![Juvelook](https://vsqclinic.com/wp-content/uploads/2024/12/Juvelook.jpg)
Juvelook ไหมน้ำเกาหลี
Juvelook ถือเป็นหนึ่งในหัตถการประเภท Biostimulator ครับ เน้นกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจากภายใน แก้ปัญหาผิวเสื่อมสภาพ ชะลอความแก่ และฟื้นฟูผิวให้ดูสดใสอ่อนเยาว์
ในบทความนี้หมอจะพาไปเจาะลึกข้อมูลเกี่ยวกับการฉีด Juvelook ว่ามีความแตกต่างจากฟิลเลอร์ หรือ Skin Booster ตัวอื่น ๆ อย่างไร ? มีจุดเด่นอะไรบ้าง ? เหมาะกับใคร และมีเรื่องอะไรบ้างที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีด
สารบัญ Juvelook
Juvelook คืออะไร ?
![Juvelook คืออะไร](https://vsqclinic.com/wp-content/uploads/2024/12/Juvelook-คืออะไร.png)
Juvelook คือสารเติมเต็มที่มีคุณสมบัติในการกระตุ้นคอลลาเจนไปในตัวครับ หรือเรียกว่าเป็น Hybrid Filler ประกอบไปด้วยสารสำคัญ 2 ชนิด คือ PDLLA (Poly-D, L-Lactic Acid) และ Hyaluronic Acid (HA)
![โครงสร้าง PDLLA ใน juvelook](https://vsqclinic.com/wp-content/uploads/2024/12/โครงสร้าง-PDLLA-ใน-juvelook.jpg)
PDLLA ใน Juvelook เป็นการผสมผสานระหว่างโครงสร้างแบบ D-form และ L-form ซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่สัมผัสในกระบวนการสร้างคอลลาเจนและการยึดเกาะกับเนื้อเยื่อ ทำให้มีความคงทนและเสถียรมากกว่า PLLA หรือ PDLA
ทำไมเรียกว่า “ไหมน้ำ”
Juvelook มักถูกเรียกว่า “ไหมน้ำ” เนื่องจากมีคุณสมบัติที่คล้ายกับการร้อยไหมเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน แต่แตกต่างในด้านวิธีการและประโยชน์ครับ โดยทั่วไปแล้วการร้อยไหมแบบปกติที่เราเห็นกันจะมีทั้งไหม PDO, PCL, PDLLA ซึ่งรูปแบบจะเป็นเส้น ๆ
แต่ Juvelook ใช้ PDLLA ในรูปแบบการฉีดซึ่งง่ายและปลอดภัยกว่า เปรียบเสมือนการ “ร้อยไหมแบบน้ำ” ที่ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวโดยไม่ต้องใช้เข็มร้อยไหมจริง ลดความเจ็บและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง
คุณสมบัติเด่นของ Juvelook
![การเปลี่ยนแปลงในชั้นผิวหนังแท้](https://vsqclinic.com/wp-content/uploads/2024/12/การเปลี่ยนแปลงในชั้นผิวหนังแท้.jpg)
ผ่านการย้อมสีแบบ Masson Trichrome เพื่อวัดปริมาณคอลลาเจนในชั้นผิว
จากภาพ จะเห็นว่าใน 1 สัปดาห์หลังฉีด Juvelook ชั้นผิวเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย คอลลาเจนในชั้นผิวยังคงมีปริมาณน้อยอยู่ แต่ในเวลา 6 เดือน ปริมาณคอลลาเจนในชั้นผิวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยสีม่วงที่ปรากฏในภาพบ่งบอกถึงการสร้างคอลลาเจนใหม่ครับ
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างล้ำลึก
PDLLA ใน Juvelook ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ช่วยให้ผิวดูเต่งตึง มีความยืดหยุ่น และลดริ้วรอย
- เติมเต็มและให้ความชุ่มชื้นทันที
HA ทำหน้าที่เติมเต็มริ้วรอยหรือร่องลึก ทำให้ผิวดูอิ่มเอิบ และชุ่มชื้นในทันทีที่ฉีด
- ผลลัพธ์ยาวนานสูงสุด 2 ปี
เนื้อ Juvelook มีความคงทน และช่วยกระตุ้นคอลลาเจน จึงช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้ยาวนาน
- ลดการอักเสบและผลข้างเคียง
ด้วยเทคโนโลยีที่ใช้ ทำให้ PDLLA สามารถย่อยสลายเป็นน้ำและคาร์บอนไดออกไซด์ในร่างกายได้ ลดการเกิดผลข้างเคียงหลังฉีด
- เหมาะกับหลายปัญหาผิว
นอกจากช่วยเติมเต็มและกระตุ้นคอลลาเจน ยังช่วยปัญหาผิวอื่น ๆ เช่น หลุมสิว รอยแผลเป็น รอยแตกลาย และปัญหาความหย่อนคล้อยของผิว
![Vsquare tips](https://vsqclinic.com/wp-content/uploads/2024/07/V-Square-Tips.png)
Juvelook สามารถฉีดในชั้นผิวตื้น (Intradermal Layer) ได้อย่างปลอดภัยและไม่เป็นก้อนครับ ซึ่งแตกต่างจาก Biostimulators ชนิดอื่น ๆ ที่ต้องฉีดในชั้นผิวลึก
Juvelook ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
ในปัจจุบันเทรนด์งานผิว Glass Skin หรือ Skin Radiance ที่หมายถึงผิวกระจ่างใส ชุ่มชื้น ฉ่ำวาว ดูสุขภาพดี กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก และคงจะเป็นเทรนด์ต่อเนื่องไปอีกหลายปี ทำให้ Juvelook ถูกออกแบบมาเพื่อฟื้นฟูผิวในหลายด้าน
- ลดริ้วรอย
ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยรอบดวงตา ร่องแก้ม หรือหน้าผาก Juvelook ช่วยให้ผิวกลับมาเรียบเนียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ลดความหย่อนคล้อย
ช่วยฟื้นฟูผิวที่หย่อนคล้อยให้กระชับขึ้น ด้วยการสร้างโครงสร้างคอลลาเจนใหม่ใต้ผิว
- ช่วยเรื่องหลุมสิว รอยแผลเป็น รอยแตกลาย
Juvelook ช่วยเติมเต็มและปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน โดยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวชั้นลึก
- เพิ่มความชุ่มชื้นและความกระจ่างใส
ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ มีชีวิตชีวา แก้ปัญหาหน้าโทรมให้กลับมาสดใสอย่างเป็นธรรมชาติ
ตัวอย่างผลลัพธ์หลังฉีด Juvelook
![รีวิวฉีด Juvelook ลดริ้วรอยหางตา](https://vsqclinic.com/wp-content/uploads/2024/12/รีวิวฉีด-Juvelook-ลดริ้วรอยหางตา.png)
![รีวิวฉีด Juvelook ลดริ้วรอยคอ](https://vsqclinic.com/wp-content/uploads/2024/12/รีวิวฉีด-Juvelook-ลดริ้วรอยคอ.png)
หลังฉีด Juvelook กี่วันเห็นผล ?
ระยะสั้น (ทันทีหลังฉีด) : ผิวจะดูชุ่มชื้นขึ้นทันที ริ้วรอยเล็ก ๆ และร่องลึกบางจุดจะลดลง
ระยะยาว (2-4 สัปดาห์) : การกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวจะเริ่มทำงาน โดยผลลัพธ์จะชัดเจนมากขึ้นในช่วง 2-3 เดือน และคงอยู่นานสูงสุด 2 ปี
![Vsquare tips](https://vsqclinic.com/wp-content/uploads/2024/07/V-Square-Tips.png)
ระยะเวลาที่แนะนำสำหรับการฉีด Juvelook คือ ฉีด 3 ขวด โดยเว้นระยะห่างขวดละ 1 เดือน จากนั้นแนะนำให้ฉีดเพิ่มเติมช่วง 6-12 เดือน เพื่อช่วยคงผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้น
Juvelook ต้องฉีดกี่ขวด ?
![Juvelook ต้องฉีดกี่ขวด](https://vsqclinic.com/wp-content/uploads/2024/12/Juvelook-ต้องฉีดกี่ขวด.jpg)
ปริมาณ Juvelook ที่ใช้ขึ้นอยู่กับบริเวณและสภาพปัญหาของผิวของแต่ละคนครับ จึงควรปรึกษาหมอและติดตามผลหลังฉีดอย่างต่อเนื่อง แต่ถ้าใครอยากคำนวณปริมาณคร่าว ๆ หมอยกตัวอย่างให้ครับ
- การลดริ้วรอยและยกกระชับผิว
ใช้ครั้งละ 1 ขวด 1-3 ครั้ง ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา หรือหน้าผาก
- การแก้หลุมสิวหรือรอยแผลเป็นเล็ก ๆ
ใช้ครั้งละ 1 ขวด โดยแนะนำให้ฉีดซ้ำ 3-5 ครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่เต็มประสิทธิภาพ
- การปรับสภาพผิวทั่วใบหน้า
แนะนำครั้งละ 1 ขวด ต่อเนื่อง 1-3 ครั้ง สำหรับการฉีดผิวทั่วใบหน้า
Juvelook อยู่ได้นานไหม ?
Juvelook ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 12-16 เดือน และสูงสุดถึง 2 ปีเลยครับ ถ้าคนไข้มีการดูแลตัวเองอย่างดี และฉีด Juvelook ในปริมาณและจำนวนครั้งที่เหมาะกับปัญหา
Juvelook ใช้ร่วมกับฟิลเลอร์อื่นได้หรือไม่ ?
Juvelook สามารถใช้ร่วมกับฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid และ Biostimulators อื่น ๆ ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพครับ หากมีการวางแผนการทำหัตถการก่อน-หลัง และเว้นระยะเวลาที่เหมาะสม
Juvelook กับ ฟิลเลอร์ : สามารถฉีดพร้อมกันได้ เพราะ Juvelook จะฉีดในชั้นผิวคนละชั้นกับฟิลเลอร์
Juvelook กับ Thermage, Ulthera หรือ HIFU : ควรทำการยกกระชับก่อน แล้วค่อยฉีด Juvelook เพื่อเสริมผลลัพธ์
Juvelook กับ Biostimulator : Sculptra, Radiesse, Gouri, Exosome, Ultracol, Rejuran สามารถฉีดได้ครับ แต่ต้องเว้นระยะเวลา 3-6 เดือน และควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีด
Juvelook เหมาะกับใครบ้าง ?
- ผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวและริ้วรอยลึก
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์
- ผู้ที่มองหาผลลัพธ์ที่ยาวนานและปลอดภัย
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ
Juvelook ราคาเท่าไร ?
Juvelook ราคา 15,000.-/1 ขวด โดยปริมาณที่ใช้จะขึ้นอยู่กับจุดที่คนไข้ต้องการฉีดครับ ยิ่งมีพื้นที่มากหรือมีปัญหาผิวเยอะ ก็จำเป็นต้องใช้ปริมาณมากขึ้น เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน
![Juvelook ราคา](https://vsqclinic.com/wp-content/uploads/2024/12/Juvelook-ราคา.jpg)
ข้อควรระวังในการใช้ Juvelook ฉีดอย่างไรให้ปลอดภัย ?
- เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ มีใบอนุญาตถูกต้อง
- ใช้ Juvelook แท้ ตรวจสอบได้
- คลินิกได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ
- แจ้งประวัติสุขภาพ โรคประจำตัว ยาที่ใช้ประจำ และการทำหัตถการทุกครั้ง
การเตรียมตัวก่อนการฉีด
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด AHA/BHA หรือ Retinol อย่างน้อย 3 วันก่อนการฉีด
- ควรงดการสัมผัสแสงแดดจัดหรือความร้อน เช่น การทำซาวน่า ก่อนการฉีด 1-2 วัน
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดรอยช้ำ
ผู้ที่ควรหลีกเลี่ยงการฉีด Juvelook
- ผู้ที่แพ้ HA หรือกรดโพลิแลกติก
- ผู้ที่มีปัญหาเลือดแข็งตัวผิดปกติ และผู้ที่เป็นแผลคีย์รอย
- ผู้ที่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
![Vsquare tips](https://vsqclinic.com/wp-content/uploads/2024/07/V-Square-Tips.png)
การฉีด Juvelook เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย แพทย์ต้องฉีดในตำแหน่งที่เหมาะสม และใช้ปริมาณที่เหมาะสมครับ เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดก้อนหรือปฏิกิริยาไม่พึงประสงค์
ผลข้างเคียงหลังฉีด Juvelook มีไหม ?
อาการบวม แดง หรือช้ำเล็กน้อยที่บริเวณฉีด มักหายภายใน 1-2 วัน แต่หากมีอาการปวดหรือบวมมากผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
การดูแลหลังการฉีด Juvelook
- หลีกเลี่ยงความร้อนและแสงแดด เช่น ซาวน่า หรือโยคะร้อน ในช่วง 48 ชั่วโมงแรกหลังฉีด
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าในบริเวณที่ฉีด 24 ชั่วโมงแรก เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- ห้ามนวดหรือกดแรงบริเวณที่ฉีดในช่วงแรก เพื่อลดโอกาสการเคลื่อนตัวของสารฟิลเลอร์
- ควรงดการออกกำลังกายที่ทำให้เหงื่อออกมากในช่วง 1-2 วันแรก
สำหรับผู้ที่ต้องการเสริมการดูแลผิวเพิ่มเติม สามารถฉีด Juvelook กับหัตถการในกลุ่มเมโสหน้าใส หรือ ฉีดวิตามินผิว IV drip ได้เช่นกันครับ หากมีการวางแผนการฉีดที่เหมาะสม โดยเมโสจะเน้นการบำรุงผิวด้วยวิตามินหรือสารอาหารเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น มีหลายยี่ห้อ เช่น มาเด้คอลลาเจน, REVS สามารถปรึกษาหมอเพิ่มเติมได้ครับ
ฉีด Juvelook แล้วจะเป็นก้อนไหม ?
การฉีด Juvelook มีความเสี่ยงต่ำมากในการเกิดก้อนครับ เนื่องจากเนื้อเจลมีความละเอียดสูง และหากฉีดโดยแพทย์ที่มีความชำนาญ ในชั้นผิวที่ถูกต้อง ปริมาณที่เหมาะสม ปัญหานี้ก็จะไม่เกิดขึ้น
สรุป Juvelook
Juvelook เป็นฟิลเลอร์ชนิดเดียวในกลุ่ม Biostimulators ที่สามารถฉีดในชั้นผิวตื้นได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ผสานระหว่าง PDLLA และ HA ช่วยให้ Juvelook เหมาะสำหรับการฟื้นฟูผิวทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยเฉพาะบริเวณที่ต้องการความละเอียดและธรรมชาติ เช่น ใต้ตาและริ้วรอยเล็ก ๆ
อ้างอิง