Thermage FLX กับ CPT
เจาะลึก 6 ข้อแตกต่างระหว่าง Thermage FLX กับ CPT เลือกรุ่นไหนดี ?
Thermage FLX กับ CPT เป็นหนึ่งในวิธียกกระชับใบหน้า แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยโดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วยการใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ (RF) เพิ่มอุณหภูมิของชั้นผิวในระดับลึก กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวหย่อนคล้อยกระชับขึ้น
โดย Thermage FLX เป็นรุ่นที่พัฒนามาจาก Thermage CPT ครับ หมอจะเปรียบเทียบทั้งสองรุ่นในแต่ละด้านว่าแตกต่างกันอย่างไร ? เลือกทำแบบไหนคุ้มค่าคุ้มราคา ? เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกรุ่นที่เหมาะสมกับความต้องการคนไข้ครับ
สารบัญ Thermage FLX กับ CPT
Thermage FLX กับ CPT ต่างกันอย่างไร ? มีสิ่งไหนที่ทำให้ทั้งสองไม่เหมือนกัน ?
Thermage เป็นนวัตกรรมการยกกระชับผิวที่พัฒนามาออกมาหลายรุ่น ตั้งแต่ปี 2003 จนถึงปัจจุบัน ได้แก่
- Thermage TC (2003)
- Thermage NXT (2007)
- Thermage CPT (2009)
- Thermage FLX (2018)
โดยรุ่นที่ได้รับความนิยมในไทยมีด้วยกัน 2 รุ่น คือ Thermage FLX กับ CPT ครับ จึงทำให้เกิดการเปรียบเทียบระหว่างสองรุ่นนี้บ่อย ๆ ว่าแตกต่างกันอย่างไร ? รุ่นไหนดีกว่ากัน ?
โดยหมอจะแบ่งเป็น 6 ด้านหลัก ๆ ดังนี้ครับ
1. ด้านเทคโนโลยีที่เป็นจุดเด่นของแต่ละรุ่น
- Thermage CPT
Thermage CPT เปิดตัวในปี ค.ศ. 2009 เป็นรุ่นที่พัฒนามาจาก Thermage รุ่นแรก ๆ โดยมีการเพิ่มเทคโนโลยีซึ่งเป็นที่มาของชื่อรุ่นเรียกว่า Comfort Pulse Technology (CPT) เป็นระบบสั่นที่ช่วยลดทอนความเจ็บให้น้อยลงกว่ารุ่นก่อน ๆ ครับ
- Thermage FLX
Thermage FLX เป็นรุุ่นที่พัฒนาต่อยอดมาจาก CPT ออกมาในปี 2018 และเป็นรุ่นล่าสุดของ Thermage ในตอนนี้ครับ มีการเพิ่มเทคโนโลยี AuucuREP ยกกระชับได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดโอกาสการเกิดผิวเบิร์น และช่วยให้คนไข้รู้สึกเจ็บน้อยลง โดยมีที่มาของชื่อรุ่น FLX ดังนี้
F : Faster – ใช้เวลาในการทำเร็วขึ้นกว่าเดิม
L : aLgorithm – ระบบการทำงานมีความแม่นยำขึ้น
X : eXperience – เพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการทำด้วยระบบปล่อยความเย็น ช่วยให้ระหว่างทำคนไข้รู้สึกสบายผิวมากยิ่งขึ้น เจ็บน้อยลง
2. ด้านคุณสมบัติการทำงานของแต่ละรุ่น
เมื่อเปรียบเทียบในด้านคุณสมบัติการทำงาน ทั้ง Thermage FLX กับ CPT มีหน้าจอแสดงผลว่าใช้ไปแล้วกี่ shot เหมือนกันครับ แต่ Thermage FLX จะพัฒนาหน้าจอให้เป็นแบบสัมผัส สะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น
หน้าจอแบบสัมผัสของ Thermage FLX
ในด้านการประเมินผล Thermage FLX ได้ใช้เทคโนโลยี AccuREP เป็นเซนเซอร์วัดความร้อนบนผิวและคำนวณอุณหภูมิใต้ผิว ทำให้แพทย์สามารถควบคุมการปล่อยพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแม่นยำแบบ Real-time ลดความเสี่ยงการเกิดผิวเบิร์นครับ
ส่วน Thermage CPT ต้องใช้ประสบการณ์และความชำนาญของแพทย์ในการประเมินการใช้พลังงานในแต่ละจุดเท่านั้น เนื่องจากยังไม่มีระบบคำนวณพลังงานความร้อนใต้ผิวเหมือนรุ่น FLX
สรุปแล้ว Thermage FLX เป็นรุ่นที่พัฒนาให้แพทย์สะดวกต่อการรักษามากยิ่งขึ้นครับ เพิ่มความแม่นยำในการยิงพลังงาน ผลลัพธ์ที่ได้มีประสิทธิภาพ และปลอดภัยขึ้น
3. ด้านระยะเวลาการรักษา
Thermage ส่งพลังงานคลื่นวิทยุด้วยหัวยิงหรือเรียกว่าหัวทิป Thermage CPT มีหัวทิปสำหรับหน้าและตัวแยกกัน และมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 4 ชั่วโมงครับ
ส่วน Thermage FLX ได้ออกแบบหัวทิปรุ่นใหม่ให้มีขนาดใหญ่กว่ารุ่น CPT กระจายพลังงานดีขึ้น ลงลึกขึ้นกว่าเดิม อายุการใช้งานอยู่ที่ 2 ชั่วโมง สามารถใช้ได้ทั้งใบหน้า เหนียง ลำคอ และลำตัวโดยไม่ต้องเปลี่ยนหัวยิงพลังงาน
ทำให้เครื่อง Thermage FLX จะใช้เวลาน้อยลงกว่ารุ่น CPT อีก 25% (ประมาณ 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำการรักษา) เนื่องจากมีหัวทิปขนาดที่ใหญ่กว่า และมีอายุการใช้งานที่น้อยกว่า
หัวทิปของ Thermage FLX
4. ด้านระดับความเจ็บ
Thermage CPT เป็นรุ่นที่พัฒนาให้มีระบบทำความเย็นเฉพาะ Pre Cooling ช่วยให้ระหว่างทำรู้สึกเจ็บน้อยลงครับ
แต่ Thermage FLX เป็นรุ่นที่พัฒนาให้รู้สึกเจ็บน้อยกว่าทุกรุ่นก่อนหน้า สามารถปล่อยความเย็นได้ดีกว่ารุ่น CPT ถึง 2 เท่า ด้วย Advanced Comfort Pulse Technology
มีการใช้ระบบ Pre and Post Cooling ที่จะปล่อยความเย็นออกมาเป็นระยะ ๆ และมีระบบสั่น (Multi-Directional Vibration) ทำให้ขณะยิงพลังงานจะรู้สึกสบายผิวมากยิ่งขึ้น ใครที่กลัวเจ็บมาก Thermage FLX จะช่วยลดความกังวลในส่วนนี้ไปได้มากครับ
หัวยิง Thermage FLX มีระบบสั่น และปล่อยความเย็น
ช่วยให้สบายผิวมากขึ้นขณะยิงพลังงานความร้อนลงใต้ชั้นผิว
การทำ Thermage FLX จะรู้สึก Warm But Tolerate คือ รู้สึกอุ่นร้อนใต้ผิวในระดับที่ทนได้ แต่จะรู้สึกเจ็บมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับการระดับความอดทนต่อความเจ็บของแต่ละคนด้วยครับ
“ ข้อควรรู้ : การแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยด้วยเครื่องยกกระชับไม่ว่าจะเป็น Hifu, Ulthera หรือ Thermage ให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีควรรู้สึกเจ็บครับ เพราะเป็นการยิงพลังงานความร้อนเข้าไปในทุกชั้นผิว ถ้าไม่รู้สึกเจ็บเลยแปลว่าพลังงานไม่ถึง หลังทำอาจไม่เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง ”
5. ด้านผลลัพธ์การยกกระชับ
ผลลัพธ์ที่ได้หลังทำ Thermage FLX กับ CPT ผิวจะยกกระชับขึ้นทันทีประมาณ 20% และใช้เวลาเห็นผลเต็มที่ประมาณ 2-3 เดือน โดยผิวที่หย่อนคล้อยจะแน่นกระชับ เห็นกรอบหน้าได้ชัดขึ้น
การทำเทอร์มาจจึงเป็นหนึ่งในวิธีลดเหนียงที่ได้รับความนิยมครับ ทั้งผลลัพธ์ในระยะยาวยังช่วยให้ผิวมีความเรียบเนียน กระชับรูขุมขนกว้าง และชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่ ๆ
รีวิวก่อน-หลังทำ Thermage FLX
ยกกระชับกรอบหน้า ลดเหนียงใต้คาง
ผลลัพธ์หลังทำ Thermage FLX กับ CPT สามารถอยู่ได้นาน 1-2 ปีเหมือนกันครับ แต่ Thermage FLX ยิงด้วยจำนวน shot น้อยกว่า แม่นยำมากกว่า และเจ็บน้อยกว่า ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการทำ Thermage รุ่นเก่า
“ ข้อควรรู้ : ระยะเวลาการคงอยู่ของผลลัพธ์หลังทำ Thermage ไม่เพียงแต่ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีหรือรุ่นของเครื่องเท่านั้น แต่ยังรวมถึงปัจจัยอื่น ๆ เช่น สภาพผิวเดิม อายุ และการดูแลรักษาหลังการทำด้วยครับ โดยแนะนำให้ทำ Thermage ต่อเนื่องอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้ยาวนาน ”
6. ด้านราคาที่แตกต่างกัน
Thermage FLX เป็นรุ่นที่อัปเกรดจากรุ่น CPT ครับ ทำให้มีราคาสูงขึ้นตามคุณสมบัติและประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น โดยเริ่มต้นที่ประมาณ 30,000.- ขึ้นไป ซึ่งราคาจะสูงขึ้นตามจำนวน shot ที่ใช้และบริเวณที่ทำการรักษาครับ
ราคาการทำเทอร์มาจจะไม่แตกต่างกันมากนะครับ ขึ้นอยู่กับโปรโมชันของแต่ละคลินิก ถ้าหากราคาถูกเกินไป อาจเจอกับเครื่องปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน เสี่ยงหน้าพัง ไม่เห็นผล แนะนำว่าควรตรวจสอบให้ดีก่อนทำ และเปรียบเทียบราคาการทำเทอร์มาจแต่ละรุ่นจากหลาย ๆ คลินิกที่ได้มาตรฐานครับ
โปรแกรม Thermage FLX ที่ V Square Clinic
โปรแกรม Thermage FLX
- รอบดวงตา 450 shot ราคา 29,999.-
- แก้ม+เหนียง 450 shot ราคา 30,000.-
- ทั่วหน้า 900 shot ราคา 60,000.- (รับฟรี Hifu Ultraformer III 200 Line**)
- ทั่วหน้า 1,800 shot ราคา 110,000.- (รับฟรี Hifu Ultraformer III 400 Line**)
- ตัว 2,000 shot ราคา 90,000.-
ระหว่าง Thermage FLX กับ CPT เลือกรุ่นไหนดี ? รุ่นไหนเหมาะกับเรา ?
ถ้าให้เปรียบเทียบ Thermage FLX กับ CPT ในแง่ของประสิทธิภาพการยกกระชับ หมอขอตอบว่าใกล้เคียงกันครับ ทั้งสองมีจุดประสงค์ในการใช้เพื่อยกกระชับใบหน้า สามารถสลายไขมันใต้ชั้นผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้เหมือนกัน
แต่จากการเปรียบเทียบข้อแตกต่างของทั้งสองรุ่นในหลาย ๆ ด้านแล้ว Thermage FLX จะถูกมองว่าให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าครับ
เพราะเป็นรุ่นที่มีการพัฒนาและออกแบบให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น ยิงจำนวน shot น้อยกว่าแต่ได้ผลมากกว่า ใช้เวลาในการทำน้อยลง เจ็บน้อยลง รวมถึงมีความปลอดภัยมากขึ้นกว่ารุ่นก่อน ๆ ด้วยการใช้เทคโนโลยี AccuREP ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดผิวไหม้ครับ
สรุป
Thermage FLX กับ CPT พัฒนาออกมาห่างกันถึง 9 ปี โดย Thermage FLX เป็นรุ่นล่าสุดของเทอร์มาจที่ได้มีการผสมผสานจุดเด่นของรุ่นเก่า พร้อมเพิ่มเทคโนโลยีใหม่เข้ามา เพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยยกกระชับได้อย่างแม่นยำ ใช้เวลาทำน้อยลง 25% รู้สึกเจ็บน้อยกว่าทุกรุ่นที่ผ่านมา ให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าคุ้มราคาครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ
