอยากเสริมหน้าอกหรือเสริมสะโพก หมอแนะนำให้ผ่าตัดศัลยกรรมครับ
- ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณที่มากเกินไป
ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้เกิดหน้าดูแน่นจนเกินไป เกิดฟิลเลอร์เป็นก้อน ดูไม่เป็นธรรมชาติ หรือที่เรียกว่า Facial Overfilled Syndrome แนะนำให้ทยอยเติมเรื่อย ๆ ตามคำแนะนำของแพทย์จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจครับ
- ฟิลเลอร์ของแท้ไม่สามารถอยู่ได้ถาวร
ฟิลเลอร์ของแท้ ไม่สามารถอยู่ได้ถาวรครับ ระยะเวลาขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีด รุ่น/ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้ และการดูแลตัวเองหลังทำ โดยหมอได้เขียนระยะเวลาการคงอยู่ของผลลัพธ์ในแต่ละตำแหน่งไว้แล้วที่บทความ หลังฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ? แต่ละตำแหน่งต่างกันหรือไม่ ?
หากฉีดฟิลเลอร์แล้วฟิลเลอร์ไม่สลาย มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นฟิลเลอร์ปลอมหรือซิลิโคนเหลว อาจส่งผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายในระยะยาว เช่น ฟิลเลอร์อักเสบ ฟิลเลอร์เป็นก้อนไม่สลาย และอาจรุนแรงถึงขั้นฟิลเลอร์เน่า ทำให้เนื้อตาย หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
สรุป
ฟิลเลอร์ที่นิยมนำมาใช้ในการปรับรูปหน้าในไทย คือ สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid หรือ HA ที่สร้างขึ้นมาเลียนแบบสารที่อยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ สลายได้เอง มีความปลอดภัยครับ สามารถช่วยแก้ปัญหาบนใบหน้าได้หลากหลายตำแหน่ง เห็นผลทันที ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น
ทั้งนี้ฟิลเลอร์มีหลายรุ่น หลายยี่ห้อให้เลือกใช้ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์เพื่อเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมตามระดับปัญหา และความต้องการของคนไข้ และที่สำคัญฟิลเลอร์ที่ใช้ควรเป็นฟิลเลอร์ของแท้ ได้รับรองจาก อย. และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ภายใต้คลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้น เพื่อผลลัพธ์ที่ดีมาพร้อมกับความปลอดภัยครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ
