โบท็อกยี่ห้อไหนดี
เลือกฉีดโบท็อกยี่ห้อไหนดี ? ปัจจุบันมีโบท็อกหลายยี่ห้อมากครับที่ผ่าน อย.ไทย ทั้งจากอเมริกา เกาหลี อังกฤษ และเยอรมัน ซึ่งแต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติที่โดดเด่นต่างกัน ทั้งความเร็วในการเห็นผลลัพธ์, อายุการใช้งาน, ความแม่นยำของการกระจายตัวของยา และโอกาสในการพัฒนาความดื้อยา
ใครที่สนใจฉีดโบท็อก แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกฉีดโบท็อกยี่ห้อไหนดี ในบทความนี้หมอจะมาแชร์ทริค เลือกโบท็อกยี่ห้อไหนดี ควรพิจารณาจากอะไรบ้าง ? พร้อมเปรียบเทียบข้อดีโบท็อกแต่ละประเทศ ยี่ห้อไหนดีสุด ? เลือกโบท็อกยี่ห้อไหนดีได้แล้ว อย่าลืมพิจารณาคลินิกที่ให้บริการด้วย! ติดตามอ่านได้ครับ
สารบัญ โบท็อกยี่ห้อไหนดี
ทริคนี้หมอแนะนำ! เลือกโบท็อกยี่ห้อไหนดี พิจารณาจากอะไรบ้าง ?
- ยึดความต้องการของคนไข้เป็นหลัก : ควรประเมินว่าคนไข้ต้องการฉีดโบท็อกเพื่อจุดประสงค์อะไร ฉีดลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า หรือลดเหงื่อ เพราะแต่ละยี่ห้อของโบท็อกอาจมีความเหมาะสม และประสิทธิภาพที่แตกต่างกันไปตามการใช้งาน
- อย่าลืมดูงบประมาณ : โบท็อกแต่ละยี่ห้อมีราคาที่แตกต่างกันไปตามคลินิกที่ให้บริการ การเลือกยี่ห้อที่ตรงกับงบประมาณจะช่วยให้คนไข้คุมค่าใช้จ่ายได้ สามารถกลับมาฉีดโบท็อกได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่กระทบต่อเงินในกระเป๋า เปรียบเทียบฉีดโบท็อกซ์ ราคา ที่บทความนี้ได้เลยครับ
- ขอคำแนะนำจากแพทย์ : แพทย์ที่มีประสบการณ์จะประเมินสภาพผิว และโครงสร้างใบหน้าของคนไข้ เพื่อจะได้แนะนำโบท็อกยี่ห้อไหนดีที่เหมาะสมที่สุด
- ควรรู้จักความเข้มข้นของโบทูลินั่มท็อกซินแต่ละยี่ห้อ : โบท็อกยี่ห้อไหนดีแต่ละยี่ห้อ จะมีลักษณะการกระจายตัว และความเข้มข้นของสารที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจส่งผลต่อผลลัพธ์ที่ได้ และตำแหน่งที่เลือกฉีด
การพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ จะช่วยให้คนไข้สามารถเลือกโบท็อกยี่ห้อไหนดีที่เหมาะสม ได้ผลลัพธ์ที่ดี ตรงกับความต้องการครับ และก่อนตัดสินใจฉีดควรสื่อสารกับแพทย์ เพื่อให้เข้าใจตรงกันเกี่ยวกับความคาดหวัง และงบประมาณของคนไข้ด้วย
ยี่ห้อโบท็อกที่ผ่าน อย. ไทย
ยี่ห้อโบท็อกที่ผ่าน อย. ไทย และมีการนำเข้ามาอย่างถูกกฎหมาย อัปเดตล่าสุดปี 2024 จะมีทั้งหมด 9 ยี่ห้อด้วยกันครับ ได้แก่
- Allergan (โบท็อกอเมริกา)
- Dysport (โบท็อกอังกฤษ)
- Xeomin (โบท็อกเยอรมัน)
- Neuronox (โบท็อกเกาหลี)
- Nabota (โบท็อกเกาหลี)
- Aestox (โบท็อกเกาหลี)
- Hugel (โบท็อกเกาหลี)
- Clodew (โบท็อกเกาหลี)
- BTXA (โบท็อกเกาหลี)
*หมายเหตุ:
ข้อมูลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามกฎระเบียบและการอนุมัติใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ขององค์การอาหารและยาไทยโดยตรง เพื่อความถูกต้องและปลอดภัยในการรับบริการ
เปรียบเทียบโบท็อกแต่ละประเทศ ยี่ห้อไหนดีสุด ?
โบท็อกยี่ห้อไหนดี ที่เข้ามาทำการตลาดในประเทศไทย มีอยู่หลายยี่ห้อจากหลายประเทศครับ ที่ได้รับความนิยม เช่น อเมริกา อังกฤษ เยอรมัน และเกาหลี แต่ละยี่ห้อจะมีจุดเด่น, คุณสมบัติ, ความบริสุทธิ์ของตัวยา, ชนิด protein complex, ขนาดของ molecule complex รวมไปถึงความคงทนในการเก็บรักษาด้วยครับ
Allergan (โบท็อกอเมริกา)
Allergan (โบท็อกอเมริกา) เป็นโบท็อกยี่ห้อไหนดีที่มีชื่อเสียง ผลิตโดยบริษัท Allergan ประเทศอเมริกา ซึ่งเป็นแบรนด์แรกที่คิดค้น และนำสาร Botulinum toxin มาใช้ในวงการแพทย์ ถูกนำมาใช้ในคลินิกเสริมความงามหลายแห่งทั่วโลก
ตัวยาจะใช้ Botulinum Toxin ชนิด Hall A-hyper (สายพันธุ์ออริจินัล ) มาสกัดเป็นตัวยา ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถสลายเองได้ 100% ไม่มีสารตกค้าง ได้รับการยอมรับในการใช้งานในหลายประเทศทั่วโลก
สรุปคุณสมบัติและจุดเด่นของโบท็อก Allergan
- มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% ทำให้มีโอกาสที่จะดื้อยาน้อยลงเมื่อเปรียบเทียบกับโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่น ๆ
- มีงานวิจัยรองรับกว่า 3,500 ชิ้น (since 1989) ถือเป็นโบท็อกแบรนด์แรกที่ได้รับการรับรองจาก FDA สหรัฐอเมริกา ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยสูง
- ยากระจายตัวแคบ ให้ผลการรักษาที่แม่นยำ สามารถลดริ้วรอยบนใบหน้าได้ตรงจุด ลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อที่ต้องการ
- เหมาะสำหรับฉีดลดริ้วรอยเฉพาะจุด เช่น ตีนกา ระหว่างคิ้ว ขมวดคิ้ว ฉีดโบท็อกลิฟหน้าเรียว ลดกราม ลิฟกรอบหน้าด้วยเทคนิค Nefertiti lift
- เห็นผลไว ให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่าโบท็อกยี่ห้ออื่น ๆ ประมาณ 20% (ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดและปริมาณที่ใช้)
Dysport (โบท็อกอังกฤษ)
โบท็อก Dysport (ดิสพอร์ต) เป็นโบท็อกยี่ห้อไหนดีที่ผลิตโดยบริษัท Ipsen ประเทศอังกฤษ โดยตั้งชื่อทางการค้าว่า Dysport® คนไทยจะนิยมเรียกว่าโบท็อกอังกฤษ หรือบางคนเรียกว่าโบท็อกซ์ ABO ก็มีครับ โดยตัวยาจะมีความเข้มข้นต่างจาก Allergan โดยจะมีการกระจายตัวกว้าง เมื่อฉีดเข้าไปในกล้ามเนื้อจะไม่กระจุกตัวอยู่ในพื้นที่แคบ ๆ ซึ่งช่วยให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ โดยจะรู้สึกตึงประมาณ 50% เบาสบาย ไม่ทำให้หน้าแข็ง
สรุปคุณสมบัติและจุดเด่นของโบท็อก Dysport
- ยากระจายตัวได้ดีนี้ ไม่กระจุกเป็นจุดแคบ ๆ จึงเหมาะกับการฉีดในกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น ริ้วรอยหน้าผาก ลดต้นแขน ลดน่อง ลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว
- สามารถนำมาใช้ปรับรูปหน้าด้วยเทคนิค dermolift เพื่อยกกระชับหน้า
- มีขนาดของ molecule complex size ที่เล็ก จึงกระจายตัวได้กว้าง ช่วยให้ผลการฉีดโบท็อกดูเป็นธรรมชาติ ไม่ตึงเกินไป โดยจะรู้สึกตึงประมาณ 50%
- ออกฤทธิ์ได้ไว เห็นผลเร็ว
Xeomin (โบท็อกเยอรมัน)
โบท็อก Xeomin ผลิตโดยบริษัท MERZ PHARMA ประเทศเยอรมนี เป็นโบท็อกยี่ห้อไหนดีที่เน้นพัฒนาโดยเอาข้อดีของ Allergan กับ Dysport มารวมกันครับ โดยจะมีคุณสมบัติอยู่กึ่งกลางระหว่างโบท็อกอเมริกากับโบท็อกอังกฤษ ตัวยามีความบริสุทธิ์สูง และไม่กระจุกตัวแคบเกินไป ทำให้ได้ผลที่ออกมาดูเป็นธรรมชาติ ไม่ตึงเกินไป มีงานวิจัยแสดงว่า Xeomin ได้ผลดีในเคสที่ดื้อยา (โดยที่เคสนั้นๆต้องหยุดการฉีดโบท็อกมาแล้วอย่างน้อย 2-3 ปี)
สรุปคุณสมบัติและจุดเด่นของโบท็อก Xeomin
- ตัวยามีความบริสุทธิ์สูง ไม่กระจุกตัวแคบเกินไป ทำให้หลังฉีดดูเป็นธรรมชาติ หน้าไม่ตึง ไม่แข็ง
- มีงานวิจัยแสดงว่า Xeomin ได้ผลดีในเคสที่ดื้อยา (โดยที่เคสนั้นๆต้องหยุดการฉีดโบท็อกมาแล้วอย่างน้อย 2-3 ปี)
- เหมาะกับเคสที่ดื้อโบท็อกซ์ นิยมใช้ฉีดลดริ้วรอยทั่วหน้า เช่น หน้าผาก ระหว่างคิ้ว รอยตีนกา ริ้วรอยเล็ก ๆ ใต้ตา ปรับรูปหน้าเรียว ลดโหนกแก้ม ลดกราม
Neuronox (โบท็อกเกาหลี)
โบท็อก Neuronox เป็นโบท็อกยี่ห้อไหนดีที่ผลิตโดย Medytox บริษัทยาและเครื่องมือแพทย์ของประเทศเกาหลีใต้ มีการนำ Botulinum Toxin Type A สายพันธุ์ออริจินัล ซึ่งสายพันธุ์ตัวเดียวกับ botox allergan มาผลิตตัวยา จึงทำให้ยามีการกระจายตัว และการออกฤทธิ์คล้ายคลึงกัน แต่จากประสบการณ์ของผู้ใช้งานจริงพบว่า botox allergan จะอยู่ได้นานกว่าเล็กน้อยครับ
ตัวยามีความบริสุทธิ์สูงถึง 98-99% จึงทำให้มีโอกาสดื้อโบท็อกน้อย ถ้าเทียบกับโบท็อกซ์เกาหลีตัวอื่นในท้องตลาด โบท็อกซ์ neuronox จะมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าทั้งในเรื่องผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ การกระจายตัวยาที่แคบ ให้ผลการรักษาที่แม่นยำ เพราะหมอสามารถคาดคะเนการออกฤทธิ์ของโบท็อกได้ครับ
สรุปคุณสมบัติและจุดเด่นของโบท็อก Neuronox
- ใช้ Botulinum Toxin Type A สายพันธุ์ออริจินัล (Hall A-hyper) มาผลิตตัวยา ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีหลายงานวิจัยยืนยันว่ามีประสิทธิภาพที่สุด
- ตัวยามีความบริสุทธิ์สูง กระจายตัวแคบ ผลลัพธ์แม่นยำ
- ฉีดแล้วเห็นผล และลดโอกาสของการดื้อยาได้
- ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับโบท็อกซ์อเมริกา แต่มีราคาที่จับต้องได้
- เหมาะฉีดลดริ้วรอยทั่วหน้า เช่น หน้าผาก ระหว่างคิ้ว รอยตีนกา ริ้วรอยเล็ก ๆ ใต้ตา ปรับรูปหน้าเรียว
Nabota (โบท็อกเกาหลี)
โบท็อก Nabota เป็นโบท็อกยี่ห้อที่ได้รับความนิยมจากเกาหลี ผลิตโดยบริษัท DAEWOONG ซึ่งเป็นโบท็อกเกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านงานวิจัยรับรองจาก อย.อเมริกา U.S.FDA approved (2018) ตัวยาจะมีความบริสุทธิ์สูง 98.7% เน้นพัฒนาให้ออกฤทธิ์ไว เห็นผลเร็ว มีความบริสุทธิ์สูง ราคาย่อมเยา จากการใช้งานพบว่าอยู่ได้สั้นกว่า Allergan เล็กน้อยครับ
สรุปคุณสมบัติและจุดเด่นของโบท็อก Nabota
- เป็นโบท็อกที่มีความบริสุทธิ์สูงถึง 98.7% และเป็นโบท็อกเกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านงานวิจัยรับรองจาก อย.อเมริกา (U.S.FDA approved 2018)
- ออกฤทธิ์ไว เห็นผลหลังฉีดค่อนข้างเร็ว มีความบริสุทธิ์สูง
- นิยมนำมาใช้ในการลดริ้วรอย เช่น รอยย่นหน้าผาก หางตา ระหว่างคิ้ว
- ช่วยปรับรูปหน้าเรียว ลดกราม ยกคิ้ว กระชับหน้า ฟื้นฟูใบหน้าเต่งตึง ดูอ่อนเยาว์
- โอกาสดื้อโบท็อกซ์น้อย เหมาะกับเคสที่ต้องการเห็นผลแบบเร่งด่วน
Aestox (โบท็อกเกาหลี)
โบท็อก Aestox เป็นโบท็อกยี่ห้อไหนดีเกาหลี ที่ผลิตโดยบริษัท Hugel Inc. ประเทศเกาหลีใต้ ได้การรับรองว่ามีความปลอดภัยจาก KFDA (องค์การอาหารและยาประเทศเกาหลีใต้) และ ThaiFDA (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาประเทศไทย)
Aestox Botox เป็นยี่ห้อโบท็อกที่มีการทำการวิจัยกับทางโรงพยาบาลศิริราชเป็นระยะเวลามากกว่า 5 ปี เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับคนไทย ตัวยามีความบริสุทธิ์ จึงทำให้เกิดโอกาสดื้อยาน้อย มีความอ่อนโยนและออกฤทธิ์ไวใกล้เคียง Allergan โบท็อกซ์อเมริกา แต่อยู่ได้สั้นกว่า และมีราคาถูกกว่าเท่าตัวครับ
สรุปคุณสมบัติและจุดเด่นของโบท็อก Aestox
- ตัวยามีความบริสุทธิ์สูงทำให้โอกาสดื้อโบท็อกลดน้อยลง
- ออกฤทธิ์ไวใกล้เคียง Allergan โบท็อกซ์อเมริกา แต่อยู่ได้สั้นกว่า และมีราคาถูกกว่า
- มีความอ่อนโยน ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ หน้าไม่ตึง ไม่แข็ง
- นิยมฉีดปรับรูปหน้า ลดกราม ลิฟหน้า ลดริ้วรอย เช่น โบท็อกซ์หางตา, ฉีดโบท็อกซ์รอยย่นหน้าผาก, โบท็อกระหว่างคิ้ว หรือฉีดโบท็อกรักแร้ โบท็อกซ์ลดน่อง ลดต้นแขนได้ดี
โบท็อกแต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติเฉพาะที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนไข้แตกต่างกัน โดยความแตกต่างหลัก ๆ จะอยู่ที่ความเข้มข้นของโบทูลินั่มท็อกซิน, ระยะเวลาผลลัพธ์ และลักษณะการกระจายตัวของยาในบริเวณที่ฉีด
ดังนั้นการเลือกโบท็อกยี่ห้อไหนดีที่เหมาะสม ควรพิจารณาจากประสบการณ์ของแพทย์ที่ให้บริการ และความต้องการของคนไข้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัยครับ
เลือกโบท็อกยี่ห้อไหนดีได้แล้ว อย่าลืมพิจารณาคลินิกที่ให้บริการด้วย!
นอกจากการเลือกโบท็อกยี่ห้อไหนดีแล้ว การเลือกคลินิกฉีดโบท็อกที่ไหนดีก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามครับ เพราะคุณภาพของคลินิก และประสบการณ์ของแพทย์ มีผลต่อความปลอดภัย และผลลัพธ์อย่างมาก และนี่คือสิ่งที่คนไข้ควรพิจารณาก่อนเลือกคลินิกฉีดโบท็อกครับ
- การรับรองและมาตรฐานของคลินิก : คลินิกควรมีการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีมาตรฐานการบริการที่เหมาะสม ได้มาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข มีใบอนุญาตถูกต้อง
- ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของแพทย์ : แพทย์ควรมีความเชี่ยวชาญในการฉีดโบท็อก และมีประสบการณ์ที่เพียงพอ นอกจากนี้ควรมีการอบรมเฉพาะทางอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทันกับเทคนิคใหม่ ๆ
- ใช้โบท็อกแท้ ผ่าน อย.ไทย : เลือกใช้บริการคลินิกที่มีตัวแทนจำหน่ายอย่างถูกต้อง ซึ่งบริษัทยาจะต้องขายให้กับคุณหมอที่มีใบอนุญาตเท่านั้น คนไข้สามารถนำยาไปตรวจสอบกับบริษัทนำเข้าได้ หมอแกะกล่อง เปิดขวด และผสมยาให้ดูต่อหน้า
- รีวิวและคำแนะนำจากผู้รับบริการ : ค้นหารีวิวหรือขอคำแนะนำจากผู้ที่เคยใช้บริการมาก่อน เพื่อช่วยให้คนไข้เห็นภาพรวมเกี่ยวกับคุณภาพการบริการ และผลลัพธ์ที่ได้จากคลินิกนั้น ๆ
- บริการและการดูแลหลังการขาย : ดูว่าคลินิกนั้นมีบริการให้คำปรึกษาก่อนฉีด และมีการติดตามผลหลังฉีดอย่างเหมาะสมหรือไม่ เพราะการดูแลที่ดีหลังฉีด เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คนไข้ได้รับผลลัพธ์ที่ดี และลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงได้
- สถานที่และความสะดวกในการเดินทาง : คลินิกควรตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกต่อการเดินทาง และเข้าถึงได้ง่าย เพื่อความสะดวกในการไปรับบริการซ้ำเมื่อจำเป็น
การเลือกคลินิกที่เหมาะสม เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กับการเลือกโบท็อกยี่ห้อไหนดี เพราะคลินิกและแพทย์ที่มีคุณภาพ จะช่วยให้คนไข้มั่นใจได้ว่าจะปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่พอใจกลับมาครับ
สรุปเกี่ยวกับ โบท็อกยี่ห้อไหนดี
แม้ว่าจะมียี่ห้อโบท็อกให้เลือกหลากหลาย ทั้ง อเมริกา/เกาหลี/อังกฤษ/เยอรมัน แต่ในท้ายที่สุดแล้ว การเลือกฉีดโบท็อกยี่ห้อไหนดี หมอแนะนำให้พิจารณาทั้งยี่ห้อที่มีชื่อเสียงและได้รับการรับรองคุณภาพ, แพทย์หรือคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญ, มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง และดูจากความต้องการของคนไข้เป็นหลักครับ
ที่สำคัญอย่าลืมขอคำแนะนำจากแพทย์ เพื่อให้แพทย์แนะนำโบท็อกซ์ที่เหมาะสมกับจุดที่ฉีด เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติ ไม่มีผลข้างเคียงครับ