Rejuran Healer คืออะไร ? ฟื้นฟูผิวได้จริงไหม ? เจาะลึกทุกข้อควรรู้ก่อนฉีด

Rejuran Healer ตัวช่วยฟื้นฟูผิวเสีย สร้างผิว Glass Skin

Rejuran Healer

หากใครที่กำลังเผชิญกับปัญหาผิวหน้าโทรม รูขุมขนกว้าง ผิวไม่แข็งแรง หรือมีริ้วรอยก่อนวัย และมองหาวิธีฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน Rejuran Healer คือสกินบูสเตอร์อีกหนึ่งตัวที่หมอมองว่าตอบโจทย์ครับ ทั้งมีความสามารถในการซ่อมแซมเซลล์ผิวระดับลึก กระตุ้นคอลลาเจน และลดการอักเสบของผิวได้ในตัวเดียว

บทความนี้หมอจะพาไปรู้จักกับ Rejuran Healer แบบเจาะลึก ทั้งคุณสมบัติ ผลลัพธ์หลังฉีด ราคา รวมถึงคำแนะนำก่อนและหลังฉีด เพื่อให้คนไข้มั่นใจและตัดสินใจได้ว่าการฉีด Rejuran เหมาะกับสภาพผิวของคนไข้หรือไม่

สารบัญ Rejuran Healer


Rejuran Healer คืออะไร ?

Rejuran Healer คืออะไร

Rejuran Healer หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ “Rejuran Classic” จัดเป็น Skin Booster อีกหนึ่งตัวที่ได้รับความนิยม อย่างมากโดยเฉพาะในเกาหลีและไทยครับ ตัวยาถูกคิดค้นและผลิตจากเกาหลี ในไทยได้มีการจดทะเบียนนำเข้าอย่างถูกต้องโดยบริษัท รีเอจไลน์ จำกัด และจำหน่ายโดยบริษัท เอสดับบลิว เฮลธ์แคร์ จำกัด

ส่วนประกอบหลักของรีจูรันที่ทำให้โดดเด่นจาก Skin Booster ตัวอื่นคือ Polynucleotide (PN) เข้มข้น 2% ซึ่งเป็นสารสกัดจาก DNA ของปลาแซลมอน ช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิวในระดับลึก ช่วยให้ผิวแข็งแรงจากภายใน อิ่มน้ำ ฉ่ำวาว Glass Skin ดูสุขภาพดีขึ้นครับ

Polynucleotide (PN) คืออะไร ? ทำไมถึงช่วยฟื้นฟูผิวได้ ?

Polynucleotide (PN) คืออะไร

Polynucleotide (โพลีนิวคลีโอไทด์) เป็นโมเลกุล DNA ที่มีโครงสร้างสายเดี่ยวยาว ซึ่งสกัดจากเซลล์ของปลาแซลมอนด้วยเทคโนโลยีเฉพาะที่เรียกว่า DOT™ โดยสกัดออกมาเป็นเจลใส ปราศจากสี และแอนติเจนที่อาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาต่อภูมิคุ้มกัน จึงมีความปลอดภัยครับ

ซึ่งตัว Polyneucleotide หรือ PN นี้ มีคุณสมบัติที่ช่วยส่งเสริมกระบวนการฟื้นฟูเซลล์ผิวตามธรรมชาติของร่างกาย ต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนังแท้ ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นจากภายใน จึงช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างเห็นผลครับ

Rejuran Healer ปลอดภัย ผ่าน อย.ไทย ไหม ?

จากข้อมูลล่าสุดปี 2022 Rejuran ทุกรุ่นผ่านการรับรองจาก อย. ไทย และ KFDA (Korea Food & Drug Administration) ของประเทศเกาหลีเรียบร้อยแล้วครับ ทำให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัยและได้มาตรฐาน

ทำไม Rejuran Healer ถึงปลอดภัย ?

  • ผลิตจากชิ้นส่วน DNA ของปลาแซลมอนที่ผ่านการทดลองแล้วว่ามีความปลอดภัยต่อมนุษย์
  • ผ่านการจดทะเบียนนำเข้าอย่างถูกต้องโดย บริษัท รีเอจไลน์ จำกัด และจำหน่ายโดย บริษัท เอสดับบลิว เฮลธ์แคร์ จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตในประเทศไทย
  • ไม่มีส่วนผสมของสารอันตราย เช่น สเตียรอยด์หรือสารเติมเต็มที่ก่อให้เกิดอาการแพ้รุนแรง
  • ผ่านการทดลองทางคลินิกและได้รับการรับรองว่ามีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิวโดยไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรง
  • ค่อย ๆ สลายตัวภายในร่างกายได้เองตามธรรมชาติ

ดังนั้น ผู้ที่ต้องการฉีด Rejuran Healer ควรเลือกใช้บริการจากคลินิกที่ได้มาตรฐาน และแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้มั่นใจว่าได้รับผลิตภัณฑ์แท้ที่ผ่านการรับรอง และมีความปลอดภัยสูงสุดครับ


เปรียบเทียบ Rejuran Healer กับ Skin Booster ตัวอื่น ๆ

ปัจจุบันมี Skin Booster ในท้องตลาดหลายยี่ห้อเลยครับ แต่ละตัวมีคุณสมบัติ จุดเด่น และราคาที่แตกต่างกัน ซึ่งหมอจะมาเปรียบเทียบข้อมูลเบื้องต้นดังนี้ครับ

เมโสหน้าใส คือ
exosome คือ
Gouri คือ
Ultracol 200 คือ
Juvelook คือ
ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว คือ
Sculptra คือ
Radiesse คือ
  • เมโสหน้าใส เน้นแก้ปัญหาผิวหน้า ทำให้ผิวชุ่มชื้น กระจ่างใส ลดการอักเสบ มีหลายยยี่ห้อที่ได้รับความนิยมครับ ได้แก่ Made Collagen, Filorga, REVS (NCFS), Alpha Arbutin, Tensonez และ Neo-Glutanex Glow
  • ASCE Exosome เป็น Skin Booster ที่ใช้โมเลกุลระดับนาโน เน้นฟื้นฟูและปรับปรุงคุณภาพผิวถึงระดับเซลล์ เหมาะกับคนที่ต้องการบูสต์ผิวแบบขั้นสุด มีฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยดำ รอยแดงสิว รูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน
  • Gouri เป็นไหมน้ำที่ผลิตด้วย สาร PCL (Polycaprolactone) เด่นเรื่องกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวยืดหยุ่น เหมาะกับกับคนที่ต้องการฟื้นฟูผิวจากภายใน แก้ปัญหาผิวที่แก่ตามวัย ฟื้นฟูผิวในระยะยาว
  • Ultracol 200 เป็นสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ผลิตด้วย PDO (Polydioxanone) Microspheres ช่วยฟื้นฟูผิวหย่อนคล้อยให้เรียบเนียน กระชับ เติมร่องริ้วรอย เพิ่มความกระจ่างใส และคงความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้า
  • Juvelook เป็น Biostimulator ที่ผสม PDLLA และ Hyaluronic Acid เข้าด้วยกัน ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ฟื้นฟูผิวทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยเฉพาะบริเวณที่ต้องการความละเอียดและธรรมชาติ เช่น ใต้ตาและริ้วรอยเล็ก ๆ
  • Filler Skin Booster เป็นสารเติมเต็มผิว HA ชนิดเดียวกับฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดปรับรูปหน้าครับ เน้นเพิ่มความชุ่มชื้นไว้ ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น อิ่มฟู ฉ่ำวาว เรียบเนียน มีหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ ได้แก่ Juvederm Volite, Skinvive, Belotero Revive, Teoxane Redensity 1, Restylane Vital Light และ Flore รุ่น AQUA-S ครับ
  • Sculptra เป็น Collagen Biostimulator ที่ผลิตด้วยกรดโพลีแลกติก (Poly-L-lactic Acid) เด่นในเรื่องช่วยกระตุ้นคอลลาเจน Type 1 ทำให้ผิวดูเต็มและแน่น เหมาะกับที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ผิวขาดความยืดหยุ่น ย้วย ไม่เฟิร์ม ต้องการฟื้นฟูผิวในระยะยาว
  • Radiesse เป็น Biostimulator ที่มีส่วนประกอบหลัก คือ Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ในการกระตุ้นการ สร้างคอลลาเจน เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ลดริ้วรอยลึก และปรับสภาพผิวให้ดูอิ่มเอิบ
Vsquare tips

ข้อควรรู้ : Collagen Biostimulator หรือ skin booster แต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นและคุณสมบัติที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาผิวที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกใช้แต่ละยี่ห้อ ควรพิจารณาจากสภาพผิว ปัญหาที่ต้องการแก้ไข ระยะเวลาที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ และการปรึกษาแพทย์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีครับ


Rejuran มีกี่สูตร ? แต่ละสูตรต่างกันอย่างไร ?

Rejuran มีกี่สูตร

Rejuran มีด้วยกัน 4 สูตรครับ คือ Rejuran Healer ,Rejuran S, Rejuran I และ Rejuran HB

  • Rejuran Healer หรือรีจูรันกล่องดำ (2.7 CC/ไซริงค์) เป็นสูตรที่เหมาะสำหรับฉีดเพื่อฟื้นฟูผิว เติมความชุ่มชื้น ผิวอิ่มฟู รูขุมขนกระชับ และเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว ตัวเจลมีความหนืดปานกลาง
  • Rejuran i หรือ รีจูรันกล่องขาว (1 CC/ไซริงค์) เป็นสูตรที่เหมาะสำหรับฉีดฟื้นฟูผิวรอบดวงตา ลดริ้วรอยใต้ตา ร่องปาก หรือบริเวณที่ต้องการการบำรุงเป็นพิเศษ ตัวเจลมีความหนืดน้อยที่สุดเพื่อให้กระจายตัวได้ดีและให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
  • Rejuran S หรือ รีจูรันกล่องสีน้ำเงิน (1 CC/ไซริงค์) เป็นสูตรที่เหมาะสำหรับฉีดฟื้นฟูผิวที่มีรอยแผลเป็น เช่น แผลหลุมสิว โดยมีความหนืดมากที่สุด ช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์ผิว และเติมเต็มผิวให้ดูเรียบเนียนขึ้น
  • Rejuran HB Plus หรือรีจูรันกล่องแดง (1 CC/ไซริงค์) เป็นสูตรที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิก เนื้อบางเบาที่สุด เหมาะสำหรับฉีดปรับสภาพผิวที่แห้งกร้านให้กลับมาชุ่มชื้น

Rejuran Healer ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?

Rejuran Healer ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
  • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวแน่นขึ้นและดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
  • ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิว ฟื้นฟู skin barrier ทำให้ผิวทนต่อมลภาวะและสารเคมีได้ดีขึ้น
  • ช่วยลดการอักเสบของผิว ลดรอยแดงจากสิว และช่วยให้สีผิวเรียบเนียนขึ้น
  • ช่วยเก็บกักน้ำในชั้นผิว ทำให้ผิวดู ฉ่ำน้ำ อิ่มฟู และมีสุขภาพดีขึ้น
  • ช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ เช่น ริ้วรอยใต้ตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก รวมถึงริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณลำคอและหลังมือ
  • ช่วยรักษาหลุมสิวให้ตื้นขึ้น (หลุมสิวไม่เกินขนาด 4-5 มม.) กระชับรูขุมขนให้ดูเล็กลง ผิวเรียบเนียนขึ้น

Rejuran Healer ดีไหม ? เหมาะกับใครบ้าง ?

Rejuran เหมาะกับใคร

สำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิวจากภายใน Rejuran Healer เป็นตัวเลือกที่ดีครับ เพราะมีคุณสมบัติที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิว ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ซึ่งเหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวหลากหลาย เช่น

ใครที่ควรฉีด Rejuran Healer ?

  • ผู้ที่ต้องการปรับสีผิวให้ดูกระจ่างใส สีผิวดูสม่ำเสมอ
  • ผู้ที่มีผิวบาง แพ้ง่าย ผิวอ่อนแอจากสารเคมีหรือเลเซอร์
  • ผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ และเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว
  • ผู้ที่มีรอยดำ รอยแดงจากสิว หรือปัญหาหลุมสิว
  • ผู้ที่มีผิวหน้าโทรม ไม่สดใส ต้องการฟื้นฟูผิวจากแสงแดดและมลภาวะ
  • ผู้ที่มีปัญหาหน้ามัน รูขุมขนกว้าง
  • ผู้ที่ต้องการบำรุงผิวให้อิ่มน้ำ ชุ่มชื้น ฉ่ำวาว
  • ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหน้าแบบเห็นผลเร่งด่วน

ใครบ้างที่ไม่เหมาะกับการฉีด Rejuran Healer ?

  • ผู้ป่วยที่ใช้ยากลุ่ม NSAIDs ยาต้านการแข็งตัวของเลือด และยกกดภูมิคุ้มกัน
  • ผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้ตัวเอง, โรค Sarcoidosis granulomatous pathology และ โรคเยื่อบุโพรงหัวใจอักเสบ
  • ผู้ป่วยที่มีการตอบสนองไวต่อผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารโซเดียมโพลีนิวคลีโอไทน์ (Sodium Polynucleitide)
  • หญิงตั้งครรภ์ และให้นมบุตร
  • ผู้ที่มีผิวหนังอักเสบหรือติดเชื้อ
  • ผู้ที่แพ้อาหารทะเล

Rejuran Healer ฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง ?

Rejuran Healer ฉีดตำแหน่งไหนบ้าง

Rejuran Healer สามารถฉีดได้ในหลายตำแหน่งทั่วใบหน้าและร่างกายครับ ได้แก่

  • ทั่วใบหน้า เช่น ร่องแก้ม หน้าผาก ใต้ตา แก้ม ขมับ คาง
  • ลำคอและเนินอก ช่วยลดริ้วรอยและเพิ่มความเรียบเนียน
  • หลังมือ ลดความแห้งกร้านและคืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวมือ
  • แผลเป็นจากสิวหรือหลุมสิว โดยฉีดเฉพาะจุดเพื่อกระตุ้นการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ

การเตรียมตัวก่อนฉีด Rejuran Healer

การเตรียมตัวก่อนฉีด Rejuran Healer ไม่ได้มีความซับซ้อนมากครับ โดยทั่วไปจะมีขั้นตอนและคำแนะนำที่คล้ายคลึงกับการทำทรีทเมนต์บำรุงผิวทั่วไป แต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แพทย์จะแนะนำให้

  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ประมาณ 24-48 ชั่วโมงก่อนทำ
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและพร้อมรับสารบำรุง
  • พักผ่อนให้เพียงพอในคืนก่อนวันฉีด เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูได้เต็มประสิทธิภาพ

ขั้นตอนการฉีด Rejuran Healer เป็นอย่างไร ?

ขั้นตอนการฉีด Rejuran Healer

การฉีด Rejuran Healer เป็นหัตถการที่ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยเน้นการฉีดสาร Polynucleotide (PN) ลงในชั้นผิวหนังแท้เพื่อฟื้นฟูเซลล์ผิวจากภายใน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซ่อมแซมผิว และฟื้นฟูความแข็งแรงของโครงสร้างผิวอย่างเป็นธรรมชาติ

ขั้นตอนการฉีด Rejuran คร่าว ๆ มีดังนี้ครับ

  • เข้ารับการประเมินปัญหาผิวในเบื้องต้น ว่าเหมาะกับการฉีด Rejuran Healer หรือไม่
  • ทำความสะอาดผิวหน้าให้ปราศจากสิ่งสกปรก
  • ทายาชาทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาที
  • แพทย์ฉีด Rejuran Healer ลงในจุดที่ต้องการฟื้นฟูด้วยเทคนิคเฉพาะ
  • ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมแดงหลังทำ
  • ให้คำแนะนำเรื่องการดูแลผิวหลังฉีดอย่างเหมาะสม

การดูแลตัวเองฉีด Rejuran Healer เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี

การดูแลตัวเองฉีด Rejuran Healer

การดูแลผิวหลังฉีด Rejuran Healer เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้ขั้นตอนการฉีด เพราะจะช่วยเสริมประสิทธิภาพของตัวยา, ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง, ผิวฟื้นตัวเร็ว และเห็นผลลัพธ์ที่ดี ซึ่งคนไข้สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้ครับ

  • ภายใน 1-2 วันแรก หลีกเลี่ยงการสัมผัสผิวแรง ๆ การนวด ถู หรือกดบริเวณที่ฉีด
  • หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าใน 24 ชั่วโมงแรกหลังฉีด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการระคายเคืองหรือการอักเสบ
  • สามารถล้างหน้าและทาครีมบำรุงได้ตามปกติ โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน
  • หากมีอาการบวมแดงหรือรู้สึกไม่สบายผิว สามารถรับประทานยาแก้ปวด หรือประคบเย็นได้ตามคำแนะนำของแพทย์
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ในช่วง 1-3 วันหลังฉีด เพราะจะรบกวนกระบวนการฟื้นฟูของผิว
  • อยู่ในบริเวณที่อากาศเย็นสบาย เพื่อช่วยลดอาการบวมได้เร็วขึ้น
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นจากภายในสู่ผิว
  • ทาครีมกันแดดที่มี SPF 50 ขึ้นไปเป็นประจำ เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV ที่อาจทำร้ายผิวใหม่ที่กำลังฟื้นฟู

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีด Rejuran Healer

แม้ว่า Rejuran Healer จะเป็นหัตถการที่ปลอดภัยและได้รับการรับรองจากทั้ง อย. ไทย และ KFDA เกาหลี แต่หลังฉีดอาจเกิดอาการข้างเคียงเล็กน้อยที่เป็นเรื่องปกติของการฉีดเข้าสู่ผิวหนัง ได้แก่

  • ตุ่มนูนเล็ก ๆ คล้ายยุงกัดบริเวณที่ฉีด มักหายภายใน 24-48 ชั่วโมง
  • รอยแดงหรือบวมเล็กน้อย อาจเกิดขึ้นทันทีหลังฉีด และมักลดลงเองภายใน 1-2 วัน
  • อาการแสบหรือคันเล็กน้อย บางรายอาจรู้สึกแสบหรือคันบริเวณที่ฉีด ซึ่งหายได้เองในระยะสั้น
  • อาการบวมช้ำจุดเล็ก ๆ สามารถประคบเย็นเพื่อลดอาการได้

📌 หากมีอาการผิดปกติที่ไม่หายภายใน 2-3 วัน หรือมีอาการแพ้รุนแรง เช่น ผื่นลมพิษ หน้าบวม ปวดรุนแรง ควรรีบพบแพทย์ทันที


หลังฉีด Rejuran Healer กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีด Rejuran Healer กี่วันเห็นผล

Rejuran เป็นหัตถการที่เน้นการฟื้นฟูเซลล์ผิวในระดับลึก จึงต้องอาศัยเวลาและความสม่ำเสมอในการฉีดเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนครับ

  • ครั้งที่ 1 : ภายใน 3-5 วันหลังฉีด ผิวจะเริ่มเรียบเนียนขึ้น รู้สึกได้ถึงความชุ่มชื้นที่เพิ่มขึ้น
  • ครั้งที่ 2 : ประมาณ 2-4 สัปดาห์หลังการฉีด จะเริ่มเห็นว่าผิวเด้งขึ้น ริ้วรอยลดลง รูขุมขนกระชับขึ้น
  • ครั้งที่ 3 : ภายใน 4-6 วันหลังฉีด ผิวจะกระชับมากขึ้น ผิวเนียนละเอียด และแข็งแรงขึ้น
  • ครั้งที่ 4 : ภายใน 6-8 วันหลังฉีด จะเริ่มเห็นผลชัดเจน ผิวเรียบ สีผิวสม่ำเสมอ ริ้วรอยลดลง และผิวโดยรวมดูแข็งแรง มีสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

📌 แนะนำให้ฉีดอย่างต่อเนื่อง 4 ครั้ง ห่างกัน 2-3 สัปดาห์ เพื่อผลลัพธ์ที่ยาวนานและชัดเจนที่สุด


Rejuran Healer อยู่ได้นานกี่เดือน ?

หลังฉีด Rejuran Healer ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 6-8 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และการดูแลตัวเองของคนไข้ครับ

หากมีการดูแลผิวอย่างต่อเนื่อง เช่น การใช้ครีมบำรุงผิวที่เหมาะสม การป้องกันแสงแดด และการดื่มน้ำเพียงพอ ก็จะช่วยยืดอายุของผลลัพธ์ให้นานขึ้น


Rejuran Healer ราคาเท่าไหร่ ?

Rejuran Healer ราคา

Rejuran Healer ราคาจะแตกต่างกันตามรุ่น ปริมาณที่ใช้ และมาตรฐานของแต่ละคลินิก โดยที่ V Square Clinic Rejuran Healer ราคาเริ่มต้นที่ 9,900.-/2.7 CC ครับ


คำถามที่พบบ่อย

ต้องฉีด Rejuran กี่ครั้ง ? เว้นระยะห่างเท่าไหร่ ?

  • แนะนำให้ฉีด 3-4 ครั้ง ห่างกันทุก 2-4 สัปดาห์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  • หลังจากครบคอร์สแล้ว สามารถฉีดซ้ำทุก 6-12 เดือน เพื่อคงสภาพผิวให้แข็งแรงและดูอ่อนเยาว์

ฉีด Rejuran เจ็บไหม ?

ขณะฉีดจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยครับ แต่เป็นความเจ็บในระดับที่ทนได้ สามารถขอให้ทางคลินิกแปะยาชาก่อนฉีด เพื่อลดความเจ็บได้ครับ

ผลลัพธ์หลังฉีด Rejuran Healer ผิวเป็นอย่างไร ? ต้องพักฟื้นไหม ?

  • ผลลัพธ์หลังฉีด Rejuran อาจมีตุ่มนูนเล็ก ๆ (คล้ายยุงกัด) มีรอยแดง หรือบวมเล็กน้อย ซึ่งจะหายได้เองภายใน 24-48 ชั่วโมง
  • ไม่มีแผลเปิด ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันที
  • ควรหลีกเลี่ยงแสงแดด การแต่งหน้า และความร้อนจัดในช่วง 24 ชั่วโมงแรก เพื่อให้ผิวฟื้นตัวได้ดีที่สุด
  • แนะนำให้ทาครีมบำรุงและกันแดดอย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมผลลัพธ์

ฉีด Rejuran Healer ร่วมกับเมโสหน้าใสยี่ห้ออื่นได้ไหม ?

โดยทั่วไป แพทย์ไม่แนะนำให้ฉีด Rejuran Healer ร่วมกับกับเมโสหน้าใสยี่ห้ออื่นครับ เพราะอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของตัวยา และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้หรือการอักเสบ

จากประสบการณ์ของแพทย์หลายท่าน พบว่าในบางคลินิกที่มีการผสม Rejuran กับสารอื่น ๆ เช่น วิตามินหรือเมโสบำรุงผิว หลังฉีดอาจมีคนไข้เกิด อาการบวม อักเสบ หรือแพ้อย่างชัดเจน ซึ่งทำให้ไม่สามารถประเมินได้แน่ชัดว่าเกิดจากสารตัวใด

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเต็มประสิทธิภาพที่สุด ควรฉีด Rejuran Healer แยกเดี่ยวโดยไม่ผสมกับสารอื่น และควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้น


สรุป Rejuran Healer ควรค่าแก่การฉีดไหม คุ้มค่าหรือไม่ ?

Rejuran Healer เป็นสกินบูสเตอร์ที่เน้นฟื้นฟูเซลล์ในระดับลึก ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นจากภายใน พร้อมลดริ้วรอยเล็ก ๆ ปรับผิวกระจ่างใส และทนต่อมลภาวะได้ดีขึ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการบำรุงผิวแบบยั่งยืน ไม่ใช่เพียงเติมเต็มผิวชั่วคราวแบบฟิลเลอร์

แม้อาจต้องใช้ระยะเวลาในการเห็นผลและฉีดอย่างต่อเนื่อง แต่ผลลัพธ์ที่ได้ถือว่าคุ้มค่าในระยะยาว โดยเฉพาะเมื่อได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในคลินิกที่ได้มาตรฐานและใช้ตัวยาแท้ผ่าน อย. ไทยครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

ปรึกษาหมอ
Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า