เมโสแฟตเหนียง
เหนียง ปัญหาใหญ่ของใครหลายคน เหนียง เกิดจากการสะสมของไขมัน ทำให้ลดยาก เมโสแฟตเหนียง จึงเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมในการสลายไขมันแบบเฉพาะจุด ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว
ทั้งนี้ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ คนไข้ควรทราบก่อนครับว่า นอกจากเมโสแฟตเหนียงแล้ว ยังมีหัตถการอื่น ๆ ที่ช่วยลดเหนียงได้ แต่จะช่วยได้จริงไหม อย่างไร บทความนี้มีคำตอบครับ
สารบัญ เมโสแฟตเหนียง
เมโสแฟตเหนียง คืออะไร ?
เมโสแฟตเหนียง คือ การฉีดตัวยาที่มีสารออกฤทธิ์ต่าง ๆ อาทิเช่น Artichoke extract (Cynara scolymus) ช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์โคเอนไซม์ (coenzyme) ช่วยในเรื่องสังเคราะห์กรดไขมัน และช่วยลดเนื้อเยื่อไขมัน หลังจากนั้นไขมันที่สลายจะถูกขับออกมาตามกลไกการขับของเสียตามธรรมชาติ ส่งผลให้บริเวณที่ฉีดโดยรอบลดลง กระชับสัดส่วนตามต้องการ
ดังนั้น การฉีดเมโสแฟตเหนียง จึงช่วยสลายไขมันสะสมบริเวณเหนียงใต้คาง เป็นวิธีการลดเฉพาะจุดโดยไม่ต้องผ่าตัด
เหนียง เกิดจากอะไร ?
เหนียง เกิดจากการสะสมของไขมันใต้ผิวหนังบริเวณคาง มีลักษณะเป็นก้อนเนื้อห้อยลงมา เวลาก้มหน้าจะทำให้เกิดคางสองชั้น (Double Chin) คล้ายคางหมู หากสัมผัสจะให้ความรู้สึกนุ่ม นิ่ม สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย
ปัญหาเหนียงใต้คาง มีสาเหตุจากคนไข้ไม่ดูแลตัวเอง ไม่ออกกำลังกาย น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น รวมไปถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การนั่งทำงานที่ต้องก้มหน้าดูคอมพิวเตอร์ ก้มหน้าเขียนหนังสือ หรือการก้มหน้าเล่นโทรศัพท์มือถือ เป็นเวลานาน ทำให้เกิดรอบพับใต้คาง ทำให้เกิดเหนียงได้แบบไม่ตั้งใจ
อยากลดเหนียง มีวิธีไหนช่วยได้บ้าง ?
วิธีลดเหนียง สามารถทำได้หลายวิธีครับ ทั้งวิธีทางการแพทย์ที่มีหลายแนวทางให้เลือก และวิธีลดเหนียงที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ทั้งนี้วิธีการลดเหนียง วิธีไหนเหมาะกับใคร หมอจะอธิบายในข้อ ๆ ต่อไปครับ
1. ฉีดเมโสแฟตเหนียง
การฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) เข้าไปบริเวณเหนียง เมโสแฟตจะออกฤทธิ์ในการสลายไขมันสะสมส่วนเกิน เป็นวิธีการลดเหนียงเฉพาะจุด เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ครั้งแรก ไขมันสลาย 10-15% และถูกกำจัดออกจากร่างกายผ่านระบบขับถ่ายตามธรรมชาติ เริ่มเห็นผลว่าเหนียงยุบลงใน 5-7 วัน และเห็นผลชัดเจนเต็มที่ประมาณ 2-3 สัปดาห์ เหมาะกับคนที่มีเหนียงเยอะ อยากลดเหนียง แต่กลัวการผ่าตัด
ทั้งนี้เพื่อการลดเหนียงที่เห็นผล หมอแนะนำให้ฉีดเมโสแฟตเหนียงคู่กับการฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า จะทำให้เหนียงยุบลงและกรอบหน้าชัดขึ้น โดยหมอจะอธิบายในข้อต่อไป
2. ฉีดโบท็อก ลดเหนียง
แนวทางการลดเหนียงที่ได้ประสิทธิภาพ แพทย์จะเป็นผู้ประเมินความเหมาะสมในการเลือกใช้หัตถการ ควบคู่กับความต้องการของคนไข้ ตามที่หมอแนะนำข้างต้น การฉีดเมโสแฟตเหนียง คู่กับการฉีด โบท็อกลิฟกรอบหน้า (Nefertiti lift) ช่วยแก้ปัญหาเหนียงที่หย่อนคล้าย ปรับรูปหน้าให้กระชับเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
ในคนไข้ที่มีปัญหาเหนียงจากสาเหตุอื่น ที่ไม่ได้เกิดจากไขมันสะสม เช่น ต่อมน้ำลายโต สามารถใช้โบท็อกลดได้ครับ แต่ข้อเสียคือทำให้คอแห้ง หรือผู้ที่เป็นไทรอยด์ ทำให้บริเวณคอมีอาการบวม แนะนำให้เข้ารับการปรึกษากับแพทย์ เพื่อลดความเสี่ยง และแก้ปัญหาคอที่บวมอย่างเหมาะสม
3. ร้อยไหม เก็บเหนียง
ส่วนใหญ่การ ร้อยไหม จะนิยมร้อยเพื่อยกกระชับปรับรูปหน้าให้เรียววีเชฟ แต่การร้อยไหมเพื่อลดเหนียงไม่เป็นที่นิยม เนื่องจากผลลัพธ์การร้อยไหมทำให้เนื้อบริเวณนั้นเยอะขึ้นจาก Collagen ที่ถูกสร้างเพิ่ม
ดังนั้น การร้อยไหมเพียงหัตถการเดียวจึงไม่สามารถลดเหนียงได้ แต่เป็นเพียงการช่วยยกกระชับ เมื่อเวลาผ่านไปจะหย่อนคล้ายลง เพราะเหนียงเกิดจากการสะสมของไขมัน หากไม่ได้รับการสลายก็จะไม่ทำให้เหนียงหายได้ครับ
ลดเหนียง ด้วยเครื่องมือทางการแพทย์
แต่ละหัตถการมีจุดเด่นที่ช่วยลดเหนียง และยกกระชับผิวต่างกัน คนไข้สามารถเลือกหัตถการที่เหมาะกับตัวเอง หากคนไข้กลัวเข็ม ไม่อยากรักษาด้วยตัวยา ยังมีหัตถการอื่นที่สามารถทำได้ ดังนี้
- Thermage FLX (คลื่นวิทยุ Monopolar RF) จะยิงพลังงานความร้อนเป็นก้อนขนาดใหญ่ลงใต้ผิว เหมาะกับคนที่มีไขมันบริเวณเหนียงที่มาก ช่วยลดไขมันได้ดี หลังทำจะเห็นว่ายกกระชับขึ้น 20% และเห็นผลชัดเจนขึ้นใน 2-3 เดือนให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน 1-2 ปี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันสะสม และการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล
- Hifu Ultraformer III (Hight intensity focus Ultrasound Macrofocus) ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ ยิงพลังงานความร้อน focus เป็นจุดไข่ปลาเรียงกันเป็นเส้นตรงใต้ผิว ลงลึกถึงผิวชั้น SMAS เน้นช่วยยกกระชับผิว กระตุ้นคอลลาเจน เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีผิวหน้าหย่อนคล้อย สามารถทำได้ตั้งแต่อายุยังน้อย (20 ปี) เพื่อป้องกันการหย่อนคล้อยในอนาคต
- Ulthera SPT (Hight intensity focus Ultrasound) หลักการคล้ายกับ Hifu แต่ยิงพลังงานเป็นเส้นใหญ่กว่า ลงลึกถึงผิวชั้น SMAS จึงให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานกว่า เหมาะกับคนที่มีปัญหาเหนียงที่หย่อนคล้ายมาก หลังทำคนไข้สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันที 30%
หากต้องการลดเหนียงและกระชับผิวไปด้วย สามารถฉีดเมโสแฟตเหนียง คู่กับการใช้เครื่องมือยกกระชับ จะทำให้เห็นผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนครับ
เมโสแฟตเหนียง เหมาะกับใคร ?
- ผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณเหนียง ต้องการลดอย่างรวดเร็ว
- ผู้ที่ออกกำลังกายแล้วน้ำหนักตัวลด แต่ไขมันสะสมบริเวณเหนียงไม่ลดตาม
- ผู้ที่กลัวการผ่าตัด ไม่อยากเจ็บตัว และไม่มีเวลาพักฟื้น
การเตรียมตัวก่อนฉีด เมโสแฟตเหนียง
- คนไข้ควรเข้ารับคำปรึกษาโดยตรงจากแพทย์ที่มีประสบการณ์ ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้แพทย์ประเมินใบหน้า ปริมาณของเมโสแฟต ให้เหมาะสมกับจุดที่ต้องการฉีด
- ก่อนเข้ารับการฉีดเมโสแฟตเหนียง 48 ชั่วโมง ต้องงดยาในกลุ่มของ แอสไพริน, NSAIDs และ Dipyridamole เนื่องจากกลุ่มยาที่ยับยั้งการเกาะกลุ่มของเลือด ทำให้เลือดออกง่าย
เพื่อความปลอดภัย หากคนไข้มีประวัติการแพ้ยา และโรคประจำตัว ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทุกครั้งครับ
เมโสแฟตเหนียง กี่วันเห็นผล ?
หลังจากฉีดเมโสแฟตเหนียง 5-7 วัน จะเริ่มเห็นว่าเหนียงยุบลง และเห็นผลชัดเจนขึ้นเต็มที่ใน 2-3 สัปดาห์ครับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดูแลตัวเอง และปริมาณไขมันบริเวณเหนียงของแต่ละคน
ทั้งนี้หากคนไข้อยากเห็นผลลัพธ์ที่เร็วขึ้น หมอแนะนำให้ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้ไขมันที่สลายถูกขับออกจากร่างกายได้เร็วขึ้น รวมถึงการปรับพฤติกรรมการทานอาหาร และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ในข้อต่อไปครับ
หลังฉีด เมโสแฟตเหนียง มีข้อปฏิบัติและวิธีดูแลตัวเอง อย่างไร ?
- ควรดื่มน้ำมาก ๆ : การทำเมโสแฟตเป็นการสลายไขมันที่สะสม ให้เป็นของเหลว และถูกขับออกมาทางระบบขับถ่ายต่าง ๆ เช่น เหงื่อ ปัสสาวะ อุจจาระ จึงควรดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร เป็นการช่วยขับไขมันส่วนเกินที่สลายออกจากร่างกายได้มากขึ้น
- งดทาครีมบำรุงต่าง ๆ : งดทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน หากเกิดรอยแดง รอยช้ำจากเข็มในบริเวณที่ฉีดให้ประคบเย็นก่อนใน 48 ชั่วโมงแรก สามารถล้างหน้าและแต่งหน้าได้ตามปกติ
- เลี่ยงความร้อน : หลังจากการทำเมโสแฟตเหนียง 1-3 วัน อาจจะพบอาการบวมช้ำ หรือเจ็บปวดบ้างเล็กน้อย คนไข้ควรหลีกเลี่ยงการอบซาวน่า หรือทำเลเซอร์อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อลดอาการดังกล่าว
- งดการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ : หลังทำประมาณ 3 วัน เพื่อลดอาการฟกช้ำ บวม แดง หลังฉีด อีกทั้ง บุหรี่เป็นตัวการที่ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น
- ควบคุมอาหาร : ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีไขมันสูง ของมัน ของทอด อาหารรสเค็ม แป้ง น้ำตาล เพื่อลดการสะสมของไขมัน ไม่ให้เหนียงกลับมาอีกครับ
- ออกกำลังกาย : วิธีนี้สามารถทำควบคู่กับการควบคุมอาหารได้ เพื่อกำจัดไขมันออกจากร่างกายได้เร็วขึ้น ลดการสะสมของไขมัน เช่น เดินเร็ว หรือ Body Weight เริ่มจากท่าเบา ๆ ก่อน อย่างน้อยวันละ 30-45 นาที และควรทำต่อเนื่องอย่างน้อยอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง
หลังฉีดเมโสแฟตเหนียง อาจมีอาการบวม ช้ำ หรือรู้สึกเจ็บบริเวณที่ฉีดเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล แต่อาการเหล่านี้จะหายไปได้เอง ใน 1-3 วันครับ ระหว่างนี้สามารถรับประทานยาลดบวมได้ตามแพทย์แนะนำ
ข้อห้ามในการฉีด เมโสแฟตเหนียงก่อนฉีด
เพื่อความปลอดภัยก่อนฉีดเมโสแฟตเหนียง คนไข้ควรเปิดเผยข้อมูลสุขภาพ ให้แพทย์ทราบก่อนทุกครั้ง เพื่อประเมินการรักษา และความปลอดภัยของคนไข้
- ผู้ที่อายุยังน้อยกว่า 18 ปี
- สตรีมีครรภ์ หรืออยู่ในระหว่างให้นมบุตร
- ผู้ที่ใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด
- มีโรคประจำตัว เช่น โรคระบบหลอดเลือดผิดปกติในสมอง เส้นเลือดสมองตีบ หรืออุดตัน
- คนไข้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- อยู่ในระหว่างการรักษาโรคมะเร็ง โรคหัวใจ มีการเต้นของหัวใจผิดจังหวะ
- โรคเบาหวาน ต้องฉีดอินซูลินเป็นประจำ มีการรักษาด้วยยาหลายชนิด
เมโสแฟตเหนียง ราคา ?
ราคาของเมโสแฟตเหนียง แตกต่างไปตาม ยี่ห้อเมโสแฟตเหนียง และปริมาณ ทั้งนี้ ควรให้แพทย์ เป็นผู้ประเมินตามความเหมาะสม โดยแต่ละคลินิกจะมีราคาที่ต่างกันออกไป โดยราคาเฉลี่ยของเมโสแฟตเหนียง จะเริ่มต้นที่ 2,000/ 6cc ครับ สำหรับที่ V Square Clinic จะเลือกใช้ยี่ห้อเมโสแฟตที่ผ่าน อย. เท่านั้น ได้แก่ เมโสแฟต ยี่ห้อ Phytobella, FNC และ Babi
ปัจจุบัน มีเมโสแฟตปลอมจำนวนมาก ก่อนฉีดคนไข้ควรเลือกจากคลินิกที่น่าเชื่อถือ ตัวยาแท้มีคุณภาพ เพื่อความปลอดภัยของคนไข้ครับ
สรุป
เมโสแฟตเหนียง เป็นหัตถการที่ช่วยลดไขมันสะสมบริเวณใต้คางได้จริง ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว เป็นการแก้ปัญหาเหนียงที่หน่อยยานได้ตรงจุด เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง กลัวการผ่าตัด และต้องการสลายออกอย่างรวดเร็ว ก่อนฉีดหมอแนะนำให้เข้ารับการปรึกษากับแพทย์ประจำคลินิก เพื่อประเมินไขมันที่สะสม ปริมาณเมโสแฟตที่ใช้ ยี่ห้อที่เหมาะสม ให้ผลลัพธ์การรักษาที่ชัดเจน เพื่อความปลอดภัยของคนไข้ ควรเปิดเผยข้อมูลสุขภาพ ให้แพทย์ทราบก่อนการรักษาทุกครั้งครับ